10 สถานที่ท่องเที่ยวจริงๆ จากเกม ‘กบน้อยนักเดินทาง’ ถ้าไม่กลับบ้านก็ต้องไปตามจนถึงที่!!

ถ้าพูดถึงเกมฮิตสุดต้นปีนี้ คงต้องขอยกให้เกม ‘น้องกบน้อยนักเดินทาง’ เลยทีเดียวเชียว แล้วเพื่อนๆ เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ที่เจ้ากบน้อยไป นั้นมีอยู่จริงๆ หรือไม่ และในวันนี้ เพจเฟซบุ๊ก www.facebook.com/modgazine/ ก็ได้รวบรวมมาไว้ให้พวกเราได้ชม

เวลาที่เจ้ากบน้อยเดินทางออกจากบ้านไปนี่แหละ เพราะเราก็ต้องมาลุ้นว่ามันจะส่งภาพของตัวเองกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ไปกลับมาให้หรือไม่ และเราลองตามไปดูกันครับว่าแต่ละสถานที่ซึ่งเจ้ากบไปนั้น มันเป็นสถานที่จริงที่ไหนบ้าง!?

 

1. Oirase Keiryu

 

ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอาโอโมริ โดยสะพานที่เห็นในภาพนี้เป็นสะพานที่พาดผ่านลำธารที่ไหลมาจากทะเลสาบโทวาดะผ่านหุบเขาโออิระเซะมา

สถานที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียวชะอุ่ม และถ้าเป็นเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแล้วล่ะก็ ผู้คนจะหลั่งไหลมากันที่นี่เพื่อชมความเปลี่ยนแปลงอันแสนมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ป่าทั้งป่าจะกลายเป็นสีแดงสวยสดงดงาม

 

2. Godaido Temple

 

วัดโกไดโดะเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1350 กลายเป็นสถานที่ขึ้นชื่อของจังหวัดมิยางิ และจุดเด่นของวัดนี้ก็เป็นสะพานสีแดงที่เห็นในภาพ มีชื่อว่า Sukashi-bashi (สะพานสึคาชิ)

โดยตัวสะพานจะมีร่องที่ค่อนข้างห่างกันมากเพื่อให้นักท่องเที่ยวก้มมองเท้าเวลาเดินเข้าวัด สื่อถึงการเตรียมความพร้อมทางจิตใจในการไปวัด ถ้าเผลอไม่ระวังสะดุดก็อาจจะแปลว่าจิตใจยังไม่เหมาะกับการเข้าวัดนั่นเอง

 

3. Kusatsu Onsen

 

คุสัทสึ อนเซ็น เป็นสถานที่แช่น้ำพุร้อนอนเซ็นที่รู้จักดีในหมู่ผู้นิยมแช่น้ำร้อนมากที่สุด เพราะติดอันดับ top 10 ของประเทศญี่ปุ่นมาตลอด และเคยอยู่อันดับ 1 มากว่า 15 ปีซ้อนด้วย!!

ส่วนบริเวณที่คุณกบไปนั่งกินออนเซนมันจูอยู่คือ Yubatake (ยูบาทาเกะ) เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดกุนมะเลยก็ว่าได้ เป็นจุดที่น้ำพุร้อนผุดขึ้นมาและถูกแจกจ่ายไปตามออนเซนต่างๆ ในเมือง ที่ต้องทำแบบนี้เพราะน้ำร้อนที่นี่มีอุณหภูมิประมาณ 70 องศาเลยทีเดียว

 

4. Zenkoji Temple

 

วันเซนโคจิเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 7 และเมืองนางาโน่เองก็เติบโตขึ้นจากชุมชนรอบวัดเซนโคจินี่แหละ

เชื่อกันว่าในวัดเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์แรกของญี่ปุ่นด้วย ซึ่งห้ามไม่ให้ใครเห็น แม้แต่เจ้าอาวาสก็ตาม!! แต่ในระยะต่อมาก็ได้มีการทำพระพุทธรูปจำลองขึ้นเพื่อเปิดให้สาธารณชนชม และจะเปิดให้ชมเป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ ในฤดูใบไม้ผลิทุกๆ 6 ปี เท่านั้น!!

 

5. Nagoya Castle

 

ปราสาทนาโกย่า ตั้งอยู่ในจังหวัดไอจิ เป็นปราสาทที่คนไทยที่ไปเที่ยวนาโกย่าน่าจะคุ้นตาเป็นอย่างดี เพราะว่ามีอยู่ในทุกแผนของทัวร์เมืองนาโกย่าเลยทีเดียว

ปราสาทนาโกย่าสร้างโดยโชกุน โทกุกาวะ อิเอะยาสุ บุรุษผู้ปิดฉากยุคสงครามเซนโคกุ (ยุคแห่งการจราจลที่ทำให้แผ่นดินญี่ปุ่นลุกเป็นไฟ) นอกเหนือจากชื่อแล้ว ตราประจำตระกูลโทกุกาวะ ก็น่าจะเป็นที่คุ้นตาด้วย มีลักษณะเป็นใบโพธิ์สามใบอยู่ในวงกลม

 

6. Uji Bridge

 

สะพานอุจิในจังหวัดเกียวโต ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังเพราะถูกใช้เป็นฉากในเรื่อง เก็นจิ โมโนกาตาริ (Genji monogatari) ซึ่งเป็นนิยายบรรยายเรื่องราวในรั้วชาววังในสมัยเฮอัน มักได้รับการกล่าวขานว่าเป็นนิยายเรื่องแรกของโลกด้วย

ส่วนในภาพนั้นก็คือ ‘กิโบชิ’ เป็นของประดับยอดทรงหัวหอม (บ้างก็ว่าทรงลูกท้อ) ว่ากันว่าถูกออกแบบมาให้รูปร่างคล้าย Hōju Jewel (ถ้าฝั่งจีนเรียกไข่มุกไฟ) ที่สามารถช่วยให้สมหวังได้ ก็เลยมีคนมากมายมาแตะที่ กิโบชิ อันนี้เพื่อขอให้ตัวเองสมหวังบ้าง มีทั้งขอเรื่องสุขภาพ ความสำเร็จ หรือขอให้ได้กลับมาอีกก็มี

 

7. Amanohashidate

 

ปกติคนไปเกียวโตก็จะชินกันแต่ไปวัด ไปภูเขา ไปแม่น้ำ แต่ที่เกียวโตเองก็มีวิวที่ติดอันดับสูงๆ ของญี่ปุ่นด้วย กับสันทรายธรรมชาติที่อามาโนฮาชิดาเตะ ซึ่งแปลว่าสะพานสู่สวรรค์

วิธีชื่นชมวิวนี้อย่างถูกต้องก็คือให้ก้มลงมองลอดหว่างขากลับหัว เรียกว่า Matanozoki
เมื่อกลับหัวแล้วจะเห็นสันทรายเหมือนตัวมังกร ปลายหางอยู่ทางน้ำ (ท้องฟ้า) บินกลับขึ้นฟ้า (ทะเล) ไป เรียกว่า Hiryukan แปลว่ามังกรบินขึ้นฟ้า

 

8. Arima Onsen

 

น้ำพุร้อนที่ว่ากันว่าน่าจะเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 ตอนนี้ ก็ผ่านมาแล้วกว่าพันสามร้อยปี นานจนนึกภาพไม่ออกเลยทีเดียว

ว่ากันว่า ถ้ามาโกเบก็ต้องไปแช่น้ำร้อนที่อาริมะ โดยจะมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์คือ มีบ่อเงิน (銀泉) และบ่อทอง (金泉) บ่อเงินก็คือน้ำใสปกติ แต่บ่อทองน้ำจะมีสีออกเหลืองสนิมจากธาตุเหล็ก และเกลือที่มีปริมาณมากนั่นเอง

 

9. Izumo Taisha

 

ศาลเจ้าอิซุโมะ เป็นศาลของศาสนาชินโต แม้ไม่มีประวัติว่าสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นศาลเจ้าที่สำคัญมากๆ และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้

ศาสเจ้าอิซุโมะโด่งดังในเรื่องของการผูกสัมพันธ์ ความรัก การสมรส โดยการขอพรมักจะปรบมือ 4 ครั้ง (ปกติปรบ 2 ครั้ง) นัยว่าปรบ 2 ครั้งให้ตนเอง และ 2 ครั้งให้คนรัก หรือคนที่แอบรัก (โรแมนติกสุดๆ)

 

10. Nyudozaki Lighthouse

 

ปกติที่เราจะคุ้นกันกับของดีจังหวัดอาคิตะคือข้าว เหล้าสาเก และหมู่บ้านลับนิวโตอนเซนแล้ว วันนี้คุณกบก็พาไปชมประภาคารนิวโดะซากิ ซึ่งอยู่สุดปลายแหลมนิวโตะซากิ ซึ่งเป็นติ่งปลายสุดของจังหวัดอาคิตะ

ณ จุดที่สีเขียวของต้นไม้ตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้า และสีน้ำเงินของทะเล ก็มีประภาคารสีขาวดำโดดเด่นขึ้นมา ว่ากันว่าบริเวณนี้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเช่นกัน

 

นี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น หากเพื่อนๆ สนใจอยากอ่านเรื่องราวของสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละสถานที่แบบเต็มๆ ก็สามารถเข้าไปรับชมกันได้ที่โพสต์ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า

 

ที่มา : Modgazine