ต้องขอบอกเลยว่ากระแสฟีเวอร์ของละครเรื่อง ‘บุพเพสันนิวาส’ นี้สร้างปรากฎการณ์มากมายให้กับบ้านเราจริงๆ ทั้งในเรื่องของโซเชียล การท่องเที่ยว รวมไปถึงทำให้คนหันมาสนใจทางด้านประวัติศาสตร์กันมากขึ้น
ซึ่งหลายๆ คนก็อาจจะได้อ่านหรือฟังเรื่องราวของยุคสมัย ‘พระนารายณ์’ จากบันทึกของบ้านเรากันมาบ้างแล้ว แต่สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะพาเพื่อนๆ ไปอ่านบันทึกและมุมมองจากฝั่งของชาวต่างชาติกันบ้าง
เป็นเหตุการณ์ที่ทูตจากสยามเข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งหลายๆ จากการตีความของชาวเน็ต และผู้เชี่ยวชาญหลายท่านก็มองว่าบุคคลที่ถูกส่งตัวไปเข้าเฝ้านั้นก็คือคณะของท่านโกษาปานและคุณพี่หมื่นตัวจริงเสียงจริงที่มีชีวิตอยู่ในช่วงนั้นนี่แหละ!!
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรลองไปรับชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า…
ย้อนกลับไปในช่วงปี ค.ศ. 1678 (พ.ศ. 2221) หลังจากชัยชนะเหนือประเทศฮอลแลนด์ ก็ทำให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 กลายเป็นบุคคลที่เรียกได้ว่าทรงอำนาจที่สุดในแถบประเทศทางยุโรป
เช่นเดียวกันกับสยาม ที่ในช่วงคริสศตวรรษที่ 17 กำลังเป็นประเทศมหาอำนาจทางวัฒธรรมเป็นอย่างมากในทวีปเอเชีย เรียกได้ว่ามีศักยภาพพอๆ กับจีน และอินเดียเลยทีเดียว
วัฒนธรรมของประเทศสยามนั้นเป็นแบบพุทธแต่ขณะเดียวกันก็ยอมรับความหลากหลายจากวัฒนธรรมอื่นๆ นอกจากนี้สยามในยุคนั้นยังมีความหลงใหลในวัฒนธรรมของชาวตะวันตกอีกด้วย
ในช่วงยุคที่ปกครองโดยพระนารายณ์ (ช่วงปี 1657-1688 หรือ พ.ศ. 2200-2231) ประเทศทางฝั่งตะวันตกค่อยๆ มีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พระองค์ทรงมองหาพันธมิตรเพื่อช่วยไม่ให้ประเทศสยามถูกรุกราน
และประเทศฝรั่งเศสก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากว่าประเทศสยามยังไม่เคยมีส่วนร่วมทางการค้ากับชาวดัทช์ ทำให้การเจรจาประสบความสำเร็จอย่างง่ายดาย
สยามได้ส่งคณะทูตไปยังประเทศฝรั่งเศสเป็นครั้งแรกในปี 1681 (พ.ศ. 2224) จากนั้นก็ส่งไปอีกครั้งเมื่อปี 1684 (พ.ศ. 2227) คณะทูตได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14
ทางฝั่งพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เองก็ส่งราชทูตมายังสยามเช่นเดียวกันเมื่อเดือนมีนาคม ปี 1685 (พ.ศ. 2228) เพื่อเจรจาในเรื่องข้อตกลงในการค้าขาย และเสนอให้พระนารายน์เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์นิกายคอทอลิก
จากความร่วมมือของทูตแห่งสยาม ได้ออกเดินทางร่วมกับราชทูตของฝรั่งเศสได้เดินทางกลับไปยังประเทศฝรั่งเศสในปี 1686 (พ.ศ. 2229)
พวกเขาเดินทางมาถึงเมือง Brest ในวันที่ 18 เดือนมิถุนายน และเดินทางถึงพระราชวังแวร์ซายส์ในวันที่ 1 กันยายนปี 1686 (พ.ศ. 2229)
พวกเขาได้รับการต้อนรับโดยฝูงชนมากกว่า 1,500 คน การต้อนรับเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่ ทางเดินและห้องโถงถูกประดับประดาไปด้วยเงิน ระหว่างทางก็มีเหล่าราชวงศ์มาให้การต้อนรับ
การเดิมพันครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับประเทศฝรั่งเศส เพราะการร่วมมือของกองกำลังทหารจากสยามจะช่วยให้พวกเขาตัดสินชัยชนะกับศัตรูได้เลย
คณะทูตจากสยามเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 พร้อมกับมอบกล่องที่ภายในบรรจุจดหมายจากสมเด็จพระนารายณ์
ตามบันทึกกล่าวเอาไว้ว่าคณะทูตจากสยามสวมหมวกที่มีปลายแหลม จากนั้นก็หมอบกราบต่อหน้าพระราชาทำกับว่าเขาคือพระเจ้า จากนั้นพวกเขาก็ได้รับอนุญาตให้เงยหน้าขึ้นมามองพระพักตร์ของพระราชาได้
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เชิญคณะทูตไปเยี่ยมที่พักของพระองค์ สวนต่างๆ หลังจากส่งจดหมายเรียบร้อยคณะทูตก็เดินออกมาจากที่นั่นพร้อมกับกุมมือทั้งสองข้างไว้ด้วยกัน
จากนั้นก็มีหนึ่งในคณะทูตกล่าวเอาไว้ว่านอกจากสามสิ่งที่ใหญ่อย่าง มนุษย์, พระเจ้า, และสวรรค์แล้ว ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามีอีกอย่างหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ นั่นก็คือ ‘พระราชวังแวร์ซายส์’ นี่เอง
แต่น่าเสียดายที่การเจรจาครั้งนี้ไม่สามารถรู้ผลได้ เพราะหลังจากนั้นไม่นานสมเด็จพระนารายณ์ก็ถูกยึดอำนาจในปี 1688 (พ.ศ. 2231)
และผู้นำของสยามในยุคต่อมาก็เป็นคนที่ฝักใฝ่ในเผด็จการ (ส่วนนี้เป็นบันทึกจากฝรั่งเศส) พระเพทราชา ซึ่งภายหลังได้ทำการปิดประเทศไม่ติดต่อกับฝั่งตะวันตกอีกเลยเว้นแต่ประเทศฮอลเลนด์ เป็นเหตุให้สงครามกับดัทช์ยังคงต้องดำเนินอีกยาวนานนัก
และบันทึกใส่ส่วนของ ‘การมาเยือนของทูตแห่งสยาม’ ก็จบลงเพียงเท่านี้ ก็หวังว่าเพื่อนๆ จะได้รับความรู้ทางประวัติศาสตร์อีกด้านหนึ่งที่บันทึกโดยชาวต่างประเทศไปไม่มากก็น้อยนะจ๊ะ ^^
ที่มา : chateauversailles
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.