เป็นเวลากว่าหลายศตวรรษแล้วตั้งแต่เรือที่มีฉายาว่าไม่มีวันจมอย่างไททานิกได้จมลงสู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ในช่วงเวลานั้นเรือไททานิกถือว่าเป็นเรือที่ใหญ่ที่สุดและเป็นวัตถุเคลื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่สร้างโดยมนุษย์ ความจุสูงสุดของเรือสามารถบรรทุกคนได้ถึง 3,547 คนทั้งผู้โดยสารและลูกเรือ
แต่อย่างไรก็ตามเรือไททานิกนั้นมีเรือชูชีพเพียง 16 ลำเท่านั้น ซึ่งสามารถช่วยเหลือผู้โดยสารบนเรือได้เพียง 1 ใน 3 จากจำนวนทั้งหมด เมื่อเรือชนกับภูเขาน้ำแข็งก็มีผู้เสียชีวิตไปกับเรือไททานิกกว่า 1,500 คน
ซึ่งก็ได้มีการค้นพบภาพถ่ายหายากที่แสดงให้เห็นเรือไททานิกและผู้โดยสารทั้งก่อนและหลังที่เรือลำนี้จะพบกับจุดจบอันน่าเศร้า
เรือไททานิกที่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ในปี 1911
ภาพถ่ายขณะกำลังสร้าง
.
เรือไททานิกออกเดินทางครั้งแรกในปี 1912
ดิโอลิมปิก เรือน้องสาวของไททานิก
ภูเขาน้ำแข็งที่คาดว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เรือไททานิกจม
เรือชูชีพลำสุดท้าย
.
.
.
ผู้รอดชีวิตจากเรือไททานิกได้ขึ้นเรือ Carpathia อย่างปลอดภัย
ผู้คนยืนมุงกันเพื่อรอผู้รอดชีวิตจากเรือไททานิก
.
Mrs. Charlotte Collyer และ Marjorie ลูกสาวของเธอผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เรือจม
เด็กชาวฝรั่งเศส Michel และ Edmond Navratil ที่โดยสารไปกับบิดาที่คาดว่าน่าจะชื่อ Louis Hoffman ซึ่งเขาไม่ได้รอดชีวิตกลับมาด้วย
ครอบครัวผู้รอดชีวิต
Mrs. J.J. Brown ได้มอบรางวัลให้กับ Arthur Henry Rostron กัปตันเรือ Carpathia ที่มาช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากเรือไททานิก
ผู้คนกว่า 14,000 คนเข้าร่วมชมกีฬาเบสบอล Yankees แข่งกับทีม Giants เพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากเรือไททานิก
George M. Cohan ขายหนังสือพิมพ์ New York American เพื่อช่วยเหลือเหล่าครอบครัวผู้รอดชีวิต
.
.
.
.
ภาพถ่ายกัปตัน Arthur Henry Rostron
Stuart Collett ผู้รอดชีวิตจากเรือไททานิก
Oscar Solomon Straus เลขากระทรวงพาณิชย์และแรงงานของสหรัฐอเมริกาได้สร้างสวนอนุสรณ์ให้กับพี่ชายของสามีของเธอ
อนุสรณ์ที่สลักชื่อผู้เสียชีวิตบนเรือไททานิก
พิธีศพที่จัดให้กับผู้เสียชีวิตบนเรือไททานิกที่โบสถ์ Seamen Church Institute
ที่มา Allthatisinteresting
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.