เนื่องจากเทคโนโลยีในปัจจุบันนั้นมีความก้าวหน้าขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆ วัน ปัญญาประดิษฐ์จำพวกหุ่นยนต์จึงได้รับการพัฒนาให้มีความฉลาดมากขึ้น จนสามารถเข้ามาทำงานแทนที่มนุษย์ได้ในหลายตำแหน่งงาน เช่น นักแปล พนักงานขับรถ และพนักงานต้อนรับ เป็นต้น
จนมนุษย์เองก็เริ่มเกิดความกลัวว่าวันหนึ่ง หุ่นยนต์จะทำให้มนุษย์ไม่เหลือจุดยืนบนโลกใบนี้อีกต่อไป และวันนี้ความกลัวดังกล่าวกลับมาหลอกหลอนจิตใจผู้คนอีกครั้ง เพราะว่า หุ่นยนต์จะเข้ามารับตำแหน่ง “ทนายความ” ที่ก่อนหน้ามีแต่มนุษย์เท่านั้นที่ทำได้
ในเดือนตุลาคม 2017 ที่ประเทศอังกฤษได้มีการจัดงานแข่งขันสำหรับทนายความ ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้มีชื่อว่า Case Cruncher Alpha เป็นการแข่งขันระหว่างทนายความจากบริษัทใหญ่ในกรุงลอนดอน กับหุ่นยนต์ทนายความ
ทนายความทั้งมนุษย์และหุ่นยนต์จะได้รับกรณีศึกษาเกี่ยวกับ การขายประกันพ่วงสินเชื่อ ที่หลอกผู้บริโภคให้เข้าใจผิด และให้คาดการณ์ว่าทางผู้ตรวจตราข้อพิพาททางการเงินจะอนุญาตให้ผู้เสียหายฟ้องร้องได้หรือไม่
คำตอบถูกส่งมาจำนวน 775 คำคาดการณ์ แต่คำคาดการณ์ของหุ่นยนต์กลับเอาชนะไปด้วยอัตราความแม่นยำและถูกต้องที่ 86.6% ส่วนทนายความที่เป็นมนุษย์นั้นมีความแม่นยำเพียง 66.3% เท่านั้น
ที่จริงแล้ว Case Cruncher ไม่ใช่หุ่นยนต์จากบริษัทยักษ์ใหญ่อะไร เป็นเพียงผลผลิตจากสมองของนักศึกษากฏหมาย 4 คน ที่เริ่มจากการสร้างปัญญาประดิษฐ์สำหรับตอบผู้ที่มาขอคำปรึกษาทางกฎหมายผ่านทางอินเทอร์เน็ต
จากนั้นพวกเขาก็พัฒนามาเป็นการเขียนโปรแกรมให้ปัญญาประดิษฐ์เหล่านั้นสามารถคาดการณ์ในกรณีข้อพิพาทต่างๆ ได้ และน่าตกใจยิ่งกว่าคือ พวกเขาทั้ง 4 คนไม่มีความรู้ทางด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์เลย แต่เป็นการที่พวกเขาเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง
ทั้งนี้กรรมการการแข่งขันทั้งสองท่านก็ได้กล่าวว่า ผู้จัดการแข่งขันครั้งนี้เลือกกรณีศึกษาได้ดี “มีหลายกรณีที่ไม่ยากและไม่ซับซ้อนมาก กรณีแบบนี้สามารถถามกับหุ่นยนต์ได้เลยซึ่งมันจะช่วยให้ประหยัดเวลาได้มากกว่าถามกับมนุษย์”
หนึ่งในกรรมการ Felix Steffek ได้กล่าวเกี่ยวกับการที่ทนายความจะถูกหุ่นยนต์เข้ามาแทนที่ว่า “ที่จริงแล้วทั้งมนุษย์และหุ่นยนต์ก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไปตาแต่ละกรณี
ปัญญาประดิษฐ์อาจจะมีข้อดีตรงเรื่องของการคำนวณ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของการวิเคราะห์เชิงพรรณนาและเชิงการประเมินค่า”
Ian Dodd หนึ่งในคณะกรรมการการก็บอกว่าปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้อาจจะเข้ามาทำงานพื้นฐานแทนพวกทนายความที่ยังไม่ชำนาญนัก แต่คงไม่สามารถเข้าไปเจรจาหรือโต้วาทีกันในศาลได้ เขากล่าวว่า “งานที่ใช้ความรู้หุ่นยนต์ก็ทำไป แต่งานที่ใช้สติปัญญาควรจะให้มนุษย์เป็นคนทำ”
ถึงหุ่นยนต์จะมีพัฒนาการก้าวหน้าเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ดี ฉะนั้นจึงไม่ต้องห่วงว่ามันจะเข้ามาแทนที่มนุษย์หมดทุกอย่าง มนุษย์เพียงแค่ใช้หุ่นยนต์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่านั้นเอง
ที่มา: BBC
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.