สื่อนอกตีข่าว…เศรษฐีจ่ายเงิน ‘ฆ่าตัวตาย’ เพื่อเก็บสมองอัปโหลดเป็นดิจิทัล คือข่าวปลอม!!

เรียกได้ว่ากำลังกลายเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว กับการจ่ายเงินจำนวนหนึ่งฆ่าตัวตายเพื่อเก็บรักษาสมองเอาไว้

อย่างล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2018 ที่ผ่านมาเว็บไซต์เดล์ลี่เมลรายงานว่า นาย Sam Altman ผู้ประกอบการธุรกิจ Y Combinator เกี่ยวกับเทคโนโลยีเองก็เป็นหนึ่งในลิสต์ของคนทั้ง 25 คน ที่ลงชื่อกับบริษัทเทคโนโลยีขนาดเล็ก Nectome ที่อ้างว่าสามารถอัปโหลดข้อมูลในสมองของคนเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ได้

ซึ่งคนที่ใช้บริการจะต้องมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 330,000 บาท แต่ก่อนหน้านั้นคุณจะต้องไปเข้าเครื่องและฉีดยาเพื่อฆ่าตัวตาย จากนั้นทาง Nectome ก็จะเก็บรักษาสมองเอาไว้เพื่อรอคอยการพัฒนาเทคโนโลยีที่จะสามารถอัปโหลดของมูลในสมองเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์

 

 

ในเว็บไซต์ของบริษัทดังกล่าวได้ระบุเอาไว้ว่า “ภารกิจของเราก็คือการเก็บรักษาสมองของคุณให้อยู่ในสภาพดีที่สุด เพื่อรักษาความคงอยู่ของความทรงจำต่างๆ ทั้งใบหน้าของครอบครัว รสชาติของอาหารต่างๆ สัมผัสจากอากาศรูปแบบต่างๆ”

 

 

“เราเชื่อว่าในศตวรรษนี้ เรื่องของการเปลี่ยนแปลงข้อมูลความทรงจำในสมอง และตัวตน ให้กลายเป็นข้อมูลดิจิตัลจะประสบความสำเร็จและมีความเป็นไปได้”

ข้อเสนอของทางบริษัทก็เป็นอะไรที่ง่ายมากๆ “แล้วถ้าเราบอกว่าเราสามารถแบ็กอัปข้อมูลจิตใจของคุณเอาไว้ได้ล่ะ?”

 

สองผู้ก่อตั้งบริษัท Nectome (ซ้าย) Robert McIntyre  และ (ขวา) Michael McCann

 

สารที่ใช้ในการดองศพนั้นจะช่วยให้ร่างกายของคุณถูกแช่แข็ง และอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ หากไม่มีสารแปลกปลอม หรืออะไรเข้ามารบกวนมันจะสามารถเก็บเอาไว้ได้นานถึง 1,000 ปีเลยทีเดียว

 

 

ไอเดียของการอัปโหลดความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ให้กลายเป็นข้อมูลดิจิตัลกำลังกลายเป็นที่สนใจของนักวิทยาศาสตร์ใน Silicon Valley

 

 

ดอกเตอร์ Ian Pearson ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโลกอนาคตเองก็เชื่อว่าอีกไม่เกิน 50 ปี มนุษย์จะสามารถเปลี่ยนข้อมูลในสมองให้กลายเป็นข้อมูลดิจิทัลได้

เขากล่าวว่าถ้าเป็นแบบนั้นมนุษย์จะสามารถใช้ร่างกายของแอนดรอยด์โลดแล่นไปในโลกของความเป็นจริงได้ ด้วยการควบคุมจากโลกดิจิทัล

แต่อย่างไรก็ตาม การยอมจ่ายเงินเพื่อฆ่าตัวตายนั้นถือเป็นเรื่องที่ยังไม่ถูกกฎหมายในประเทศสหรัฐอเมริกาในทุกรัฐ ซึ่งมีเพียง 5 รัฐเท่านั้นที่สามารถทำได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

 

 

แต่ถึงอย่างไรก็ตามสื่อต่างๆ ทั้งสื่อเล็กสื่อใหญ่ของต่างประเทศก็ได้เล่นประเด็นนี้กันถ้วนหน้า แต่แท้จริงแล้วมันเป็นเพียงข่าวปลอมเท่านั้น ซึ่งนาย Sam Altman ก็ได้ออกมาแถลงความจริงแล้วว่าเรื่องดังกล่าวที่เป็นข่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดผ่านทางทวิตเตอร์ของเขา

 

“นี่เป็นข่าวปลอมอย่างยิ่ง เป็นการเขียนข่าวขึ้นมาเองของพวกคลิกเบตเท่านั้น”

 

 

ที่มา : dailymail

Comments

Leave a Reply