หญิงสาวเลี้ยงจิ้งจอกด้วย ‘อาหารมังสาวิรัติ’ ชาวเน็ตเตือนไม่ฟัง บานปลายสู่การฟ้องร้อง!!

กำลังเป็นกระแสที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักในโลกโซเชียลของต่างประเทศ กับกรณีที่บล็อกเกอร์สาวมังสวิรัติรายหนึ่ง โพสต์เล่าเรื่องราวของเธอกับการให้จิ้งจอกเฟนเน็ก สัตว์เลี้ยงแสนรักของเธอทานมังสวิรัติไปด้วย

แน่นอนว่าไม่มีใครเห็นด้วย เพราะมันผิดวิสัยของจิ้งจอกเฟนเน็กโดยธรรมชาติที่เป็นสัตว์กินเนื้อ แม้จะมีคนมาคัดค้านมากมายแต่เธอก็ไม่สนใจ พร้อมออกมาโต้ตอบจนบานปลายไปสู่การแจ้งข้อหาทารุณกรรมสัตว์…

 

Sonia Sae บล็อกเกอร์สาวมังสวิรัติ กับเจ้า Jumanji จิ้งจอกเฟนเน็กที่เธอเลี้ยงมา และให้มันกินมันสวิรัติมาตลอดหลายปี โดยให้เหตุผลว่าสัตว์ทุกสปีชีส์ล้วนเท่าเทียมกัน

 

ทำให้ชาวเน็ตคนหนึ่งชื่อว่า Alice Natanya Moore ออกมาโพสต์เตือนถึงการกระทำของบล็อกเกอร์สาวว่า สิ่งที่เธอทำน่ะ ไม่ถูกต้อง!!

เพราะจิ้งจอกเฟนเน็กเป็นสัตว์ที่ไม่สามารถย่อยกรดอะมิโนจำพวก Taurine ที่ได้มาจากการย่อยอาหารแมวแบบมังสวิรัติที่ Sonia เอาให้มันกินได้

และธรรมชาติของจิ้งจอกเฟนเน็ก จะกินอาหารที่มีโปรตีนสูงที่ได้มาจากแมลงต่างๆ อย่างเช่น แมลงสาบ ไส้เดือน หนอนนก หนู ไข่ เป็นต้น รวมไปถึงอาหารจำพวกพืชผักอีกส่วนน้อย ที่มันสามารถขุดขึ้นมาได้จากดิน

 

 

ส่วนนี่คือสภาพแรกตอนที่ Sonia รับเจ้า Jumanji มาเลี้ยงเป็นครั้งแรก

 

หลังจากที่ผ่านไปสภาพของมันก็ดูไม่สู้ดีนัก

 

Alice พยายามที่จะอธิบายให้ Sonia ฟังว่าไม่ควรให้สัตว์เลี้ยงของตัวเองกินมังสวิรัติ เพราะจิ้งจอกเฟนเน็กเป็นสัตว์กินเนื้อ ถ้าหากคุณบังคับให้มันกินแต่พืชผักอย่างเดียว มันจะป่วยและร่างกายไม่แข็งแรง

โดยปกติแล้วจิ้งจอกเฟนเน็ก จะเลือกกินอาหารที่มีโปรตีนอย่างแมลงและสัตว์ตัวเล็กมากถึง 90% ส่วนอีก 10% ที่เหลือเป็นรากไม้หรือผลไม้

 

 

ขณะเดียวกัน Sonia ก็ยังไม่สนใจ ยังคงโชว์ภาพของเจ้า Jumanji อยู่ พร้อมกับแคปชั่นบ่งบอกถึงสุขภาพที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่เธอก็ยังให้มันกินอาหารมังสวิรัติต่อ

 

ทางด้าน Alice ก็ออกมาเตือนอีกว่า เฮ้!! สภาพแบบนั้นน่ะมันค่อนข้างจะแย่จริงๆ แล้วนะ จากการรับสารอาหารจากกรดอะมิโน Taurine ที่ได้จากอาหารแมวมังสวิรัติอย่างเดียว ทำให้น้ำหนักของมันลดลงอย่างเห็นได้ชัด แถมยังมีอาการขนร่วงอีก

 

 

แต่บล็อกเกอร์สาวก็ยังไม่เชื่อ และเลือกที่จะไม่สนใจ

 

คลิปวิดีโอของเจ้า Jumanji ที่ Sonia โพสต์ลง เผยให้เห็นรูปร่างอันผอมบางของมัน

 

ร่องรอยของความผิดปกติของผิวหนังบนใบหู

 

‘จมูกแดงก่ำ’ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า สุขภาพของมันกำลังย่ำแย่ลงไปเรื่อยๆ

 

อาจจะยังเห็นภาพกันไม่ชัดสักเท่าไหร่ ลองไปชมภาพของจิ้งจอกเฟนเน็กที่มีสุขภาพดีกันสักหน่อย

 

ตามปกติแล้ว ส่วนจมูกและปลายจมูก จะไม่มีสีแดงเหมือนภาพข้างบน

 

และนี่คือความคิดเห็นของ Sonia เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว สรุปใจความคร่าวๆ ดังนี้…

“หลายๆ ครั้งที่ผู้คนเลือกที่จะไม่ยอมรับความจริง และเลือกที่จะเป็นนักโทษถูกขังเอาไว้โดยความเชื่อมั่นของตัวเอง ทั้งคนที่ถือครองใบปริญญา หรืออ่านงานวิจัยต่างๆ มา ก็จะทำให้เขาเชื่อมั่นในสิ่งนั้น และไม่ยอมออกมาจากคอมฟอร์ตโซน”

“วิทยาศาตร์ปัจจุบันเปิดโอกาสให้สัตว์กินเนื้อทั้งหลาย สามารถเข้าถึงกรดอะมิโนที่มาจากเหยื่อ ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตเช่นเดียวกัน แต่กลับกันพวกเขาเลือกที่จะใช้คำว่า ‘ทารุณกรรม’ กับการกระทำที่ยังเกิดความสูญเสียเลยแม้แต่น้อย”

“คำพูดเหล่านี้มันช่างย้อนแย้งกันเหลือเกิน เพราะสัตว์ที่ถูกนำมาทำเป็นอาหารสัตว์ปกติ ต่างก็ถูกยัดเยียดให้กินอาหารแบบที่ไม่เป็นธรรมชาติของพวกมัน เพื่อให้ได้สารอาหารตามที่พวกคุณต้องการ อย่าง ถั่วเหลือง เมล็ดข้าว ยาฆ่าเชื้อ เป็นต้น”

 

 

“ถ้าคุณไม่ทานมังสวิรัติก็เท่ากับว่า คุณกำลังสนับสนุนการทารุณกรรมที่เกิดขึ้น และมันอยู่ในจานอาหารของพวกคุณ”

“ถ้าคุณเห็นด้วยกับความคิดของฉันและไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ฉันจะบอกว่ายังมีกลุ่มในเฟซบุ๊กอีกมากมายที่มีคนให้อาหารสัตว์ด้วยอาหารมังสวิรัติ และสัตว์เลี้ยงเหล่านั้นก็มีสุขภาพสมบูรณ์ดี”

“ควรนึกถึงเรื่องศีลธรรมด้วย หยุดเสแสร้งกันได้แล้ว”

 

 

ในเมื่อคุยกันด้วยเหตุด้วยผลไม่รู้เรื่อง เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีความคิดเป็นของตนเอง ทีนี้เรื่องก็เลยไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อย

 

ทั้งเหล่าผู้เชี่ยวชาญ และองค์กรช่วยเหลือสัตว์ ต่างก็ร่วมมือกันพยายามช่วยเหลือเจ้า Jumanji ส่วนตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็กำลังรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานอยู่ บางส่วนก็ส่งอีเมลล์ไปแจ้งองค์กรสิทธิสัตว์ เพื่อให้มาจัดการเรื่องนี้

 

 

ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร สุดท้ายแล้วสิ่งที่บล็อกเกอร์สาวเชื่อมั่นจะเป็นเรื่องที่ถูกเหรือไม่ หรือฝ่ายผู้เชี่ยวชาญเองที่ผิดเพราะมัวแต่ยึดติดกับข้อมูลต่างๆ จนไม่ยอมเปิดใจ ก็คงต้องให้เรื่องของกฎหมายเป็นตัวพิสูจน์แล้วล่ะ…

 

ที่มา : boredpanda

Comments

Leave a Reply