ความตายเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ สิ่งที่ทำได้ก็มีแค่เพียงยอมรับและพยายามรักษาตัวให้อยู่ได้นานที่สุด ไม่ใช่เพื่อเฉพาะแค่ตัวเรา แต่เพื่อครอบครัวและคนรอบข้างด้วย
ในข่าวนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวการเชิญคนแปลกหน้ามายังสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นสถานที่เตี๊ยมกันไว้จัดงานศพของพวกเขานั่นเอง
การทำแบบนี้ก็เพื่อจะเตือนสติคนที่ขับรถเร็ว ว่าการที่พวกเขาขับรถเร็ว หากมันเกิดอุบัติเหตุและถ้าพวกเขาเสียชีวิตไป ครอบครัวและคนรอบตัวจะรู้สึกอย่างไร
เหตุการณี้เกิดขึ้นในประเทศเบลเยียม คนแปลกหน้าห้าคนได้ถูกเพื่อนๆ ของเขานัดมาพบในสถานที่หนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่จัดฉากไว้ เมื่อพวกเขาเดินเข้ามาก็ต้องแปลกใจกับสถานที่เพื่อนของเขานัดมาเจอมันกลับกลายเป็นงานศพ
พวกเขาทั้งห้าคนถูกบันทึกภาพโดยกล้องที่ถูกซ่อนไว้ในที่ต่างๆ
เมื่อเข้ามาถึงสถานที่นัดหมายเรียบร้อย แต่ละคนก็ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้เขางุนงง พวกเขาไม่รู้เลยว่าทำไมเพื่อนของเขาถึงนัดพวกเขามาเจอที่นี่
มันควรจะเป็นความสนุกสนานที่ได้นัดพบกับเพื่อนๆ สิ แต่ทำไมมันถึงกลายมาเป็นงานศพไปได้ ทั้งห้าคนที่มาถึงแล้วก็จะถูกเชิญให้เข้าไปนั่งโดยที่ไม่ทันได้ถามอะไร
และเมื่อโดนจับเข้ามานั่งในงานแล้ว สิ่งแรกที่แต่ละคนทำ คือการมองไปรอบๆ ห้องที่เต็มไปด้วยคนแปลกหน้า แต่ก็ไม่นานนักพิธีการก็ได้เริ่มต้นขึ้น
.
เจ้าหน้าที่ได้เริ่มพิธีและเริ่มพูดถึงผู้เสียชีวิตว่า “เธอเพิ่งจะได้เริ่มต้นชีวิตแท้ๆ แต่ก็ต้องมาตายเสียได้ ความตายอาจจะเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ยาก แต่มันก็คือส่วนหนึ่งในชีวิตเรา พวกเรามาใช้เวลาระลึกถึงเธอกันเถอะ” และเขาก็เรียกให้คนบางคนในฝูงชนออกมาข้างหน้า
และในตอนนั้นเอง Mélanie ก็รู้สึกตงิดใจ เธอเห็นคนที่เธอรู้จักดีเดินออกไปยืนหน้างาน เธอก็เลยสงสัยว่านี่เป็นงานศพของคนที่เธอรู้จักเหรอ? ทำไมเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลย
.
คนที่เธอรู้จักดีในที่นี้ก็คือพ่อของเธอนั่นเอง เมื่อเขาเดินไปถึงที่แท่นและเริ่มพูดได้ไม่นานนัก แต่คำที่เขาพูดออกมามันทำให้ Mélanie ถึงกลับต้องหลั่งน้ำตา
เพราะพ่อของเธอเล่าถึงเรื่องที่มีคนโทรเข้ามาหาเขาเมื่อคืนนี้ เขาคิดว่าคงเป็นสายของ Mélanie ลูกสาวของเขา แต่แทนที่จะเป็นเสียงของลูกสาว กลับเป็นเสียงที่ไม่มีใครอยากได้ยิน มันคือเสียงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่โทรมาบอกว่าลูกสาวของเขาได้จากไปแล้ว
.
ในเวลานั้น Mélanie ก็ตระหนักถึงความจริงที่น่ากลัว ว่าที่เธอถูกนัดมาเจอที่นี่ มันคืองานศพของตัวเอง และทุกคนในที่แห่งนี้มารวมตัวกัน ก็เพื่อจะทำให้เธอและเพื่อนๆ ของเธอตระหนักถึงความสำคัญของชีวิตตนเอง
Mélanie ร้องไห้อย่างเจ็บปวดกับคำพูดของพ่อของเธอ ซึ่งเหมือนกับคนอื่นที่ถูกหลอกให้มาเข้าร่วมงานศพของตัวเอง และต้องเฝ้ามองคนที่พวกเขารักขึ้นมากล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับเรื่องราวของพวกเขา
.
การเชิญแต่ละคนมาร่วมงานศพตัวเองไม่ได้เชิญมาแบบสุ่มๆ แต่ทั้งห้าคนมีสิ่งที่เหมือนกันคือชอบขับรถไว ครอบครัวของพวกเขาจึงกลัวว่าหากไม่เตือนพวกเขาสักหน่อย ครอบครัวอาจจะต้องจัดงานศพจริงๆ ให้กับพวกเขาแทนงานศพปลอมๆ แบบนี้ก็เป็นได้
ต่อมาเป็นคิวแม่กับพี่สาวของชายหนุ่มที่ชื่อว่า Brice พวกเธอร้องไห้ขณะที่ขึ้นไปพูดเกี่ยวกับการสูญเสียเขาไป พวกเธอพูดว่า “เขาออกไปซิ่งบนถนนอีกแล้วและครั้งนั้นคือครั้งสุดท้ายของเขา” ทำเอา Brice แทบจะรับไม่ไหว
เขาเลือกที่จะอดทน สงบเสงี่ยม ตลอดเวลาที่แม่กับพี่สาวเขากล่าว แต่สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหว เมื่อแม่ของเขามองมาที่เขาและพูดว่า “ได้โปรดฟังแม่หน่อย ขับรถช้าๆ ลงหน่อยได้ไหม อย่าทิ้งแม่ไปเลยนะเจ้าลูกชาย แม่รักลูกนะ”
.
ต่อมาเป็นตาของครอบครัวและเพื่อนๆ ของ Kim โดยที่พี่สาวได้กล่าวว่า “Kim ตอนนี้ฉันก็ยังคงอยากจะขอเธออยู่นะ ได้โปรดขับรถอย่างระมัดระวังหน่อย พี่ไม่อยากเสียเธอไป”
การจัดฉากของโครงการนี้คืิอความตั้งใจของหน่วยงานในเบลเยียม ที่ได้ทำออกมาเพื่อจะให้ประชาชนตระหนักถึงความอันตรายของการขับรถเร็ว และอยากให้ทราบถึงความรู้สึกของคนรอบข้างว่าหากพวกเขาเป็นอะไรไป หลายๆ คนจะรู้สึกอย่างไร
.
โดยที่โครงการนี้มีสโลแกนว่า “ขับรถเร็วมาก จนจากกันเร็วเกินไป” และเมื่อวิดีโอถูกอัปโหลดขึ้นโลกออนไลน์ มันไม่ได้ทำให้เพียงแค่คนเบลเยียมตระหนักเท่านั้น มันสามารถทำให้คนทั้งโลกตระหนักได้
แม้วิดีโอนี้จะถูกอัปโหลดตั้งแต่ปี 2014 แต่ก็ยังมีคนชมอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ เรียกได้ว่ามันเป็นวิดีโอที่สามารถส่งข้อความที่ทรงพลังมากจนทำให้หลายๆ คนตระหนักถึงการขับรถและการใช้ชีวิต
.
ชมวิดีโอที่เรากล่าวถึงกันครับ
ที่มา Boredomtherapy, 20Something
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.