ว่ากันด้วยเรื่องทางเพศบ้างดีกว่า ไม่รู้ว่าใครในที่นี้ เคยหรือไม่เคยมีเซ็กส์ หรือถ้าหากว่าเคย ก็ไม่รู้ว่ามีเซ็กส์บ่อยครั้งเพียงใด แต่ไม่ว่าคุณจะมีประสบการณ์ทางเพศกันอย่างไร เมื่ออ่านบทความนี้แล้ว คุณจะมีความเข้าใจเรื่องของกิจกรรมทางเพศมากขึ้น และอาจจะทำให้คุณเปิดรับมันมากขึ้นด้วย
ผู้เชี่ยวชาญได้มีการศึกษาออกมาแล้วว่า การที่คนเรา “ไม่มีเซ็กส์ หรือมีเซ็กส์แบบนานๆ ครั้ง” นั้นมันจะส่งผลต่อร่างกายคนเราอย่างไรบ้าง เอาล่ะ ถ้าอยากรู้แล้วก็ไปดูพร้อมๆ กันเลย…
1. คุณจะสูญเสียความใคร่ (ความต้องการทางเพศ)
เมื่ออารมณ์ทำให้แรงขับทางเพศเกิดขึ้น มันจะกลายเป็นว่า คุณต้องเลือกระหว่าง “ใช้มันซะ” หรือว่า “ปล่อยให้มันสูญสลายไป” นั่นเอง
Sari Cooper นักบำบัดทางเพศ กล่าวว่า “คนที่ละเว้นจากการมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลานานจะรู้สึกเฉยชา และสูญเสียความสามารถและความต้องการทางเพศไป”
แต่เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน บางคนอาจหาวิธีรับมือได้ ด้วยการคิดค้นวิธีทำให้เซ็กส์ของเขามีความน่าพึงพอใจมากขึ้น แม้ว่าจะไม่ได้มีกิจกรรมทางเพศมานานแล้วก็ตาม
2. ผนังช่องคลอดบอบบางลง
ส่วนมากจะเป็นกับหญิงที่เริ่มเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน Sari อธิบายว่า “หากไม่มีกิจกรรมทางเพศเป็นเวลานาน ขณะที่อายุคุณเริ่มมากขึ้น ผนังในช่องคลอดของคุณจะบางลง และจะนำไปสู่ความเจ็บปวดในการร่วมเพศครั้งต่อไป สุดท้ายคุณก็จะไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกเลย”
ทั้งนี้ สมาคมหญิงวัยหมดประจำเดือนของอเมริกาเหนือ ก็ได้แนะนำถึงวิธีการป้องกัน นั่นก็คือการใช้อวัยวะของตนหรือสิ่งของที่ปลอดภัยสอดแทรกเข้าไปในช่องคลอด (ช่วยตัวเอง) ในช่วงหมดประจำเดือน เพื่อรักษาสุขภาพของช่องคลอดนั่นเอง
3. สารหล่อลื่นจะเริ่มหมดไป
สำหรับหญิงวัยทองเช่นเคย ช่องคลอดจะเริ่มมีปัญหาในการสร้างสารหล่อลื่นออกมาขณะมีเพศสัมพันธ์หลักจากที่คุณหยุดมีเพศสัมพันธ์ไปเป็นเวลานาน
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า คล้ายกับการที่ผนังช่องคลอดบอบบางลง เมื่อผู้หญิงมีอายุมากขึ้น ฮอร์โมน เอสโตรเจน ก็เริ่มหมดลง จึงเกิดปัญหาเหล่านี้ตามมา
Dr. Lauren Streicher อธิบายว่า “ในผู้หญิงวัยรุ่น ช่วงอายุ 20 หรือ 30 ถึงแม้จะไม่ได้มีเซ็กส์เป็นเวลานาน แต่ก็ยังคงอุดมไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน ส่งผลให้ช่องคลอดยังคงแข็งแรง ยืดหยุ่น และได้รับการหล่อลื่น แต่ถ้าหาก เป็นหญิงที่อายุราว 60 ปีที่ไม่มีเอสโตรเจนแล้วล่ะก็ พวกเธอก็จะสูญเสียอะไรเหล่านั้นไปหมด”
Sari ก็ได้แนะนำวิธีที่จะบรรเทาผลเสียเหล่านี้ได้ เธอกล่าวว่า “การหล่อลื่นช่องคลอดนั้นแย่ลงตามอายุที่มากขึ้น แต่มันจะลดลงเร็วขึ้นมากกว่าเดิมหากคุณไม่รู้จักช่วยตัวเองเสียบ้าง”
4. อาการการปวดประจำเดือนจะยิ่งเลวร้ายลง
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ผลเสียส่วนมากจะเกิดขึ้นกับผู้หญิง มันอาจจะดูขัดกับความคิดของหลายคน แต่การมีเพศสัมพันธ์ช่วงที่เป็นประจำเดือนนั้นจะช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้
Dr. Streicher อธิบายว่า “มดลูกนั้นเป็นกล้ามเนื้อมัดหนึ่ง และเมื่อผู้หญิงสำเร็จความใคร่ มดลูกจะเกิดการหดตัวที่ทำให้เลือดไหลออกเร็วขึ้น ซึ่งส่งผลให้อาการปวดประจำเดือนลดลง แถมบางครั้งมันยังช่วยให้หลั่ง สารเอนดอร์ฟิน ที่สามารถช่วยลดการปวดประจำเดือนได้อีก”
5. แต่อย่างไรก็ตาม มันทำให้คุณมีโอกาสเป็นโรคทางเดินปัสสาวะน้อยลง
ในเรื่องร้ายยังมีเรื่องดี การละเว้นเพศสัมพันธ์หรือมีไม่บ่อย นอกจากจะช่วยลดโอกาสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แล้ว ยังช่วยลดโอกาสการเป็นโรคทางเดินปัสสาวะอีกด้วย เพราะว่ามันมีการแพร่เชื้อแบคทีเรียที่ “เกิดจากการร่วมเพศ” ซึ่งส่งผลให้มีความเสี่ยงสูงขึ้น ในการเกิดซ้ำของโรคทางเดินปัสสาวะ
แปดสิบเปอร์เซ็นต์ของหญิงที่ยังไม่หมดประจำเดือนจะเป็นโรคนี้ได้หลังจากมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว 24 ชั่วโมง แต่ วารสาร American Family Physician กล่าวว่า “การมีเพศสัมพันธ์บ่อย ทำให้โรคทางเดินปัสสาวะสามารถเกิดซ้ำได้บ่อยเช่นกัน”
อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆ ก็ชั่งใจกันให้ดีๆ เรื่องเพศเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ฉะนั้น คิดให้ดีก่อนตัดสินใจนะคร้าบบบ
ที่มา: Mirror
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.