หญิงสาวถึงกับช็อก กลับมาบ้านจากทริปรอบโลก กลายสภาพเป็นฟาร์มกัญชาเต็มรูปแบบซะงั้น!?

ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2018 สำนักข่าว Metro ได้รายงานข่าวเรื่องที่ทำให้หญิงสาวคนหนึ่งถึงกับต้องหลั่งน้ำตาออกมา เมื่อบ้านของเธอถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นฟาร์มกัญชาขนาดใหญ่

นี่คือเรื่องราวของ Tanya Laverty อาสาสมัครสาววัย 45 ปี ในเมือง Wavertree เขตเมอร์ซีย์ไซด์ ประเทศอังกฤษ ก่อนหน้านี้เธอเคยช่วยเหลือคนไร้บ้านด้วยการเปิดโรงทานทำซุปให้คนเหล่านั้นได้กินอย่างเอร็ดอร่อย

และเมื่อเดือนกันยายน 2017 เธอและแฟนหนุ่มวางแผนที่จะออกเดินทางรอบโลก เธอจึงปล่อยให้ครอบครัวหนึ่งที่เธอคิดว่าน่าจะเป็นคนเกาหลีเช่าบ้านของเธอ โดยที่เธอไม่ได้เอะใจเลยว่าครอบครัวนี้จะกลายเป็นที่ทำให้บ้านของเธอต้องพังพินาศ

Tanya อาสาสมัครสาวที่เคยช่วยเหลือผู้คนเอาไว้เป็นจำนวนมาก

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ตอนที่เธอกำลังออกทริปมาถึงทวีเอเชีย จู่ๆ เธอก็ไม่ได้รับเงินค่าเช่าบ้านที่ควรต้องโอนเข้ามาซะอย่างนั้น หญิงสาวเลยรู้สึกว่ามันมีอะไรทะแม่งๆ ชอบกล เธอจึงตีตั๋วกลับไปที่บ้านของตัวเองทันที

ในตอนแรกแม่ของแฟนหนุ่มมองลอดช่องสอดจดหมายเข้าไปพบว่ามีท่ออะไรไม่รู้โยงขึ้นไปตามบันได เธอจึงรีบตรงกลับถึงบ้านเป็นการด่วน จนกระทั่งวันต่อมาเธอสามารถเข้าไปได้ในที่สุด สิ่งที่เธอได้เห็นทำเอาถึงกับล้มทั้งยืนเลยทีเดียว

บ้านของเธอถูกปกคลุมไปด้วยต้นกัญชาจำนวนมาก Tanya บอกว่ามีราวๆ 200 ต้น ซึ่งคิดเป็นมูลค่าของผลผลิตได้มากกว่า 35 ล้านบาทต่อปี

ฟาร์มกัญชานี้กระจายออกไปรอบๆ ตั้งแต่ชั้นแรกไปจนถึงห้องใต้หลังคา มีท่อระบายอากาศเชื่อมหากันในทุกห้อง ประตูหลังบ้านของเธอก็พังพินาศเหมือนมีใครทำลายมันเข้ามาจากด้านนอก

จะมีก็แต่ห้องที่ตั้งอยู่ส่วนด้านหน้าของบ้านที่ไม่ถูกแตะต้องอะไรเลย เชื่อว่าคนร้ายต้องการจะหลอกเพื่อนบ้านหรือคนเดินผ่านไปมา โดยการติดตั้งระบบเปิดปิดไฟอัตโนมัติเอาไว้ ทำให้ดูเหมือนมีคนอยู่บ้านตามปกติจริงๆ

เมื่อเธอได้กลับมาเห็นบ้านของตัวเอง เธอก็ถึงกับร้องไห้ออกมาอย่างน่าเศร้า เธอทั้งตกใจ ยังคงปรับเวลาไม่ทัน และไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถก้าวผ่านสิ่งเหล่านี้ไปได้เลย ราวกับชีวิตเธอพังพินาศไปในพริบตา หัวใจของเธอแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ ก่อนที่เธอจะโทรแจ้งตำรวจให้มานำต้นสมุนไพรเหล่านี้ออกไปให้หมด

ท่อระบายอากาศที่เชื่อมหากันไปเกือบทั่วบ้าน

จากที่เธอเคยเป็นคนคอยช่วยเหลือคนไร้บ้านมาก่อน ตอนนี้เธออาจต้องกลายเป็นคนไร้บ้านเสียเอง เพราะรายรับที่เธอควรได้จากค่าเช่าบ้านเธอก็ไม่มี ตอนนี้ยังต้องมาเสียค่าซ่อมแซมอีกอย่างน้อยประมาณ 440,000 บาท ซึ่งเธอไม่คิดว่าตนเองจะสามารถแบกรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดไปได้

อย่างไรก็ตาหญิงสาวก็รู้ดีว่าบนโลกของเราไม่ได้มีแต่เรื่องแย่ๆ เสมอไป เพราะยังมีคนอีกมากที่พร้อมจะช่วยเหลือเธอ อย่างที่เธอเคยช่วยเหลือคนอื่นๆ มาก่อน เธอจึงยังพอมีความหวังว่าเธอจะไม่ต้องเสียบ้านหลังนี้ไป

นี่คงเรียกว่าเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้า แต่เชื่อว่าภายหลังพายุฝน มันคงจะต้องสายรุ้งอันสวยงามและฟ้าอันสดใสรอเธออยู่อย่างแน่นอน และขอให้เธอไม่ต้องมาเจอกับคนแบบนี้อีกแล้วนะ

ที่มา: metro