คุณอาจจะมี ‘ฝาแฝด’ อยู่ที่มุมใดมุมหนึ่งของโลกใบนี้ ถ้าไม่เชื่อเดี๋ยวจะพิสูจน์ให้ดู

เพื่อนๆ เคยพบเหตุการณ์ที่ไปเจอคนที่หน้าเหมือนตัวเองอย่างกะฝาเแฝดบ้างไหมครับ บางคนอาจจะคิดว่ามันก็แค่บังเอิญเป็นคนหน้าเหมือนเฉยๆ แต่จริงๆ แล้ว คนๆ นั้นอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับคุณก็เป็นไปได้

เหมือนอย่าง Neil Douglas ผู้ที่เดินทางด้วยเครื่องบินไปยังประเทศไอร์แลนด์เพื่อร่วมงานแต่ง แต่เขาก็ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยจะได้เจอ เพราะเขาเจอกับคนแปลกหน้าที่หน้าเหมือนกับเขาเอามากๆ

 

 

Neil กล่าวว่า “ผมขึ้นเครื่องบินเป็นลำดับสุดท้าย และผมเห็นมีคนนั่งอยู่ในที่นั่งผม ผมเลยบอกให้เขาช่วยขยับออกไปหน่อย และพอเขาหันมาเท่านั้นแหละ กลายเป็นผมเห็นหน้าตัวเองหันมาซะงั้น แล้วคนทั้งเครื่องบินก็มองมาที่พวกเราและหัวเราะชอบใจกันใหญ่เลย”

แต่จริงๆ แล้วฝาแฝดที่เขาเจอบางทีไม่ใช่เพียงแค่คนแปลกหน้าที่บังเอิญหน้าเหมือนเฉยๆ ก็เป็นได้ เพราะหลังจากนี้พวกเขายังไปเจอกันที่กันที่โรงแรมและที่อื่นๆ อีกด้วย ดังนั้นเรื่องที่เราจะมีฝาแฝดอยู่ในซักมุมหนึ่งในโลกนี้อาจไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป

และเพื่อพิสูจน์ว่าการเจอฝาแฝดไม่ใช่เรื่องบังเอิญพวกเราจึงหาเหตุผลมาสนับสนุนทฤษฏีอยู่ 2 ข้อได้แก่

 

 

1. มีเพียง 0.1% ของจีโนมหรือข้อมูลทางพันธุกรรมเท่านั้นที่จะทำให้เรามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เหตุผลข้อแรกจะพูดถึงข้อเท็จจริงที่ว่า 99.9% ของข้อมูลพันธุกรรมของคุณจะต้องไปเหมือนกับใครสักคนหนึ่งในโลกนี้แน่ๆ มีเพียง 0.1% ที่เหลือเท่านั้นที่จะเป็นตัวบ่งบอกเอกลักษณ์ประจำตัวของเราได้ และนี่จะสามารถอธิบายว่าทำไมคนดังทั้งหลายถึงมีข่าวลือว่าพวกเขามีฝาแฝดด้วย

แน่นอนว่ามันมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากที่คุณจะเจอกับฝาแฝดตัวเอง แต่โอกาสก็ไม่ใช่ 0% หากพูดตามหลักวิชาการแล้วในคนเจ็ดพันล้านคน มันจะมีคนหนึ่งที่มี DNA คล้ายกับอีกคนอย่างมีนัยสำคัญ หากจะให้ยกตัวอย่าง เราจะมาฟังเรื่องของ Valeriy Panushkin นักข่าวชาวรัสเซียที่เล่าเกี่ยวกับบริจาคไขกระดูกกันนะครับ

“หากไขกระดูกของคุณเข้ากันได้กับคนบางคนที่ต้องการรับบริจาคไขกระดูกอยู่ คุณจะถูกคุณหมอโทรมาถามว่าคุณอยากจะพบกับผู้รับหรือไม่ หากทั้งสองฝั่งตกลง เขาก็จะให้พวกคุณได้พบกัน”

 

 

“ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ผมได้นัดพบกับเพื่อนของผม คุณหมอ Mikhail Maschan กับกลุ่มเด็กๆ รัสเซียห้าหรือหกคนที่เป็นคนไข้ของเขา เด็กกลุ่มนี้คือคนที่รอรับการปลูกถ่ายไขกระดูกจากคนที่ไม่ใช่ญาติ ซึ่งพวกเขากำลังกินเค้กและรอคนที่จะมาบริจาคอยู่”

“และเมื่อประตูห้องเปิดก็มีผู้หญิงวัยประมาณ 30 ปีเดินเข้ามา เธอดูเหมือนจะค่อนข้างสับสน เธอไม่รู้ว่าที่เธอเข้ามามันคือสถานที่อะไร”

“เมื่อ Mikhail เห็นเธอ เขาก็ถึงกับอุทานว่า ‘โอ้พระเจ้า! นั่นเป็นไปไม่ได้!’ เพราะผู้หญิงผมบลอนด์คนนั้นดูเหมือนกับหนึ่งในคนไข้ของเขาคนหนึ่ง เหมือนมากจนคิดว่าพี่สาวน้องสาวได้เลย มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มองแค่ครั้งเดียวก็รู้แล้วว่าผู้หญิงคนนั้นกับหนึ่งในคนไข้ DNA ต้องเข้ากันได้แน่นอน”

“Mikhail เดินเข้าไปหาเธอ ถามชื่อของเด็กที่เธอกำลังมองหา และแน่นอนว่าเด็กสาวที่เธอกำลังหานั้นเป็นคนเดียวกันกับที่เราคิดไว้ จากนั้น Mikhail ก็แนะนำตัวเองว่าเขาคือหมอที่รับหน้าที่ปลูกถ่ายไขกระดูก เขาพาผู้หญิงเข้าไปแนะนำเธอกับเด็กสาวที่รอเธอมาตลอด”

“คุณผู้หญิงเข้าไปพูดบางอย่างเป็นภาษาอังกฤษกับเด็กสาว และเมื่อเธอเห็นเด็กสาวชัดๆ เธอก็ต้องตกตะลึงจนตัวแข็ง และหลุดอุทานเบาๆ เป็นภาษาเยอรมันว่า ‘Mein Gott! Das bin doch ich als Kind’ ที่แปลว่า ‘โอ้พระเจ้า นั่นมันฉันตอนเด็กชัดๆ’”

 

 

2. คุณกับฝาแฝดต้องเป็นญาติกันแบบห่างๆ (ห่างมากๆ) เป็นแน่แท้

หากคุณตั้งคำถามแบบไม่ได้มองเกี่ยวกับเรื่องพันธุศาสตร์ แต่มองในมุมมองเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ เมื่อนั้นฝาแฝดที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนของคุณก็จะมีความเกี่ยวข้องกับคุณได้แบบง่ายๆ ลองมาคำนวณดูแบบต่ำๆ ว่าคนคนหนึ่งจะมีญาติ 2 คนในหนึ่งรุ่นตระกูล เมื่อเวลาผ่านไป 8 ชั่วอายุคน คุณก็จะมีญาติมากกว่า 250 คน

และภายใน 30 ชั่วอายุคน จำนวนของญาติจะเพิ่มขึ้นมามากกว่า 1 ล้านคน ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยถ้าหากคุณบังเอิญไปเจอญาติห่างๆ ของคุณที่หน้าตาเหมือนกันเป๊ะๆ

 

 

และถ้าหากเพื่อนๆ อยากจะเจอคนๆ หนึ่งจากเจ็ดพันล้านคนบนโลกนี้ เพื่อนๆ สามารถเข้าไปลงรูปในเว็บไซต์ Twinstrangers เพื่อหาฝาแฝดของเพื่อนๆ ได้เลยครับ ไม่แน่อาจจมีฝาแฝดของคุณอยู่มุมใดมุมหนึ่งของโลกก็เป็นได้

 

ที่มา Brightside

Comments

Leave a Reply