เป็นเรื่องปกติของบ้านเรานั้นที่จะมีเจ้ายุงตัวน่ารำคาญบินไปบินมาข้างๆ หูและดูดเลือดเราไป ทำให้ผิวหนังเกิดอาการบวมและคันหลังจากมันดูดเลือดเสร็จเรียบร้อย
เจ้ายุงตัวน้อยนอกจากจะสร้างความรำคาญแล้ว มันยังเป็นสัตว์ที่อันตรายที่สุดในโลกอีกด้วย ถึงมันจะดูตัวเล็กและบอบบาง แต่พวกมันสามารถฆ่าคนได้ 1 ล้านคนต่อปีเลยทีเดียว!!
ซึ่งในแต่ละครั้งที่มันกัดมนุษย์นั้นเราแทบจะไม่รู้ตัวจนกระทั่งเกิดอาการคันและบวมขึ้นมา และบางครั้งมันก็ทิ้งของฝากไว้ให้กับเราอีกด้วย เป็นพยาธิและเชื้อโรคที่ร้ายแรง
แต่หลายๆ คนก็คงสงสัยว่า เจ้ายุงพวกนี้มันดูดเลือดกันยังไง เข็มดูดเลือดของมันมีการทำงานอย่างไร หรือว่าทำไมยุงถึงเลือกกัดเรามากกว่าที่จะไปกัดคนอื่น?
คำตอบก็คือจริงๆ แล้วจะมีแค่ยุงเพศเมียเท่านั้นที่ดูดเลือดเป็นอาหาร ภายในร่างกายของมันจะมีโครงสร้างระบบประสาทชนิดพิเศษที่เรียกว่า cpA neurons ที่สามารถตรวจจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และกลิ่นกาย
นอกจากนั้นมันยังไวต่อความร้อนและแสงอินฟราเรด เมื่อรวมทั้งหมดเข้าด้วยกัน มันจึงสามารถหาเหยื่อได้อย่างง่ายดาย
และปากของยุงนั้นมีเข็มทั้งหมดถึง 6 เข็มด้วยกันและมีท่อที่ยืดหยุ่นได้ปกคลุมอยู่ ประกอบไปด้วยเข็ม Maxillae (สีน้ำเงิน) 2 ข้างที่ทำหน้าที่เจาะและเลื่อยผ่านชั้นผิวหนังลงไป และมี Mandibles (สีเหลือง) 2 ข้างทำหน้าที่แหวกเนื้อเยื่อออกจากกันในขณะที่เจาะลงไป
หลังจากนั้นมันจะปล่อยสารเคมีผ่านน้ำลายด้วยท่อ Hypopharynx (สีเขียว) เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกขึ้นและใช้ท่อ Labrum (สีแดง) ดูดเลือดขึ้นไป
ในขณะที่มันกำลังดูดเลือดนั้น ร่างกายของมันจะแยกน้ำออกจากเลือดและเบ่งออกมาทางก้น เพื่อให้ดูดเลือดได้ในปริมาณที่มากขึ้น
และสารเคมีที่มากับน้ำลายของมันจะทำให้เราเกิดอาการคัน และมักจะมาพร้อมกับเชื้อโรคหรือเชื้อไวรัสต่างๆ ที่มันได้รับมาจากคนหรือสัตว์อื่นๆ เช่น โรคมาลาเรีย โรคไข้เลือดออก หรือโรค Zika
หากอยากเห็นการทำงานของปากยุงขณะดูดเลือดแบบชัดๆ ลองดูคลิปวิดีโอกันได้เลย
พอเห็นชัดๆ แล้วก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาทีเดียว หลังจากนี้คงต้องระวังไม่ให้ยุงกัดซะแล้ว
ที่มา NPR, Mosquitomagnet
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.