ในปัจจุบันก็มีผู้คนจำนวนมากที่กำลังทนทุกข์ทรมานกับโรคไมเกรนที่ในขณะนี้ก็ยังไม่มีใครทราบสาเหตุที่มาที่แน่ชัดของการเกิดโรคนี้ ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญก็ได้มีการยอมรับว่าอาการปวดหัวอย่างรุนแรงนั้นอาจเกิดมาจากยาที่ได้รับเข้าไปนั้นส่งผลต่อระบบต่อมไร้ท่อ หรือการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
แต่อีกหนึ่งเหตุผลก็คือพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อความรู้สึกได้เช่นกัน จากหลายงานวิจัยกล่าวว่าประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของคนทั้งหมดที่ป่วยเป็นโรคไมเกรนนั้นมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงจากการเลือกรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมเหล่านี้
1. ชีสที่ใช้เวลาบ่มนาน
ชีสที่ผ่านกระบวนการบ่มเป็นเวลานานอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการของโรคไมเกรนเนื่องจากมีระดับของสาร Tyramine สูง เช่นเชดด้าชีส สวิสชีส บลูชีสและพาเมซานชีส แต่ก็มีชีสบางประเภทที่มีระดับของ Tyramine ต่ำเนื่องจากเป็นชีสสด เช่นอเมริกันชีส ครีมชีสและริคอตต้าชีส
ส่วนมอสซาเรลลาชีสนั้นมีทั้งประเภทที่บ่มด้วยเวลานานและไม่นาน จึงควรตรวจสอบที่ฉลากของชีสก่อนที่จะซื้อมารับประทาน
2. ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวนั้นมีกรดมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระดับกรดเบสในกระแสเลือดได้ และยังเพิ่มโอกาสในการเกิดอาการปวดหัวจากโรคไมเกรนอีกด้วย บางงานวิจัยกล่าวว่า 11 เปอร์เซ็นต์ของคนที่มีอาการปวดหัวรายงานว่าเกิดจากการรับประทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
นอกจากนั้นผลไม้เหล่านี้ยังมีสาร Tyramine และ Histamine ที่สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพหากร่างกายของคุณได้รับสารเหล่านั้นมากเกินไป
3. ของเย็น
ถ้าคุณชอบทานไอศกรีมหรือดื่มน้ำเย็นอย่างรวดเร็วในขณะที่ร่างกายของคุณนั้นมีอุณหภูมิสูงจากการออกกำลังกายหรืออยู่ในอากาศที่ร้อนเกินไป คุณอาจมีอาการปวดหัวอย่างหนัก ซึ่งอาจมีระยะเวลาประมาณ 25-60 วินาที หรืออาจนานถึง 1-2 นาทีเลยทีเดียว
4. กลูเต็น
กลูเต็นเป็นโปรตีนที่พบอยู่ในธัญพืชเช่นแป้ง ข้าวสาลี ข้าวไรย์ หรือข้าวบาร์เลย์ ซึ่งธัญพืชหรือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมาเหล่านี้จะทำให้เกิดอาการของโรคไมเกรนได้สำหรับคนที่แพ้กลูเต็น
5. วัตถุเจือปนอาหาร
เป็นวัตถุหรือส่วนประกอบที่ตามปกติแล้วไม่ได้ใช้เป็นอาหาร ไม่ว่าวัตถุนั้นจะมีคุณค่าทางโภชนาการหรือไม่ก็ตาม แต่ใช้เจือปนเพื่อประโยชน์ทางเทคโนโลยีการผลิตหรือการเก็บรักษา
สาร Monosodium glutamate (MSG – E621) เป็นผงชูรสที่ใช้กันโดยทั่วไป ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการของโรคไมเกรนหลังจากที่รับประทานประมาณ 20 นาที
สาร Nitrates หรือ Nitrites มักจะพบในเนื้อที่ผ่านกระบวนการ เช่นไส้กรอก แฮม หรือเบคอน เมื่อสารเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายจะทำให้เส้นเลือดขยายตัว และอาจส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวรุนแรงได้
สีผสมอาหารสีแดงและเหลือง มักจะพบมากในลูกอม ขนมหวาน หรือน้ำอัดลม สารเหล่านี้ทำมาจากปิโตรเลียม เช่นเดียวกับที่ใช้ทำน้ำมันเครื่อง ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพแน่ๆ
6. คาเฟอีน
การได้รับสารคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายเป็นจำนวนมากนั้นเป็นสาเหตุให้เกิดอาการปวดหัว ดังนั้นจึงควรจำกัดการบริโภคคาเฟอีนเพียงวันละ 200-300 มิลลิกรัมต่อวัน จำไว้ว่าสารคาเฟอีนนั้นก็มีอยู่ในผลิตภัณฑ์อื่นด้วยเช่นกัน เช่น ช็อกโกแลต โกโก้ ชา น้ำอัดลม หรือแม้กระทั่งยาแก้ปวดบางชนิด
7. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์อย่างไวน์ เบียร์และเหล้านั้นเป็นสาเหตุของอาการปวดหัวทั้งหลาย
ซึ่งอาการปวดหัวจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นมี 2 ประเภท ประเภทแรกคืออาการปวดหัวทั่วไปที่จะเริ่มเกิดอาการภายในไม่กี่ชั่วโมง และประเภทที่ 2 คืออาการปวดหัวแบบดีเลย์ หรือที่เรียกกันว่าอาการแฮงค์นั่นเอง
วิธีบรรเทาอาการปวดไมเกรน
พฤติกรรมการรับประทานอาหารนั้นก็เป็นหนึ่งบทบาทที่สำคัญในการดูแลรักษาสุขภาพ ถ้าหากต้องการที่จะจัดการกับอาการปวดไมเกรน มีวิธีง่ายๆ ก็คือ การดื่มน้ำบ่อยๆ ไม่งดมื้ออาหาร ทานวิตามินและเกลือแร่ ทานผักผลไม้และพืชตระกูลถั่ว
ที่มา Brightside
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.