เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2018 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Waiiwaii Kunlanit หรือคุณ กุลนิษฐ์ เที่ยงแท้ ได้โพสต์เรื่องราวลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก ทาสแมว ประสบการณ์ชีวิตกับ ‘เชื้อราแมว’ ที่เกิดขึ้นกับตัวเธอมาเป็นเวลา 5-6 เดือนแล้ว
เธอได้โพสต์ว่า “ประสบการณ์ชีวิต กับเชื้อราแมวแสนโหด มีทาสคนไหนให้หนักกว่านี้มั้ย จุดเริ่มต้นจาก เอาแมวน้อยมาเลี้ยง นางเป็นเชื้อราเกือบทั้งตัว รักษานางได้ประมาณ 1 เดือน นางก็ดีขึ้น จนเข้าเดือนที่ 2 นางแทบไม่มีเชื้อราแล้ว
ส่วนตัวเราเริ่มมีอาการ ขึ้นจาก 2, 3, 4 ตุ่ม ซื้อยามาทา ไม่หาย เพิ่มเป็น 8, 9 ตุ่มไปรักษาโรงพยาบาลเอกชนที่นึง ไม่ดีขึ้น เริ่มเห่อขึ้นอีก เปลี่ยนที่ไปรักษาอีกโรงพยาบาลนึง เหมือนจะหายละ ละอยู่ดีดีก็เห่อมาอีก จนเครียดมากๆ พี่ที่ทำงานแนะนำคลินิกรักษาผิวหนังแถวที่เราอยู่ให้ไปรักษา”
“รักษาตุ่มที่อักเสบอยู่ประมาณ2อาทิตย์ ที่เหลือรักษารอยแผลเป็นจ้า ตอนนี้หายจะหมดแล้ว ประสบการณ์ชีวิตเลย 5-6 เดือนกับความทรมาน ใส่เสื้อแขนยาวกางเกงขายาวเวลาไปไหนตลอด5-6เดือน หมดเงินรักษาไปเป็นหมื่น หายด้วยยากระปุก 200 55555555555555 เกิดเป็นทาสแมวต้องมีความสตรอง มีสติ และมีสตางค์
*คลินิกที่เค้ารักษา อยู่ตรงบางขุนนนท์ เป็นคลินิกโรคผิวหนัง * ยาที่รักษา เค้าไม่รู้ว่าเป็นยาอะไรคะ เป็นแค่ตลับ เหมือนเป็นยาของทางคลินิกโดยเฉพาะ”
โฉมหน้าของผู้ร้าย
หลังจากที่เจ้าของเรื่องราวได้โพสต์เรื่องราวออกไปก็ได้รับความสนใจสมาชิกกลุ่มจำนวนมาก และก็มีผู้เข้าร่วมแชร์ประสบการณ์ของตัวเองด้วยเช่นกัน
เชื้อราในแมวมีอยู่ทั่วไป เจ้าของควรหมั่นรักษาความสะอาดเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคสู่คน
อีกหนึ่งปัญหาสำหรับน้องแมวนั่นก็คือเรื่องหมัดแมวที่อาจจะทำให้มนุษย์แพ้ได้
.
หนึ่งปัญหาที่ทาสแมวต้องเจอ
หมั่นรักษาความสะอาดทั้งแมวและคน
นอกจากนี้คุณกุลนิษฐ์ยังกล่าวให้สัมภาษณ์ให้กับทางสำนักข่าวเดลินิวส์อีกว่า
“หนูก็อุ้มเขา เล่นกับเขา แต่ตอนนั้นไม่ได้ให้นอนด้วยกัน เพราะก็รู้ว่าเขารักษาตัวอยู่ หมอโรงพยาบาลที่หนูไปรักษาที่แรก ไม่รู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไร คาดว่าน่าจะเกิดจากหมัดแมว เพราะมีหมัดเลยติดมา ส่วนหมอที่คลินิกโรคผิวหนัง มียาที่รักษาให้มาเป็นตลับ ไม่รู้ว่าเป็นยาอะไร เหมือนเป็นยาของทางคลินิกโดยเฉพาะ
โดยหมอแจ้งว่าสาเหตุมาจากเชื้อราแมว อีกทั้งผิวหนูไวต่อสิ่งรอบข้าง จึงเห่อขึ้นมาเยอะแบบนั้น แต่ที่รุนแรงคือหมัด และติดเชื้อราร่วมด้วย สิ่งที่สำคัญ ความสะอาดของแมว แล้วก็ตัวเรา สำคัญมาก เป็นแล้วต้องรักษา ทายา กินน้ำเยอะๆ ดูแลตัวเอง ห้ามนอนดึก จนตอนนี้หนูเริ่มดีขึ้น แผลหาย ทิ้งไว้แต่รอย”
เหล่าบรรดาทาสแมวทั้งหลายนอกจากจะดูแลเรื่องอาหารการกินของน้องแมวแล้ว ควรจะหมั่นสังเกตร่างกายของน้องแมวเพื่อสำรวจว่ามีสิ่งไหนผิดปกติบ้าง จะได้ทำการรักษาอย่างทันท่วงที ทั้งนี้ควรรักษาความสะอาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อด้วย
ที่มา Waiiwaii Kunlanit, เดลินิวส์
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.