เหตุเพราะแผ่นดินยุบ หนุ่มเลยรู้ว่าบ้านของตัวเองมี ‘ห้องใต้ดินลับ’ จากช่วง WWII ซ่อนอยู่

เหตุการณ์ไม่คาดฝันคือเหตุการณ์ที่เราไม่ได้คิดถึงมาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้น ถ้ามันเกิดขึ้นมาแผนการที่เราวางเอาไว้ อาจจะต้องถูกเลื่อนหรือถูกยกเลิกทั้งหมด

เหมือนอย่างผู้ชายคนนี้ Simon Marks ชาวอังกฤษผู้ซึ่งต้องยกเลิกการพักผ่อนและแผนการทั้งหมดที่วางเอาไว้ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เพราะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อลานจอดรถของเขาได้ยุบตัวขณะที่เขาได้กำลังเลื่อนรถของเขาออก แต่เมื่อเขาได้ลงมือซ่อมมัน เขาก็ได้เจอกับห้องลับที่ซ่อนอยู่ใต้บ้านมาแสนนาน

 

โฉมหน้าของชายสุดซวย Simon Marks เขาโอดครวญว่าการที่ลานจอดรถมันยุบตัวลง มันทำลายวันหยุดของเขาลงหมดเลย

 

จากที่มีแผนว่าจะออกไปข้างนอกตอนบ่าย เขากลับต้องมานั่งเอารถ Vauxhall Zafira ออกจากลานจอดรถให้ได้เสียก่อน และพอนำรถออกมาได้แล้ว เขาก็พบว่าความเสียหายหมดเยอะเหลือเกิน

 

เขาเจอกับหลุมคอนกรีตอยู่ภายใต้บ้านของเขา เขาตัดสินใจส่งรูปของความเสียหายที่เกิดจากล้อรถไปให้พ่อของเขา Gerald ได้ดู และพ่อก็ตอบกลับมาว่า “พ่อกลัวว่าสักวันบ้านทั้งหลังมันจะหายไปด้วย”

 

และเมื่อมามองดูใกล้กับความเสียหายแล้ว เขาก็ตระหนักได้ว่ามันอาจจะมีอะไรที่มากกว่าหลุมธรรมดาหรือการวางโครงสร้างที่ไม่ดี เขาเริ่มที่จะรื้อแผ่นคอนกรีตที่แตกออกทั้งหมด และตอนนั้นเองเขาก็ต้องตะลึงกับสิ่งที่เขาได้เห็น

 

มันคือทางลงไปสู่ความมืดมิดกับบันไดเก่าๆ เขาคิดว่าข้างล่างมันต้องเต็มไปด้วยอุปสรรคและอาจจะมีขุมทรัพย์อยู่ และเขากับพ่อก็เริ่มที่จะขุดดินขึ้นมา

 

พวกเขาไม่มีได้มีเครื่องมือที่ครบครันทันสมัยหรือเครื่องจักรที่คอยให้ความช่วยเหลือในการขุดค้นครั้งนี้ สิ่งที่พวกเขามีก็เพียงแค่พลั่วและถังขุดดินเท่านั้น กับในหลุมที่เต็มไปด้วยดิน

 

ทั้งคู่ขุดและขุดไปเรื่อยๆ กองดินที่ขุดขึ้นมาก็เริ่มใหญ่ขึ้นๆ น่าแปลกที่การสำรวจพื้นที่ใต้ดินครั้งไม่มีวี่แววที่จะเจออะไรเลย มันเป็นเพียงแค่พื้นที่ว่างก่อนที่บ้านจะถูกสร้างขึ้นเท่านั้น

 

ไม่นาน Simon และ Gerald ก็ได้ขุดกองดินไปแล้วกว่า 150 เซนติเมตร มากพอที่จะทำให้พวกเขาลงไปคุกเข่าในนั้นได้ และเมื่อเข้าไปสำรวจที่พื้นแล้ว Gerald ก็มีลางสังหรณ์ว่าที่นี่คืออะไร แต่เขาคิดว่าต้องเห็นมากกว่านี้ถึงจะแน่ใจ

 

ชายสองคนตัดสินใจปีนบันไดลงไป ซึ่งก็ยังไม่แน่นอนว่าพวกเขาจะเจออะไร และเมื่อพวกเขาลงมาถึงพื้นที่ว่างและลงเดินได้ พวกเขาได้สำรวจไปรอบๆ และก็ต้องเจอกับอะไรบางอย่างที่ไม่ปกติ

 

ที่หน้าของพวกเขามันคือประตูแปลกๆ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่ามันจะปลอดภัยรึเปล่าหากเข้าไปข้างในห้องลับห้องนั้น และ Simon ก็ได้เล่นเล่นมุขตลกว่า “ผมมีไม้เซลฟี่นะ”  ว่าแต่มันจะมีอะไรอยู่ภายในกันนะ

 

ในขณะเดียวกันที่เจอประตูนี้ ลางสังหรณ์ของ Gerald คือเรื่องถูกต้อง “เมื่อพ่อของผมได้เห็นก็พูดทันทีเลยว่ามันคือหลุมหลบภัยการโจมตีทางอากาศ และเมื่อเราไปค้นในกูเกิลก็เจอมันมีหลงเหลืออยู่ในแถบนี้จริงๆ” Simons กล่าว

 

หลังจากที่ทำการค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับมัน Simon ก็สันนิษฐานว่าหลุมหลบภัยนี้ถูกสร้างขึ้นในระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อให้ประชาชนได้หลบภัยการทิ้งระเบิดจากฝ่ายอักษะ

 

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง Luftwaffe หรือกองทัพสงครามทางอากาศของเยอรมนีได้ทำการทิ้งระเบิดอย่างแม่นยำใส่สหราชอาณาจักรและเหล่าพันมิตร พวกเขาทิ้งระเบิดใส่ลิเวอร์พูล เบอร์มิงแฮมและบางส่วนของลอนดอน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของ Simon เลย

 

การโหมทิ้งพายุระเบิดครั้งนั้นทำให้เหล่าพลเมืองและเจ้าหน้าที่ต้องรีบสร้างที่หลบภัยสำหรับระเบิดในทันที ในตอนแรกสถานทีรถไฟใต้ดินและห้องใต้ดินถูกใช้เป็นที่หลบภัย และในยุค 1940 ถึงได้มีการสร้างหลุมหลบภัยขึ้นมา

 

และเมื่อมีท่าทีที่จะถูกโจมตีด้วยระเบิด เจ้าหน้าที่ก็จะเปิดสัญญาณเตือนทางอากาศว่ากำลังจะมีระเบิดมา ซึ่งจะแจ้งให้เหล่าพลเมืองรีบเข้าไปในหลุมหลบภัยทันที ในหลายๆ หลุมได้เสริมความแข็งแรงด้วยก้อนอิฐ เหมือนที่เห็นในใต้บ้านของ Simon

 

หลุมหลบภัยที่อยู่ใต้บ้าน Simon สิ่งที่ถูกซ่อนอยู่ในห้องลับนั้นคือเศษกระดาษที่บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์ ซึ่งถูกเก็บรักษาอย่างดี ซึ่งปัจจุบันนี้มันคือหนังสือพิมพ์นั่นเอง

และถึงแม้มันจะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่เศษกระดาษพวกนี้ก็ยังสามารถอ่านได้ และยังทำให้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาที่หลุมหลับภัยใต้บ้าน Simon ถูกสร้างขึ้น

 

ขวดนมขวดนี้เต็มไปด้วยเศษดิน มันสามารถบอกเล่าเหตุการณ์ในอดีตได้อย่างนี้ว่ามีคนบางคนที่ดื่มเจ้านมขวดนี้ในระหว่างที่รอสถานการณ์สงบ

 

จะต้องมีใครสักคนที่เป็นเจ้าของบ้านมาก่อน Simon ได้มีการสร้างลานจอดรถไว้ข้างบนของหลุมหลบภัย เมื่อบานพับของประตูขึ้นสนิม ประตูก็ได้พังเข้าไปในห้อง พอไม่มีอะไรมารองรับภายในด้านล่าง มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นที่คอนกรีตจะยุบลงมา

 

Simon กล่าวถึงหลุมหลบภัยว่า “นี่มันเหลือเชื่อเมื่อคิดว่าที่ทั้งหมดนี้มันถูกสร้างด้วยมือ มันคือส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของพวกเรา ดังนัน้มันควรถูกอนุรักษ์ไว้”  Simon กับ Gerald หวังไว้ว่ามันมันคงทนทานพอ พวกเขาจะได้ไม่ต้องมารื้อหลุมหลบภัยทิ้ง

 

นี่ก็เป็นเรื่องบังเอิญที่น่าเหลือเชื่อ ใครจะไปรู้ว่าใต้บ้านของเราจะมีสถานที่ที่เป็นประวัติศาสตร์แบบนี้อยู่ เพื่อนๆ อาจจะลองไปดูใต้บ้านของตัวเองก็ได้นะ เผื่อจะมีขุมทรัพย์หรือสถานที่ประวัติศาสตร์แบบนี้อยู่ก็ได้

 

ที่มา Boredomtherapy

Comments

Leave a Reply