เรารู้ดีว่ารูปแบบหรือลักษณะการกินของตัวเราคือสิ่งสำคัญที่จะกำหนดรูปร่างของเรา ทำให้หลายๆ คนที่กำลังประสบปัญหาน้ำหนักมากกว่าเกณฑ์มักจะหาหนทางหรือรูปแบบการกินที่สามารถช่วยลดน้ำหนัก ทำให้ตัวเองผอมลงได้
วันนี้เราจึงมาพูดถึง “รูปแบบการกินสุดแหวกแนวเพื่อการลดหุ่น” ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่งมันดูน่าเหลือเชื่อ ทว่ากลับเคยเกิดขึ้นจริงบนโลกของเรา และเอาเข้าจริงๆ บางวิธีก็ไม่ควรทำตามกันสักเท่าไหร่ ถ้าอยากรู้ว่ามันพิสดารมากขนาดไหน เราลองไปดูกันเลย
1. การกินแบบเจ้าหญิงนิทรา
วิธีการนี้เกิดจากความเชื่อที่ว่า “เมื่อเราหลับ เราก็จะไม่ได้กินอาหาร” โดยการที่พวกเขาจะกินยากล่อมประสาทเข้าไปให้ตัวเองหลับในช่วงกลางวัน หลีกเลี่ยงการกินอาหาร ลดน้ำหนักของตัวเองได้ ซึ่งหนึ่งในคนที่มีชื่อเสียงที่ใช้วิธีการนี้คือ Elvis Presley เขาทำอย่างนั้นอยู่นานหลายวัน จนกระทั่งเขาต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการโคม่า
สาเหตุเกิดจากการใช้ยามากเกินไป จนทำให้มีอาการเสพติด และเพิ่มความเสี่ยงของอัตราการเกิดโรคหัวใจและเบาหวาน จึงเป็นวิธีที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง
2. ลดน้ำหนักด้วยการสูบบุหรี่
นี่คือผลลัพธ์จากการโฆษณาของบริษัทบุหรี่ที่ชื่อว่า Lucky Strike ในช่วง 1920s ด้วยสโลแกนที่ว่า “เสพบุหรี่ Lucky แทนการเสพของหวาน”
แม้ว่าการสูบบุหรี่จะช่วยระงับความอยากอาหารของเราได้จริง แต่ผลจากการสูบนั้นจะเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวาน หัวใจล้มเหลว และมะเร็งปอด ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องแลกมากับความผอมเพรียว
3. การกินแบบ Hallelujah
หลักการของรูปแบบการกินนี้คือ กินแต่อาหารดิบและพืชผักที่มีการกล่าวถึงในพระคัมภีร์ไบเบิลเท่านั้น เพื่อเป็นการชำระล้างสารพิษออกจากร่างกาย ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบที่เคยมีคนทำตามเยอะมาก
แต่แน่นอนว่ามันเป็นวิธีการที่ค่อนข้างสุดโต่งเอามากๆ และขาดความสมดุลไป เพราะเราจะต้องห้ามตัวเองไม่ให้กินเนื้อสัตว์หรือผลผลิตของสัตว์ทุกชนิด รวมถึงอาหารแปรรูปก็ด้วย
4. ลดน้ำหนักด้วยการกินพยาธิตัวตืด
รูปแบบการกินที่ดูไม่ค่อยน่าอภิรมย์เท่าไหร่นี้เริ่มขึ้นในช่วง สมัยวิกตอเรีย (ค.ศ.1837 – 1901) เมื่อสาวๆ พยายามอย่างหนักเพื่อให้ตัวเองมีหุ่นผอมเพรียวตรงกับมาตรฐานในสมัยนั้น แม้แต่นักร้องเพลงโอเปร่าชื่อดังอย่าง Maria Callas ก็ยังใช้วิธีการเดียวกัน กินพยาธิเข้าไปเพื่อทำให้ตัวเองผอม ตามความเชื่อของตำนานที่เคยได้ยินมา
อย่างไรก็ตามการกินยาที่เต็มไปด้วยไข่พยาธินั้นอาจสามารถทำให้น้ำหนักลดลงได้จริง แต่มันต้องแลกกับอาการท้องร่วง คลื่นไส้อาเจียน และเป็นไข้
5. ลดน้ำหนักด้วยการกินสำลีก้อน
ในปี 2013 มีคลิปวิดีโอในยูทูบเผยให้เห็นเด็กวัยรุ่นกินสำลีก้อนชุบน้ำผลไม้ ซึ่งเกิดจากความคิดที่ว่ามันจะช่วยทำให้เราอิ่มแทนการกินอาหารแบบทั่วๆ ไปได้ แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งนี้ไม่ได้ทำมาจากสำลีเพียงอย่างเดียว มันยังเต็มไปด้วยสารเคมีมากมาย และยังเข้าไปขัดขวางระบบทางเดินอาหารของเราได้อีกด้วย
6. ลดน้ำหนักด้วยการกินน้ำส้มสายชู
เป็นวิธีหนึ่งที่เกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 และเป็นสิ่งที่ผู้มีชื่อเสียงหลายๆ คนในยุคนั้นทำตามๆ กันมา แม้แต่นักกวีชื่อดังอย่าง George Gordon Byron ก็ใช้วิธีนี้ในตอนที่กำลังเรียนอยู่ โดยเขาจะกินแค่บิสกิต โซดา และมันฝรั่งทานคู่กับน้ำส้มสายชู ซึ่งหนักสุดคือก่อนกินทุกมื้อเขาจะทานน้ำส้มสายชูเข้าไปหลายช้อนเพื่อยับยั้งความอยากอาหาร
เหตุที่เราไม่ควรทำตามวิธีดังกล่าวก็เพราะว่า การกินน้ำส้มสายชูมากจนเกินไปจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาฟันโดนกัดเซาะ ช่วงลำคอถูกกรดเข้าไปเผาไหม้ และระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ
7. การกินด้วยการมอง
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในช่วงปี 2000s เป็นไอเดียของนักประดิษฐ์ชาวญี่ปุ่น เขาบอกว่าสีเหลืองและแดงจะเข้าไปกระตุ้นความอยากอาหาร แต่หากสีน้ำเงินจะไม่เป็นอย่างนั้น ทฤษฎีของเขาจึงบอกให้เราใส่แว่นสีน้ำเงินเอาไว้เพื่อลดความอยากอาหาร ทำให้เรากินน้อยลง อย่างไรก็ตามมันยังคงไม่มีงานวิจัยไหนรองรับว่านี่เป็นเทคนิคที่ใช้ได้จริง
8. ลดน้ำหนักด้วยการเคี้ยว
Horace Fletcher กลายเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ด้วยชื่อสุดยอดนักเคี้ยว เขาเสนอว่าให้เราเคี้ยวอาหารแต่ละคำ 32-80 ครั้ง จนกระทั่งมันกลายเป็นของเหลวภายในปาก ก่อนที่จะคายซากที่เหลืออยู่ออกมา
และถึงแม้ว่าวิธีการนี้จะไม่มีใครบอกได้ว่ามันให้ผลจริงหรือเปล่า แต่ก็มีคนมีชื่อเสียงหลายๆ คนทำตาม อย่างเช่นนักเขียน Franz Kafka และประธานาธิบดี Theodore Roosevelt แห่งสหรัฐอเมริกา
9. การกินแบบ Andy Warhol
Warhol คือชื่อของศิลปินหนุ่มที่มีชื่อเสียงในอเมริกา เขาได้แชร์เทคนิคการกินของตัวเองเอาไว้ในหนังสือที่ชื่อว่า The Philosophy of Andy Warhol โดยเขาเล่าว่าทุกครั้งที่ตัวเองเข้าร้านอาหาร เขาจะสั่งของกินที่ตัวเองไม่ชอบมาเสมอ เมื่อกินเสร็จจะเก็บส่วนที่เหลืออยู่ทั้งหมดเกือบทั้งจาน แล้วนำไปให้กับเหล่าคนไร้บ้าน
10. ลดน้ำหนักด้วยคุกกี้
วิธีนี้คิดค้นโดยดอกเตอร์ Sanford Siegel ในปี 1975 เคล็ดลับคือให้เรากินคุกกี้ชนิดพิเศษจำนวน 6 ชิ้นแทนการกินอาหารเช้าและอาหารกลางวัน จากนั้นตอนเย็นค่อยกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
คุกกี้ที่เขาพูดถึงนั้นทำมาจากข้าวโอ๊ต ผลไม้ และกรดอะมิโนต่างๆ ทำออกมาในหลายรสชาติ ซึ่งนักโภชนาการบางคนยังคงไม่แน่ใจว่าวิธีการกินแบบนี้มันจะสร้างความสมดุลและดีต่อสุขภาพของเราจริงหรือเปล่า
11. การกินแบบคลีนสุดๆ
วิธีการกินแบบนี้สามารถเห็นได้จากนักร้องชื่อดังอย่าง Beyonce ที่เธอใช้น้ำมะนาวดีท็อกซ์แบบพิเศษแทนการกินอาหารแบบปกติดั้งเดิม โดยน้ำดีท็อกซ์นั้นจะใส่น้ำมะนาว น้ำเชื่อมเมเปิ้ลแบบสดๆ และพริกป่น
ปัญหาของการกินแบบนี้คือเมื่อไหร่ที่เราหยุดทำมัน แล้วกลับมากินอาหารตามปกติอีกครั้ง น้ำหนักของเราจะกลับขึ้นมาอย่างฮวบฮาบ เร็วพอๆ กับช่วงเวลาที่น้ำหนักเราลดลงไปเลย
12. ลดน้ำหนักด้วยการเย็บลิ้น
วิธีนี้คิดค้นโดยแพทย์ศัลยกรรมพลาสติก ดอกเตอร์ Chugay ด้วยการเอาด้ายเย็บเข้าไปตรงลิ้นหลายๆ จุด ทำให้เราไม่สามารถกินอาหารแบบปกติได้เพราะมันจะเจ็บ เราจะกินได้แค่ของเหลวเท่านั้น โดยคนที่ใช้วิธีนี้จะมีเย็บทิ้งไว้อย่างนั้นนาน 1 เดือน ก่อนที่จะกลับมาให้หมอเอาด้ายออกอีกที
สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีการลดความอ้วนแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้ลองสังเกตตัวเองให้ดีว่าในแต่ละวันได้รับสารอาหารที่เพียงพอหรือไม่ แล้วค่อยใช้การออกกำลังกายเข้ามาช่วย เพื่อที่ผลลัพธ์จะไม่ใช่แค่ผอมเพียงอย่างเดียว แต่มันจะทำให้เพื่อนๆ มีสุขภาพดีได้อีกต่างหาก
ที่มา: brightside
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.