ในยุคสมัยความก้าวหน้าทางด้านการแพทย์ยังไม่เอื้ออำนวย อาการผิดปกติทางระบบประสาทและจิตนั้นจะถูกมองว่าเป็นผลของเวทมนตร์คาถาในสายตาของผู้คนทั่วไป แต่ทว่าทางด้านการแพทย์นั้นจะถูกมองโดยรวมว่าเป็นบ้าแทน…
สิ่งสำคัญที่ทำให้แพทย์สามารถวิเคราะห์อาการของผู้ป่วยได้ก็คือภาพถ่าย หนึ่งในการเก็บข้อมูลผู้ป่วยเพื่อใช้ในการวินิจฉัยและหาหนทางรักษา ซึ่งในอดีตนั้นภาพถ่ายเก่าๆ ก็จะมีความซีดจางบวกการแสดงอาการของผู้ป่วยก็ยิ่งทำให้ดูหลอนได้อีก!!
หนึ่งในผู้ป่วยที่กำลังกรีดร้องต่อหน้ากล้องถ่ายภาพ
ภาพถ่ายชุดนี้คาดว่าถูกถ่ายไว้ในช่วงปีค.ศ. 1878 – 1910 จากโรงพยาบาล ปีเต-แซลแปตริแยร์ (Pitié-Salpêtrière) ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และอาการของผู้ป่วยหญิงเหล่านี้ถูกจำกัดความด้วยชื่อโรค “ฮิสทีเรียหญิง” หรือชื่อพฤติกรรมการกินผิดปกติในปัจจุบัน
ประวัติของผู้ป่วยนั้นไม่ได้รับการเปิดเผยแต่อย่างใด โดยที่รูปถ่ายเหล่านี้เป็นฝีมือของ Albert Londe ช่างภาพที่ถูกจ้างจากนักประสาทวิทยา Jean-Marie Charcot เพื่อถ่ายภาพของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาอาการทางจิต
นานนับศตวรรษ โรคฮิสทีเรียหญิงถูกจัดให้เป็นโรคทั่วไปและจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงเท่านั้น พร้อมทั้งอาการที่กระทบต่อสุขภาพจิตหลากหลายทาง…
เช่น หงุดหงิดง่าย, มีความต้องการทางเพศ, นอนไม่หลับ, ถ่ายของเหลวไม่ออก, หายใจถี่, ปวดช่องท้องรุนแรง รวมไปถึงนิสัยการก่อปัญหาต่างๆ
ผู้ป่วยหญิงกับอาการทางจิต ที่ก่อตัวมาจากโรคฮิสทีเรีย ในอิริยาบถพนมมือสวดภาวนา
จนกระทั่งในศตวรรษที่ 19 โรคฮิสทีเรียนั้นมีความเกี่ยวข้องกับมดลูก และได้รับการกล่าวกันว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความวุ่นวายออกมาจากร่างกายของผู้หญิง
เหล่าหญิงผู้โชคร้ายที่ประสบกับโรคฮิสทีเรียจะถูกนำไปกักตัวในโรงพยาบาลบ้าทันที ถึงขั้นถูกบังคับให้ผ่าตัดนำมดลูกออกไปเลย…
ผู้ป่วยกับอาการเบื่ออาหาร
อย่างไรก็ตามในช่วงที่นาย Jean-Marie Charcot รับหน้าที่ดูแลโรงพยาบาลปีเต-แซลแปตริแยร์ เขาพยายามที่จะดำเนินการรักษาที่ถูกต้องให้กับโรคฮิสทีเรีย
ใช้วิธีการสังเกตอาการ เข้าไปพูดคุยกับผู้ป่วย ตรวจดูการตอบสนองและให้พวกเธอลองทำสิ่งต่างๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย
ผู้ป่วยในอาการเศร้าโศกและใจลอย ถูกระบุให้เป็นโรคฮิสทีเรีย
.
จากนั้นเขาจะทำการบันทึกรายละเอียดทั้งหมดพร้อมกับถ่ายภาพเก็บประวัติอย่างสม่ำเสมอ ว่าผู้ป่วยนั้นมีความคืบหน้าเป็นอย่างไรบ้าง…
หนึ่งในการทำบันทึกพร้อมภาพถ่ายอย่างละเอียด
ภายหลังทำให้ Charcot นั้นเข้าใจได้ว่าฮิสทีเรียคือความผิดปกติของระบบประสาท ซึ่งผู้ป่วยมักจะมีอาการผิดปกติทางพันธุกรรมของระบบประสาท
ผู้ป่วยหญิงพร้อมกับตัวอักษร ระบุอาการป่วยบนแผ่นหลัง
แต่ในช่วงปลายชีวิตของเขาในปี 1890 เขาทำการสรุปไว้ว่าฮิสทีเรียนั้นเป็นโรคทางจิต ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากการถูกทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรง
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.