สาวใช้ “แอปหาคู่” นัดผู้ชายมาถ่ายภาพธีม “ความรักแท้” ที่หาได้ยากในสังคมหลอกฟัน

แอปหาคู่ และสังคมออนไลน์ มักจะมีชื่อเสีย(ง)ในแง่ลบ ถึงความหลอกลวง ความไม่จริงใจ การพบเพื่อเพียงผ่าน และจากกันไปอย่างฉาบฉวยเพียงเท่านั้น…

แต่นั่นเป็นสิ่งที่ช่างภาพสาววัย 24 ปี Marie Hyld มองว่า มันไม่ใช่สิ่งที่สามารถเติมเต็มความรู้สึกได้อย่างแท้จริง เธอจึงจับกล้องออกไปหาคำตอบของสิ่งที่เธอต้องการ

เธอได้สร้างโปรเจกต์ที่ชื่อว่า Lifeconstruction โดยใช้ตัวเองเป็นช่างภาพและนางแบบในเวลาเดียวกัน เธอเดินออกจากโลกโซเชียลไปเผชิญหน้ากับคนที่เธอไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เพื่อใช้เวลาร่วมกันราวกับคนรักกัน ก่อนที่เธอจะถ่ายรูปเก็บช่วงเวลานั้นเอาไว้

 

มุมซ้ายล่างของแต่ละภาพ คือระยะเวลาที่เธอได้เจอกับคนคนนั้นก่อนที่จะถ่ายรูปเหล่านี้เก็บไว้

 

Hyld บอกว่าตัวเองรู้สึกเหนื่อยหน่ายที่ต้องมาเห็นโพสต์เดิมๆ ภาพเดิมๆ หรือการอัปเดตเรื่องเดิมๆ ของคนในโลกโซเชียล เธอจึงรับรู้ได้ทันทีว่าเธอต้องการอะไรซักอย่างที่มันจริงมากกว่านี้ เธอจึงหยิบกล้องออกมาตามหาสิ่งๆ นั้น

เธอใช้แอป Tinder ในการตามหาคนแปลกหน้าที่ต้องการจะลองเข้ามาเป็นคนรักและเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์นี้

ซึ่งเธอได้เขียนอธิบายไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอต้องการที่จะจับคู่และถ่ายรูปกับคนที่ต้องการเป็นคู่รักกับเธอ และบอกทุกคนเอาไว้ก่อนแล้วว่ารูปเหล่านั้นจะถูกจัดแสดงในที่สาธารณะ

 

 

หลังจากนั้นมีคนมากมายให้ความสนใจกับคำขอของเธอ พวกเขาเหล่านั้นหลงใหลไปกับโปรเจกต์ที่เธอสร้างขึ้นมา ช่างภาพสาวเลยจับคู่ได้เกือบทุกคนภายในแอป

การที่เธอสามารถเข้าถึงผู้คนได้ง่ายขนาดนี้ เป็นสิ่งที่เธอหวังเอาไว้กับแอป Tinder เพราะเธอคิดว่าแอปนี้เป็นสิ่งที่ช่วยให้ทุกคนเข้าหากันได้ง่ายมากจริงๆ ทำให้เธอได้เจอกับคนที่เปิดกว้างต่อจินตนาการของตัวเอง

Hyld ยังบอกอีกว่าเธอได้พบแฟนของตัวเองที่คบกันมานาน 4 ปีเล่นแอปนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งนั่นเป็นช่วงเวลา 1 ปี หลังจากที่เธอเริ่มเล่นแอปนี้ก่อน โดยที่พวกเธอไม่ได้ตะขิดตะขวงใจอะไรกันเลย ทั้งสองจะเข้าไปปัดเล่นบ้างเป็นครั้งคราวอยู่แล้ว

 

 

เธอบอกว่าตัวเองมักจะรู้สึกถูกเติมเต็มความคาดหวังและตื่นเต้นอยู่บ่อยๆ เวลาที่ได้จับคู่กับใครสักคนใน Tinder แต่มันจะแอบมีกลิ่นของความกังวลอยู่เหมือนกัน เป็นช่วงเวลาที่ทั้งมหัศจรรย์และน่ากลัว

“ความวิตกกังวลนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนรูปแบบของจินตนาการที่คิดเอาไว้ในตอนแรก พวกเราในที่นี้รู้ดีว่าจะเป็นที่จะต้องสร้างผลงานขึ้นมาด้วยกัน เราจึงต้องผลักตัวเองออกมาจากขีดจำกัดและกระโดดออกมาจากโลกส่วนตัวที่กั้นเอาไว้” เธอกล่าว

 

.

 

ช่างภาพสาวคิดว่าคนในปัจจุบันยังขาดการสานสัมพันธ์กับคนอื่นๆ แบบเผชิญหน้าตรงๆ นั่นเป็นเพราะโลกโซเชียลนั่นเอง ทำให้เราไม่ได้ปฏิสัมพันธ์กับใครอย่างแท้จริง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโปรเจกต์ในครั้งนี้เกิดขึ้นมาได้เพราะ Tinder หนึ่งในโลกโซเชียลที่เธอพูดถึงนั่นแหละ

เมื่อจับคู่ในแอปเป็นที่เรียบร้อย เธอก็จะไปเจอคนแปลกหน้าคนนั้นโดยที่ไม่ได้วางแผนอะไรไว้ในหัวเลย เธอตั้งใจที่จะไปปฏิสัมพันธ์กับคนคนนั้นจริงๆ โดยคิดแค่ว่าทำในสิ่งที่ถูกต้องก็พอ เธอจำเป็นที่จะต้องปล่อยวางทิฐิของตัวเอง และเปิดกว้างพร้อมรับสิ่งต่างๆ ที่จะเข้ามา

 

.

 

เธอบอกว่าในแต่ละวันจะต่างกันไป บางวันเธอรู้สึกว่าไม่มีแรงจูงใจหรือพลังงานที่จะทำความสนิทสนมกับอีกฝ่ายได้มากกว่านี้ หรือบางวันที่เธอรู้สึกถลำลึกเข้าไปในตัวตนของอีกฝ่ายจริงๆ ก็มีเหมือนกัน

Hyld เล่าว่า “มีอยู่ครั้งหรือสองครั้งที่ฉันต้องตกใจ เมื่ออีกฝ่ายก้าวเข้ามาในขีดจำกัดที่ฉันตั้งเอาไว้ แต่ก่อนหน้านี้ฉันได้เตรียมที่จะเจอกับสถานการณ์อะไรแบบนี้ไว้แล้ว และมันช่วยฉันได้มาก มันช่วยให้ฉันรู้จักตัวเองดีขึ้นกว่าเดิม”

 

 

การที่เธอปล่อยวางและเปิดใจรับสิ่งต่างๆ เข้าหาผู้อื่นในลักษณะที่ทำให้ตัวเองเปราะบางลงไป เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยทำมันมาก่อนและเลือกที่จะเก็บเอาไว้คนเดียว ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เธอเชื่อว่าคนอื่นๆ ทำเหมือนเธอมาตลอด

แต่จากประสบการณ์ที่เธอได้ออกไปเผชิญหน้ากับคนแปลกหน้า ใช้เวลาร่วมกันแม้ว่ามันจะไม่ได้มากเท่าไหร่ แต่มันทำให้เธอรับรู้ว่าการปลดปล่อยตัวเองจากกำแพงที่ตั้งไว้ เปิดรับสิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามา มันคือสัญญาณของความเข้มแข็งในอีกรูปแบบหนึ่ง

 

.

 

มาถึงตรงนี้อาจมีบางคนสงสัยว่า แล้วแฟนหนุ่มของเธอยอมรับกับโปรเจกต์นี้ได้หรือ? คำตอบคือเขารับมันได้อย่างแท้จริง

ช่างภาพสาวบอกว่าในตอนแรกเธอรู้สึกสับสนและกังวลใจที่ตัวเองทำเหมือนเล่นตลกกับความสัมพันธ์ของเธอกับแฟน และกับคนอื่นๆ อีก 13 คนที่เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในช่วงระยะเวลาอันสั้น

แต่ถึงอย่างนั้นแฟนของเธอก็ยอมที่จะสละพื้นที่และอิสระให้เธอได้ทำในสิ่งที่ต้องการ เขารู้ดีว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือการให้เธอสามารถปลดปล่อยตัวเองและจินตนาการของเธอออกไปให้เต็มที่

 

.

 

สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ที่ได้คือภาพความทรงจำอันสวยงามที่เธอได้ใช้เวลากับคนแปลกหน้า และเธอได้เรียนรู้ว่าคนแทบทุกคนต่างต้องการที่จะมีความสัมพันธ์อย่างสนิทสนมกับคนอื่นๆ เป็นการแสวงหาที่ไม่ต่างจากการนำอาหารมาเติมเต็มความหิว

สำหรับเธอ ในโลกโซเชียลเป็นสิ่งที่ทำให้แต่ละคนสามารถรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ได้ในระดับผิวเผิน ถ้าอยากลึกซึ้งกับใครซักคนจริงๆ เราทุกคนจำเป็นที่จะต้องทิ้งโทรศัพท์ ก้าวออกไปด้านนอก เพื่อสร้างมันด้วยตัวเอง

 

 

นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับเธอ ทำให้เธอได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากมาย เข้าใจว่าความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งจะเกิดขึ้นได้จากสิ่งใด และเธอจะเก็บช่วงเวลาอันมีค่าเอาไว้ไปตลอดกาล

หากใครชื่นชอบผลงานของเธอ สามารถเข้าไปติดตามเพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรม mariehyld , เว็บไซต์ emeraldveins หรือเฟซบุ๊ก Marie Hyld Photography

 

ที่มา: thisisinsider

Comments

Leave a Reply