การที่น้ำตาของคนเราไหลออกมา ไม่ได้เกิดจากอารมณ์โศกเศร้าเสียใจเสมอไป แต่อาจจะเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น เจ็บปวด ความสบายใจ ความโกรธ หรือแม้แต่ความสุข ก็อาจทำให้มีน้ำตาไหลออกมาได้เช่นกัน
แต่ทุกท่านทราบหรือไม่ว่า น้ำตาที่ไหลออกมา ถึงแม้จะออกมาเหมือนๆ กัน แต่มันมีผลึกภายในที่แตกต่างกันมากๆ เลยล่ะ ช่างภาพนามว่า Rose-Lynn Fisher จึงได้สร้างโปรเจกต์ Topography of Tears ที่ใช้กล้องจุลทรรศน์ถ่ายภาพ “ผลึก” หยดน้ำตาของมนุษย์ที่เกิดจากอารมณ์ต่างๆ ออกมา
เธอนำหยดน้ำตาของเธอมาหยดลงบนแผ่นสไลด์ ทำให้มันแห้ง แล้วส่องผ่านกล้องจุลทรรศน์ “มันน่าสนใจมาก มันดูเหมือนกับภาพถ่ายทางอากาศ ราวกับว่าฉันมองจากบนเครื่องบินลงมายังภูมิทัศน์ของพื้นดินแน่ะ” เธอกล่าว
และเธอก็กล่าวอีกว่า “ในที่สุดฉันก็สงสัยว่า น้ำตาจากความเศร้าโศกนั้นมันแตกต่างจากน้ำตาจากความสุขหรือเปล่านะ? และมันจะเป็นยังไงถ้าเอาไปเทียบกับน้ำตาที่เกิดจากหัวหอม?”
น้ำตาแห่งการหัวเราะอย่างหนัก
น้ำตาแห่งการเปลี่ยนแปลง
ในเชิงวิทยาศาสตร์ น้ำตาถูกจัดประเภทออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ตามวิธีการเกิดของมัน ชนิดแรกก็คือ Psychic Tears เป็นน้ำตาที่เกิดจากอารมณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะทางลบหรือทางบวก
ชนิดที่สองคือ Basal Tears คือน้ำตาที่ไหลต่อเนื่องทีละนิดๆ เพื่อทำหน้าที่หล่อลื่นดวงตา และชนิดสุดท้ายก็คือ Reflex Tears คือน้ำตาที่เกิดจากการตอบสนองต่อสิ่งก่อความระคายเคืองให้ดวงตา เช่น หัวหอม ฝุ่นผง หรือแก๊สน้ำตา เป็นต้น
น้ำตาแห่งความโศกเศร้า
น้ำตาจากหัวหอม
น้ำตาหล่อลื่น Basal Tears
น้ำตาทั้ง 3 ชนิดมีสสารทางชีววิทยาที่หลากหลาย แต่ Fisher พบว่าน้ำตาแต่ละชนิดนั้น มีองค์ประกอบที่แตกต่างกันในระดับโมเลกุล เช่น น้ำตาที่เกิดจากอารมณ์นั้นจะประกอบขึ้นจากฮอร์โมนโปรตีนเป็นพื้นฐาน รวมไปถึงสารสื่อประสาท Leucine Enkephalin ที่ทำหน้าที่เป็นยาแก้ปวดทางธรรมชาติซึ่งก่อตัวขึ้นเมื่อร่างกายมนุษย์เกิดความเครียด
น้ำตาแห่งการพบกันใหม่
น้ำตาแห่งจุดจบและการเริ่มต้นใหม่
น้ำตาจากการเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนทิศทาง
น้ำตาแห่งการปลดปล่อย
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยเหตุที่ว่าโครงสร้างน้ำตาซึ่งถูกมองผ่านกล้องจุลทรรศน์นั้นเป็นเหมือนผลึกเกลือขนาดใหญ่ สภาพการณ์ของน้ำตาที่แห้งจึงแตกต่างกันในเรื่องของรูปแบบและการก่อตัว
น้ำตาจากอารมณ์ที่ก่อตัวขึ้นด้วยสารเคมีชนิดเดียวกันทั้งหมด อาจดูแตกต่างกันได้เมื่อส่องดูใกล้ๆ “น้ำตาเหล่านี้มีความหลากหลาย มันแตกต่างกันจากทั้ง สารเคมี ความข้นเหนียว สภาพแวดล้อม อัตราการระเหย หรือแม้แต่การตั้งกล้องจุลทรรศน์ก็ตาม” Fisher กล่าว
น้ำตาจากการมีหวัง
น้ำตาจากความอิ่มเอมใจ
น้ำตาจากการระลึกถึง
จากการศึกษาผลึกน้ำตามาเป็นเวลานาน ทำให้ Fisher เชื่อว่าน้ำตาเป็นมากกว่าน้ำและเกลือที่เราปลดปล่อยออกมาในช่วงเวลาที่ยากเข็ญ “น้ำตาเป็นสื่อกลางของสิ่งที่ต้องการสื่อสารออกไปในช่วงเวลาที่ยากจะทำใจ เช่น การเสียชีวิต มันเป็นรากฐานของมนุษย์เช่นเดียวกันความหิว และเป็นอะไรที่ซับซ้อนเหมือนกับการทำพิธีการส่งวิญญาณผู้เสียชีวิต” เธอกล่าว
และเธอยังกล่าวอีกว่า “ราวกับว่าน้ำตาที่ไหลออกมาแต่ละครั้งได้นำพาโลกใบเล็กๆ ที่เป็นประสบการณ์ร่วมของมนุษย์ออกมาด้วยเลย ประมาณว่า เป็นหยดน้ำหนึ่งจากมหาสมุทร”
ถ้าหากใครต้องการทราบข้อมูลต่างๆ หรือรับชมผลงานชิ้นอื่นๆ ของ Rose-Lynn Fisher ล่ะก็ สามารถเข้าไปติดตามได้ ที่นี่
ที่มา: Smithsonianmag, Lifebuzz, และ Rose-Lynnfisher
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.