ภาพวาดถ่ายทอดเรื่องราว ทั้งช่วงเวลาอันโหดร้ายและแสนอบอุ่น ของคำว่า ‘ครอบครัว’

ช่วงชีวิตของเราไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป หลายๆ ครั้งเราต้องเจอกับอุปสรรคขวากหนามที่เข้ามาทิ่มแทง สร้างความทุกข์ใจให้กับเรา เช่นเดียวกันกับสิ่งที่ศิลปินชาวอเมริกัน Curtis Wiklund ได้เจอมากับตัวเอง

ช่วงเดือนสิงหาคม 2016 Curtis ได้ถ่ายทอดเหตุการณ์อันแสนสะเทือนใจลงไปในเฟซบุ๊ก กับช่วงเวลาอันแสนเศร้าเมื่อเขาได้รู้ว่าภรรยาของตัวเองนั้นแท้งลูกไปเสียแล้ว

 

 

เรื่องราวที่เขาถ่ายทอดผ่านปลายดินสอได้ซึมซับเข้าไปอยู่ในหัวใจของทุกคน สามารถสัมผัสได้ถึงความโศกเศร้าเสียใจที่ไม่มีใครอยากจะเจอ

ศิลปินหนุ่มบอกว่ามันคงเป็นเรื่องแปลกที่เขานำมันมาเล่าให้ทุกคนฟัง เขาคิดว่าคงจะดีกว่าหากบอกเล่าผ่านรูปภาพมากกว่าการใช้คำพูด และเหตุผลที่นำมันมาเล่าสู่กันฟังก็เพราะต้องการจะบอกให้ทุกคนที่ได้เจอกับความเจ็บปวดว่า อย่างน้อยคุณก็ไม่ใช่คนเดียวที่กำลังทุกข์ใจอยู่

 

 

หลังจากนั้นภาพนี้ก็ได้ถูกแชร์ออกไปเป็นวงกว้าง ทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจที่จะสร้างภาพวาดบอกเล่าถึงคำว่า “ครอบครัว” ขึ้นมา เพราะความเสียใจในเหตุการณ์นั้นไม่ได้ทำลาย Curtis แต่มันคือสิ่งที่สอนให้เขารู้จักคุณค่าของคำว่าครอบครัวมากยิ่งขึ้น จึงตัดสินใจที่จะวาดเรื่องราวการใช้ชีวิตของตัวเอง ภรรยา และลูกชายทั้งสองต่อไป

 

ภาพที่เริ่มบันทึกเรื่องราวอันแสนอบอุ่นหัวใจของคนในครอบครัว นับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2017

 

เป็นภาพที่ดูเรียบง่าย แต่กลับเปี่ยมไปด้วยความสุข

 

เช้าที่มีกันและกัน คือวันที่สดใสอยู่เสมอ

 

คนที่คอยอยู่เคียงข้างคุณเสมอในวันที่อ่อนล้า

 

เติมความหวานและรอยยิ้มให้กัน

 

โมเมนต์น่ารักๆ ของการใช้ชีวิตคู่

 

ทั้งสองคงไม่อาจลืมเรื่องราวสุดสะเทือนใจก่อนหน้านี้ไปได้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะหาความสุขในปัจจุบันไม่ได้

 

ทั้งสองยังคงหาเวลาที่จะมีความสุขไปพร้อมๆ กัน

 

และทั้งสองยังคงเป็นคนที่คอยช่วยเหลือ จุนเจือกันในทุกเวลา

 

โดยที่ไม่ลืมว่าพวกเขามีลูกๆ อีกสองคนที่เป็นกำลังใจสำคัญ

 

แม้แต่ช่วงเวลาสั้นในตอนวาดภาพ ก็ยังสามารถทำให้เราเผยรอยยิ้มออกมาได้

 

ผ้านี้ไม่ได้มีไว้กันยุง แต่มีไว้กันให้ความอบอุ่นไม่จางหายไปจากใจ

 

ภาพวาดของเขาคือสิ่งที่บันทึกความทรงจำต่างๆ เอาไว้ได้อย่างลงตัว

 

และแรงบันดาลใจของเขาก็คือคนที่อยู่ตรงหน้านี่แหละ

 

นับว่าเป็นการบอกเล่าเรื่องราวที่ทั้งน่ารักและเข้าถึงอารมณ์ของเหล่าผู้ชมได้เป็นอย่างดี เราเชื่อว่าภาพเหล่านี้จะทำให้เพื่อนๆ หันกลับไปมองคำว่า “ครอบครัว” กันมากยิ่งขึ้นนะ

 

ที่มา: brightside

Comments

Leave a Reply