หญิงกลางคนวัย 45 ปีั Michelle Myers จากเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ป่วยเป็นโรค Foreign Accent Syndrome ที่ทำให้การพูดของเธอมีสำเนียงเพี้ยนไปเป็นสำเนียงต่างชาติ เช่น บริติช ออสเตรเลียน และไอริช ทั้งที่เธอไม่เคยออกจากสหรัฐอเมริกาเลย
ในปี 2015 เธอเข้ารับการวินิจฉัยด้วยอาการที่แปลกประหลาด หลังจากที่เธอเข้านอนพร้อมอาการ “ปวดหัวรุนแรง” และเมื่อเธอตื่นขึ้นมา เธอกลับไม่สามารถพูดได้รวมไปถึงรู้สึกชาไปทั้งด้านซ้ายของร่างกาย
เธอจึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในละแวกใกล้เคียง ซึ่งก็คือโรงพยาบาล West Valley ในเมืองกู๊ดเยียร์ ที่นั่นแพทย์บอกว่าเธอมีอาการของ ภาวะเสียการสื่อความ (Aphasia) ที่ทำให้เธอสื่อสารไม่ได้ เป็นอาการที่เกิดจากสมองได้รับความบาดเจ็บหรือการกระทบกระเทือน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผลการวินิจฉัยจะออกมาดังกล่าว เธอก็สามารถกลับมาพูดได้อีกครั้ง
“ฉันต้องการจะพูดว่า ‘ฉันชื่อ Michelle นะ’ แต่มันกลายเป็นว่าฉันพูดว่า ‘กระต่าย หมาป่า…’” Myers กล่าว “ไม่มีใครเข้าใจฉันได้เลย ฉันเลยสงสัยเกิดอะไรขึ้นกับสมองฉันกันแน่”
แต่สุดท้ายคำพูดของเธอก็เรียงเป็นประโยคได้อีกครั้ง ทว่ากลับมีบางอย่างแปลกไป นั่นก็คือ “สำเนียง” ของเธอนั่นเอง Michelle ถึงแม้ว่าเธอจะเกิดในโอกลาโฮมา แต่สำเนียงของเธอขณะนั้นกลับฟังดูเหมือนเธอมาจากประเทศอังกฤษ ซึ่งทำให้แพทย์ต้องตกใจ
นักจิตวิทยาจึงเข้ามาทำการทดสอบเธอเพื่อวินิจฉัยอาการ เธอถูกวินิจฉัยว่ามีอาการของ Foreign Accent Syndrome ที่แปลว่า โรคสำเนียงเพี้ยน ซึ่งเป็นอาการที่พบได้ยาก จากปี 1907 มีบันทึกว่ามีผู้ป่วยในอาการนี้เพียง 60 รายเท่านั้น
สำเนียงของเธอเริ่มเปลี่ยนในเดือนพฤษภาคม ปี 2015 ไม่ว่าเธอจะเข้าพบผู้เชี่ยวชาญหรือนักประสาทวิทยาก็ไม่ช่วยให้อาการของเธอดีขึ้น เธอกล่าวว่าอาการของเธอนั้นรับมือได้ยากโดยเฉพาะช่วงแรก ที่มักมีคนแซวเธอว่า “เธอพูดเหมือนเป็นสมาชิกวง Spice Girls (วงดนตรีหญิงชาวอังกฤษ) เลยแน่ะ”
แต่ Michelle ก็เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่กับความผิดปกตินี้ เธอคิดว่าเธอต้องมีสำเนียงบริติชไปตลอด และปัจจุบันเธอก็ได้เผยแพร่อาการแปลกๆ ของเธอนี้สู่สังคมเพื่อเป็นอุทาหรณ์
“ฉันจะทำทุกทางให้กลับมาเป็นปกติให้ได้” เธอกล่าว “โรคนี้มันกระทบกระเทือนความรู้สึกฉันมาก คุณจะรู้สึกเปล่าเปลี่ยวและโดดเดี่ยว ฉันอยากจะช่วยผู้คนให้พวกเขาไม่ต้องกลบซ่อนอีก ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันเล่ามันฟังดูบ้าบอ แต่คุณลองไปค้นหาดู ฉันไม่ใช่คนแรกที่เป็นโรคสำเนียงเพี้ยนหรอกนะ”
เป็นสิ่งที่น่าสนใจมากที่ว่าการเปลี่ยนสำเนียงของ Myers ในปี 2015 นั้นนาวนานที่สุดเลย แต่มันก็ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะในปี 2011 เธอก็ได้มีอาการปวดหัวรุนแรงต่อเนื่องถึง 3 วัน และวันหนึ่งเธอก็ตื่นนอนขึ้นมาพบว่าเธอมีสำเนียงไอริช (ไอร์แลนด์)
เริ่มแรกครอบครัวของเธอคิดว่าเธอแกล้ง ทว่าหลังจากนั้นพวกเขาก็สังเกตเห็นได้ถึงความตื่นตระหนกของเธอ แต่ถือว่ายังโชคดีที่สุดท้ายสำเนียงไอริชนั้นก็หายไป “มันใช้เวลา 8 วัน” Myers นึกขึ้นมาได้ “ขณะที่ฉันตื่นขึ้นในเช้าวันหนึ่ง อาการฉันดีขึ้น และตอนบ่ายๆ มันก็หาย รวมถึงอาการปวดหัวก็หายไปด้วย”
จากนั้นในปี 2014 อาการดังกล่าวเกิดขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ Michelle นั่งอยู่บนโซฟามองดูลูกๆ ของเธอ เธอก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างฉับพลัน เธอหลับตาลง 2-3 นาที แต่พอลืมตาขึ้นมาแล้วนั้น ทั้งตัวเธอกลับเจ็บปวด รู้สึกชาที่มือซ้าย และเธอก็พูดไม่ได้ เสียงที่เธอทำออกมาได้มีเพียงเสียงคล้ายกลั้วลำคอเท่านั้น
สุดท้ายเมื่อเธอกลับมาพูดได้ สำเนียงเธอก็ฟังดูเหมือนเป็นชาวออสเตรเลีย ซึ่งสำเนียงนี้อยู่กับเธอ 2 วันก่อนจะหายไป และในปีถัดมาก็ตามมาด้วยสำเนียงบริติชซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่กับเธอไปตลอดชีวิต
มารู้จัก Michelle Myers ผ่านวิดีโอนี้กัน…
“ฉันมีครอบครัวและเพื่อนๆ ที่แสนดี ที่คอยช่วยให้ฉันรู้ตัวเสมอว่าฉันยังเป็นคนเดิม แต่แค่พูดไม่เหมือนเดิมเท่านั้นเอง” Michelle Myers กล่าว “บางครั้งฉันนั่งดูวิดีโอเก่าๆ ของฉัน แล้วมันก็ทำให้ฉันน้ำตาไหล”
ที่มา: Odditycentral
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.