คนเรานั้นในบางครั้งก็อาจจะคิดเรื่องบ้าๆ บอๆ ขึ้นมาอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นจินตนาการก้อนเมฆเป็นอะไรแปลกๆ หรือว่าการคิดเรื่องราวไปเรื่อยเปื่อย แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าหลายๆ ครั้ง เรื่องบ้าบอที่เราคิดนั้นกลับสมเหตุสมผลกว่าที่คิด
เรื่องราวในครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อเหล่าผู้คนที่นอนคิดเรื่องโน่นนั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย ตัดสินใจที่จะโพสต์เรื่องราวของพวกเขาลงใน Tumblr ทำให้เกิดเป็นบทสนทนาที่ดูจะบ้าบอเหล่านั้น มีอะไรให้คิดมากกว่าที่เห็นขึ้นมา
เลขคี่ทั้งหมดในภาษาอังกฤษมีตัว E
ไหนๆ One Three Five Seven Nine จริงๆ ด้วย!?
คนที่เรียนอะตอมจริงๆ แล้วก็เป็นกลุ่มอะตอมที่พยายามจะเข้าใจตัวเองน่ะสิ
นะ… นายทำอะไรลงไป
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเหตุผลที่เราเดินเข้าไปในกระจกไม่ได้ มันก็เพียงเพราะเงาสะท้อนของเราบังทางอยู่ล่ะ
ที่จริงแล้วเงาสะท้อนของเราอาจจะกำลังปกป้องเราอยู่ก็ได้นะ มันอาจจะรู้ว่าข้างในนั้นมันโหดร้ายและน่ากลัวมากก็เลยไม่อยากให้เราข้ามไปก็ได้
ถ้าอย่างนั้นฉันคงอยู่ผิดฝั่งแล้วสินะ โลกถึงได้โหดร้ายนัก
จริงๆ เราต่างหากที่อาจจะเป็นเงาสะท้อนที่ว่านั่นก็ได้
น่าโมโหนะเนี่ย
ทำไมหลานๆ ของฉันไม่ย้อนเวลามาหาฉัน
ฉันรู้สึกไม่ชอบใจสุดๆ เลยนี่ฉันไม่ดีพอสำหรับพวกนายเหรอ พวกหลานๆ
ด้ายยยยย… ฉันจะไม่มีลูกพวกแกจะได้ไม่เกิด รู้สึกยังไงบ้างล่ะ
มีแค่ฉันสินะที่รู้ว่าไอ้พวกรูปหัวใจที่เห็นกันบ่อยๆ มันเป็นหัวใจสองดวงติดกัน
อย่างนี้นี่เอง เพราะว่ารูปหัวใจพวกนั้นเป็นตัวแทนความรัก ก็เลยเป็นหัวใจสองดวงรวมกัน ว้าว
พอผู้คนพูดเรื่องการเดินทางไปในอดีต พวกเขาจะกลัวว่าการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยจะเปลี่ยนแปลงปัจจุบันไป
แต่จะมีกี่คนที่จะคิดว่าการกระทำของเราในปัจจุบันจะเปลี่ยนแปลงอนาคตไปขนาดไหน
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าจริงๆ แล้วร่างกายเราจะมีส่วนที่เจ็บอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ที่เราเกิด
และนั่นเป็นเหตุผลที่เด็กร้องไห้ ส่วนที่เราไม่รู้สึกเจ็บก็แค่เพราะเราชินกับมันแล้ว
ถ้าจริงๆ แล้วมนุษย์นั้นมีชีวิตอยู่เพื่อนอนหลับ
ส่วนที่เราตื่นมาก็เพื่อหาข้อมูลเพื่อไปฝันเท่านั้น
ความจริงที่ไม่น่าเชื่อ
คุณไม่เคยเห็นหน้าจริงๆ ของตัวเอง ที่คุณเห็นมันก็แค่เงาสะท้อน และรูปภาพ
อะไรบางอย่างกำลังสัมผัสคุณอยู่ตลอดเวลา
คุณสามารถมองเห็นจมูกอยู่เสมอ
ลิ้นของคุณไม่เคยอยู่นิ่งๆ เฉยๆ ในปากคุณ
คุณจะไม่เคยรู้สึกอะไรเหมือนคนอื่น
คุณจะไม่สามารถจินตนาการสีใหม่ๆ ได้
ที่มา buzzfeed
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.