ผู้โดยสารหัวเสีย หลังต้องทนฟังเด็กร้องเสียงดังบนเครื่องบินนาน 8 ชั่วโมง

การต้องทนฟังเสียงเด็กร้องไห้บนระบบขนส่งสาธารณะถือเป็นฝันร้ายสุดๆ สำหรับผู้โดยสารทั้งหลาย โดยเฉพาะเวลานั่งเคร่ื่องบิน เพราะคุณไม่สามารถเลี่ยงได้เลย นอกจากต้องทนฟังจนกว่าเด็กจะหยุดร้องหรือไม่ก็จนกว่าจะถึงปลายทาง

ถ้าเด็กร้องแป๊บๆ เรายังพอเข้าใจได้ แต่สำหรับผู้โดยสารเที่ยวบินที่ต้องบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา พวกเขาต้องทนฟังเด็กกรีดร้องและวิ่งไปวิ่งมานานถึง 8 ชั่วโมง!!

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบนเที่ยวบินจากเยอรมนีไปยังเมืองนวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีเด็กคนหนึ่งนั่งอยู่เหนือเก้าอี้โดยสารและร้องโวยวายตั้งแต่ก่อนเครื่องออกจนเครื่องออก

 

 

ทั้งนี้ Shane Townley ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ข้างหลังเด็กชาย ได้บันทึกวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ และอัปโหลดลงยูทูบพร้อมคำอธิบายว่า “เด็กเปรต”

 

 

Shane Townley

 

ในคลิปนั้น Shane ยังได้เขียนบอกอีกว่า “เด็กชายคนนี้ร้องเสียงดังและวิ่งไปทั่วเครื่องบิน ในขณะที่ผู้เป็นแม่ไม่ค่อยมีทีท่าว่าจะห้ามลูกเท่าที่ควร”

“เด็ก 3 ขวบบนเที่ยวบิน 8 ชั่วโมงจากเยอรมนีไปยังนวร์ก เขาไม่เงียบเลย!”

 

 

ทั้งนี้ก่อนเครื่องบินออก ผู้เป็นแม่ได้ขออนุญาติพนักงานบนเครื่องว่าขอใช้ไวไฟกับ iPad เพื่อที่จะควบคุมลูก แต่แทนที่เด็กชายจะทำตามคำสั่งของแม่ เขากลับเป็นอย่างที่เห็นในคลิป บางครั้งก็ออกจากเก้าอี้ตัวเองและวิ่งไปตามทางเดิน

ส่วนผู้โดยสารคนอื่นๆ ต้องพยายามปิดหูด้วยความรำคาญ กระทั่งเด็กกลับไปนั่งบนที่ตัวเอง ทุกคนเกือบจะโล่งใจแล้วเชียว แต่ดันไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะยังคงส่งเสียงดังไม่หยุด

 

 

กระทั่งถึงที่หมาย เห็นได้ชัดว่าผู้โดยสารส่วนใหญ่รู้สึกดีใจมาก มีผู้โดยสารคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “นี่มันฝันร้ายชัดๆ โอ้พระเจ้า ทำไมฉันต้องทนฟังเสียงกรีดร้องถึง 8 ชั่วโมง”

ทางด้านชาวเน็ตเมื่อได้ดูคลิปวิดีโอนี้ ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา บางคนบอกว่าเด็กและพ่อแม่ควรจะถูกเชิญออกจากเครื่องตั้งแต่แรก เพ่ื่อเห็นแก่ผู้โดยสารคนอื่นๆ

 

 

ชาวเน็ตคนหนึ่งบอกว่า “นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเครื่องบินครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งเด็กเกเร ทารก ไหนจะพ่อแม่ที่ดูแลลูกไม่ได้อีก”

และมีคนอื่นๆ คอมเมนต์อีกว่า…

“เสียงดังขนาดนี้ แม้แต่หูฟังที่ตัดเสียงรบกวนก็ช่วยไม่ได้หรอก”

“เมื่อทำตามกฎระเบียบไม่ได้ ลูกเรือควรจะเชิญเด็กคนนี้และพ่อแม่ของเขาลงจากเครื่องนะ”

“ให้ตายเถอะ เรียกหมอผีมาปราบที”

 

 

อีกด้านหนึ่ง หลายคนรู้สึกเห็นอกเห็นใจแม่ที่ต้องเผชิญกับความอับอายเมื่อลูกแสดงพฤติกรรมแบบนั้น แต่ถึงจะแก้ตัวยังไงก็คงฟังไม่ขึ้น แต่แน่นอนว่าผู้โดยสารเที่ยวบินนี้คงจะไม่มีวันลืมฝันร้าย 8 ชั่วโมงนี้เลย

 

ที่มา ladbibledailymail

Comments

Leave a Reply