13 สิ่งที่คุณอาจเคยคิดว่า ชนชาติอเมริกาเป็นผู้ให้กำเนิด แต่ความจริงแล้วไม่ใช่นะจ๊ะ!?

เมื่อพูดถึงดินแดนเสรี ดินแดนแห่งโอกาสที่ผู้คนมักจะเข้าไปแสวงโชคให้กับตน จนเกิดเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลกได้ #เหมียวเลเซอร์ กำลังกล่าวถึง สหรัฐอเมริกา ดินแดนที่เต็มไปด้วยความฝัน และความหวังในการประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ ให้กับโลก (เป็นส่วนใหญ่)

ทั้งนี้ เราอาจจะเห็นได้ว่าประเทศนี้มักจะมีนวัตกรรมใหม่มาป้อนให้มนุษยชาติเสมอ ทั้งอาหารการกิน ผลิตภัณฑ์ข้าวของเครื่องใช้ รถยนต์และนวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ

แต่หารู้ไม่ว่า บางสิ่งที่เคยเกิดขึ้นนั้นไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากสหรัฐอเมริกานะจ๊ะ อันเป็นข้อมูลเปิดเผยจากทางเว็บไซต์ Insider ถ้าอยากจะรู้ว่ามีอะไรบ้าง เอาล่ะ… เลื่อนลงมาอ่านกันได้เลย

 

พายแอปเปิล

 

วลีเปรียบเปรยของหวานชิ้นนี้ ที่เป็นเหมือนดั่งเมนูตำรับของชนชาติอเมริกัน กลับไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากที่นี่ เพราะในอดีตโบราณ ชนชาติกรีกเป็นผู้ให้กำเนิดพายแอปเปิลมาก่อน จนกระทั่งยุคกลางของอังกฤษ เมนูนี้ได้รับความนิยมสูงมากๆ จนมาสู่การตั้งถิ่นฐานในอเมริกา (อ้างอิง)

 

เพลงชาติอเมริการ้องด้วยน้ำเสียงโทนเดียวกันกับเพลงขี้เมาชาวอังกฤษ

 

เมื่อ Francis Scott Key นักกฎหมายชาวอเมริกันเขียนกลอนขึ้นมา จนถูกนำมาใช้เป็นเนื้อเพลงชาติ Star-Spangled Banner เขามีทำนองอยู่ในหัวแล้วแต่มันไม่สละสลวยเท่าไหร่นัก

จนกระทั่งได้นำโทนเสียงจากเพลง To Anacreon in Heaven ของอังกฤษมาใช้ ด้วยเนื้อหาที่เชิดชูความเมามายมากกว่าความรักชาติ แต่ก็ถูกนำมาใช้ประกอบกับเพลงชาติอเมริกันจนถึงปัจจุบัน

 

สองพี่น้องตระกูล Wright ไม่ได้สร้างเครื่องบินเป็นลำแรกของโลก

 

ผู้ที่สร้างเครื่องบินได้ลำแรกของโลกคือ ชาวไร่จากนิวซีแลนด์นามว่า Richard Pearse โดยที่สามารถออกบินได้ระยะทาง 320 เมตร ในเดือนมีนาคม ปี 1902 เป็นเวลาหลายเดือนก่อนที่สองพี่น้องตระกูล Wright จะสามารถสร้างเครื่องบินที่ร่อนได้อย่างมั่นคง

 

‘ฮอทดอก’ ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยเยอรมนีและออสเตรีย

 

อีกหนึ่งอาหารประจำชนชาติอเมริกัน ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะมีร้านเล็กๆ ขายฮอทดอกอยู่เสมอ แต่จริงๆ แล้วจุดเริ่มต้นของฮอทดอก มาจาก Gaius พ่อครัวของ Nero จักรพรรดิแห่งโรมัน ที่ได้ริเริ่มวิธีการทำไส้กรอก จากการนำไส้หมูมาบดรวมกับเนื้อหมูพร้อมเครื่องเทศ

จนถึงช่วงปี 1600 Johann Georghehner คนขายเนื้อในเมืองโคบูร์ก ได้เดินทางมายังเมืองแฟรงเฟิร์ต เพื่อโปรโมทเมนู Dachshund (อีกชื่อหนึ่งคือ Little-Dog) ในลักษณะคล้ายกับขนมปังไส้กรอก จนมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Frankfurter

แต่แล้วภายหลังในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย (Vienna อ่านพ้องได้เช่นเดียวกับคำว่า Wiener) พยายามอ้างถึงชื่อ Wien จากประเทศเยอรมนี ที่แปลได้เป็นคำว่าฮอทดอกเช่นเดียวกัน ซึ่งพยายามพิสูจน์ว่าชื่อนี้นี่แหละคือต้นกำเนิดของฮอทดอกบนโลกใบนี้ (อ้างอิง)

 

ความจริงแล้วไอเดียแรกเริ่มของโทรศัพท์ มีต้นกำเนิดมาจากดินแดนแคนาดา

 

ถึงแม้ว่า Alexander Graham Bell จะเป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน แต่เขาเกิดและเติบโตที่สกอตแลนด์ ก่อนจะย้ายถิ่นฐานมายังเมืองแบรดฟอร์ด รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ในปี 1870

จนกระทั่งริเริ่มไอเดียการสร้างเครื่องมือสื่อสาร จากการสังเกตกระแสของแม่น้ำ ทำให้เขาคิดได้ว่าน่าจะสามารถส่งเสียงได้ ด้วยวิธีการควบคุมความเข้มของกระแสไฟฟ้า

หลังจากที่สามารถสร้างได้สำเร็จเขาก็ได้เข้ายื่นจดสิทธิบัตรในสหรัฐอเมริกา ก่อนจะกลับไปยังแคนาดา เพื่อทดสอบการส่งเสียงระยะไกลเป็นครั้งแรกระหว่างเมืองแบรดฟอร์ดและปารีส ในรัฐออนแทรีโอ

 

ผ้ายีน ถูกประดิษฐ์ขึ้นในฝรั่งเศส ช่วงศตวรรษที่ 18

 

ยีน ถูกสร้างขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจในช่วงศตวรรษที่ 18 ณ เมือง Nîmes (นีม) ประเทศฝรั่งเศส ด้วยความพยายามที่จะลอกเลียนแบบเนื้อผ้าอิตาลี Serge จนออกมาเป็นเนื้อผ้าที่มีชื่อว่า serge de Nîmes หรือเรียกสั้นๆ ว่า denim

จนกระทั่ง Levi Strauss ได้แนะนำชนชาติอเมริกันให้รู้จักกับผ้า denim ช่วงที่เขาอพยพมาจากบาวาเรีย ในปี 1853 อาศัยอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก ร่วมผลิตผ้ากับ Jacob Davis ช่างตัดเสื้อจากรัฐเนวาดา จนได้วิธีการใช้หมุดเสริมความแกร่งให้กับกางเกงที่ใช้ในอุตสาหกรรมเหมือง

 

รถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิง ถูกสร้างขึ้นในประเทศเยอรมนี

 

แม้ว่า Henry Ford และรถยนต์รุ่นแรกๆ ของเขานั้นจะเป็นของอเมริกันขนานแท้ แต่ยุคแรกเริ่มของรถยนต์นั้นมีต้นกำเนิดในประเทศเยอรมนี

ย้อนกลับไปในปี 1866 Karl Benz ผู้ให้กำเนิดแบรนด์ Mercedes-Benz เป็นบุคคลที่จดทะเบียนยานพาหนะ ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นคันแรกของโลก ในชื่อภาษาเยอรมัน Motorwagen (Motorcar ในภาษาอังกฤษ)

 

การทดลองแรกเริ่มที่นำไปสู่การให้กำเนิดโทรทัศน์ มาจากรัสเซียและสหราชอาณาจักร

 

Philo Taylor Farnsworth ชาวอเมริกัน หรือที่รู้จักกันในนามบิดาผู้ให้กำเนิดโทรทัศน์ไฟฟ้า ในปี 1927 เมื่อเขาอายุเพียง 21 ปี ได้เปิดตัวหลอดกล้องวิดีโอที่สามารถส่งภาพได้ ด้วยการสแกนผ่านลำแสงอิเล็กตรอน

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เป็นคนแรกที่สร้างโทรทัศน์ออกมาให้ชาวโลกได้ใช้ เพราะ Boris Rosing จากรัสเซียและ John Logie Baird จากอังกฤษได้ทำการทดลองที่นำหน้าสิ่งประดิษฐ์ของ Farnsworth ไปแล้ว

ปี 1907 Rosing ผู้สอนวิชาความรู้ให้กับผู้ริเริ่มอนาคตของโทรทัศน์ Vladimir Zworykin ร่วมกันวิจัยหลอดรังสีแคโทดจะสามารถนำมาใช้เป็นตัวรับสัญญาณได้หรือไม่ และทำการจดสิทธิบัตรกับทางเยอรมนีไปแล้ว ในขณะที่ Baird ได้ทำการค้นพบในปี 1924 ว่าการหมุนจานที่มีรูนั้น สามารถส่งออกมาเป็นภาพได้โดยอัตโนมัติ

 

ถ่านไฟฟ้า ถูกประดิษฐ์ขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 ในประเทศอิตาลี

 

นักฟิสิกส์ชาวอิตาลี Alessandro Volta ผลิตถ่านไฟฟ้าได้เป็นครั้งแรกในช่วงปี 1800 ถูกเรียกในนาม Voltaic Pile ประกอบด้วยแผ่นสังกะสีและเงิน (หรือทองแดงและดีบุกผสมตะกั่ว) วางซ้อนทับกันพร้อมแยกประกบผ้าที่ชุบด้วยน้ำเค็ม

 

การถ่ายภาพเอกซเรย์ ถูกประดิษฐ์ขึ้นในเยอรมนี

 

ในปี 1895 วิศวกรเครื่องกลชาวเยอรมัน Wilhelm Röntgen ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ เป็นผู้ค้นพบรังสีเอกซ์คนแรกของโลก

และ Thomas Edison ก็ได้นำการค้นพบของ Röntgen นำมาต่อยอดสู่รากฐานงานประดิษฐ์ของตน เช่น หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์

อย่างไรก็ตาม Edison ได้หยุดทำการทดลองกับรังสีเอกซ์ เมื่อผู้ช่วยของเขาเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนที่ได้รับจากรังสีเอกซ์

 

และต่อเนื่องจากงานประดิษฐ์ของ Edison – ชายชาวอังกฤษ เป็นบุคคลแรกที่สร้างหลอดไฟได้สำเร็จ

 

Humphry Davy คือผู้คิดค้นและประดิษฐ์โคมไฟฟ้าได้สำเร็จเป็นคนแรก ในปี 1809 หลังจากที่ค้นพบปฏิกิริยาเคมีที่จำเป็นต่อการผลิตกระแสไฟฟ้า

อุปกรณ์ของ Davy ถูกสร้างขึ้นจากสายไฟฟ้าสองเส้นที่ต่อเข้ากับแบตเตอรี่ เขายึดแถบถ่านเข้ากับสายไฟ และสังเกตเห็นว่าคาร์บอนที่ปล่อยประจุได้ มีแสงเปล่งประกายออกมา

หลายสิบปีให้หลัง ช่วงปี 1870 Thomas Edison ก็ประสบความสำเร็จ ในการสร้างหลอดไฟฟ้าสำหรับเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก

 

กระป๋องฉีดละออง ถูกคิดค้นขึ้นจากประเทศนอร์เวย์

 

แม้ชนชาติอเมริกันจะรู้จักกับกระป๋องฉีดละออง ในรูปแบบของสเปรย์ฉีดกันแมลงที่ช่วยปกป้องทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่กระป๋องแบบนี้มีต้นกำเนิดมาจากรากฐานชาวนอร์ดิก

Erik Rotheim วิศวกรชาวนอร์เวย์ เป็นผู้จดสิทธิบัตรกระป๋องอัดแรงดันชิ้นแรกของโลก พร้อมกับระบบวาว์ล ในปี 1927

 

อุปกรณ์อันเป็นหน้าตาของนักข่าวอเมริกันยุคแรก แผ่นจดบันทึก เป็นสิ่งประดิษฐ์ของออสเตรเลีย

 

หากมองกลับไปในยุคแรกๆ ของการข่าวในอเมริกา จะเห็นว่านักข่าวมักจะมีแผ่นจดบันทึกติดตัวอยู่เสมอ แต่เอาเข้าจริงๆ แผ่นจดบันทึกถูกสร้างขึ้นมาในปี 1902 โดย J.A. Birchall ผู้เป็นเจ้าของร้านเครื่องเขียนในรัฐแทสเมเนีย ประเทศออสเตรเลีย

ด้วยความเบื่อจากการขายกระดาษที่ใช้เขียนกองทับกันแบบ 4 แผ่น (แบ่งได้เป็น 8 หน้า) เขาจึงใช้กาวทาติดแบบขนาดครึ่งแผ่น และเพิ่มกระดาษแข็งเข้าไปเพื่อให้ดูทันสมัยมากขึ้น และแล้วแผ่นจดบันทึกชิ้นแรกก็ถือกำเนิดในนาม Silver City Writing Tablet

 

ที่มา : thisisinsider