White Lie เรื่องเล่าจากประเทศญี่ปุ่น โกหกที่ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ก็นำมาซึ่งเรื่องราวอันน่าเศร้า

White Lie หรือการโกหกสีขาว คือการโกหกเพื่อความสบายใจของผู้ที่รับฟัง จะเรียกว่าการโกหกที่ไม่ใช่เรื่องผิด หรือการโกหกที่ไร้เดียงสาก็ได้ บ่อยครั้งที่เป็นการกระทำเพื่อรักษาน้ำใจของอีกฝ่าย กล่าวง่ายๆ ว่ามักจะเป็นการโกหกด้วยความหวังดีนั่นเอง แต่การโกหกสีขาวนั้นก็ไม่ได้นำมาซึ่งเรื่องที่ดีเสมอไป เพราะสุดท้ายนั้น การโกหก ก็ยังคงเป็นการโกหกอยู่ดี

เรื่องเล่าในครั้งนี้เป็นเรื่องเล่ากึ่งนิทานของประเทศญี่ปุ่น ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กสาวขี้โกหก กับคุณแม่ผู้เกลียดการโกหกเข้าไส้ ด้วยชื่อเรื่อง “White Lie

 

 

ครั้งหนึ่งเคยมีเด็กสาวชื่อว่าจิอากิ เธอได้ยินเสียงของแม่เรียกในระหว่างที่กำลังเล่นอยู่ในห้องนอน เธอเดินลงมาจากชั้นสองและพบกับคุณแม่ที่อยู่ในห้องครัว

“จิอากิมานี่หน่อยสิ แม่มีอะไรจะถาม” แม่ของเธอกล่าว พลางกวักมือเรียกจิอากิเข้าไปหา

“อะไรเหรอแม่?” จิอากิถาม

“ลูกรู้ไหมว่าใครเป็นคนกินเค้กสำหรับแขกไป?” แม่ของเธอถามกลับ

“อืม…ไม่รู้ค่ะ” เธอปฏิเสธ

“ลูกกินไปรึเปล่า?” แม่ของเธอถามด้วยความสงสัย

“หนูไม่ได้กินนะแม่” เด็กสาวปฏิเสธอีกครั้ง พลางบิดมือด้วยความไม่สบายใจ

 

 

“จิอากิแม่ดูออกนะเวลาลูกโกหก” แม่ของเธอกล่าว จิอากิอาจจะไม่รู้ตัวแต่เวลาเธอโกหกเธอจะบิดมือเหมือนกับตอนนี้ “การเป็นหัวขโมยมันเริ่มต้นจากการโกหกนี่ล่ะ และหัวขโมยจะต้องถูกจับและลงโทษเสมอ ลูกเข้าใจที่แม่พูดไหม”

จิอากิทนรับความรู้สึกผิดไม่ไหว จึงยอมรับผิด เธอร้องไห้และบอกว่าเธอเป็นคนที่แอบกินเค้กไปเอง “โอ้ โอ้ หยุดร้องไห้เถอะลูก” แม่ของเธอกล่าว “แม่ไม่ได้เกลียดลูกหรอกนะ ก็แค่ไม่อยากให้ลูกเป็นคนขี้โกหกเท่านั้นเอง”

เรื่องราวประมาณนี้เกิดขึ้นอยู่หลายต่อหลายครั้ง บางทีนั่นอาจจะเป็นการเรียกร้องความสนใจในแบบของเด็กสาวก็เป็นได้ เธอจะโกหก ถูกจับได้ และยอมรับผิดอยู่อย่างนั้น แต่แล้วทุกสิ่งก็เปลี่ยนไปเมื่อแม่ของเธอมีลูกคนที่สอง

“จิอากินี่คือน้องสาวคนใหม่ของลูก… เธอชื่อนานะ ดูแลน้องให้ดีด้วยล่ะ” แม่ของเธอกล่าว

“ได้ค่ะแม่” จิอากิตอบ

 

 

แรกๆ มันก็ไม่มีอะไรแปลก พี่สาวคนหนึ่งช่วยคุณแม่ของเธอดูแลน้องสาวเป็นอย่างดี แต่หลังจากที่เวลาผ่านไปการที่แม่ต้องดูแลนานะก็ทำให้เธอมีเวลาอยู่กับจิอากิน้อยลง บวกกับการที่เด็กน้อยร้องไห้ทั้งวันทั้งคืนก็ทำให้จิอากิที่ไม่ได้หลับได้นอนดีๆ ถึงขีดสุด

“แม่น้องร้องน่ารำคาญจังเลย มีวิธีหยุดน้องไหม”

“ลูกต้องเข้าใจสิว่าน้องยังเด็กอยู่เลย”

“แต่แม่เอาแต่สนใจน้อง!! ไม่มีเวลาให้หนูเลย หนูก็อยากใช้เวลากับแม่บ้างนะ อยากไปเที่ยวกับแม่ นอนกับแม่… กอดคุณแม่…”

“ลูกโตพอที่จะไปทำเรื่องพวกนั้นคนเดียวแล้วนะ เพราะงั้นหยุดทำตัวเป็นเด็กได้แล้ว”

“หนูเกลียดคุณแม่!!”

บทสนทนาจบลงตรงนั้น จิอากิวิ่งขึ้นไปบนห้องของเธอ และขังตัวเองไว้ในนั้น… ในคืนนั้นเองเธอก็ฝัน มันเป็นฝันร้ายที่มีเธอเดินอยู่ในบ้านที่มืดสนิท… เธอเปิดเข้าไปในห้องของแม่ อุ้มน้องออกมาจากห้องนั้น แล้วก็เดินออกไปทางประตูหลังบ้าน

ใต้แสงสว่างจากดวงจันทร์ จิอากิขุดหลุมฝังน้องสาวตัวเล็กๆ ของเธอไว้ที่สวนเล็กๆ หลังบ้าน…

 

 

เมื่อเธอตื่นขึ้น ร่างของเธอเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ จิอากิกลืนน้ำลายที่ข้นหนืดอย่างยากลำบาก และรู้สึกได้ถึงน้ำย่อยในกระเพาะที่พยายามจะตีกลับออกมา ฝันของเธอมันสมจริงเกินไป สมจริงเกินกว่าที่เด็กสาวคนหนึ่งจะรับไหว

“คุณแม่พูดถูก” เธอเค้นคำพูดออกมาอย่างยากลำบาก “นานะยังเป็นแค่เด็ก เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับเธอ เราต้องไปขอโทษคุณแม่แล้ว”

ในตอนนั้นเองประตูห้องเธอก็เปิดออก คนที่เข้ามาคือแม่ของเธอ เธออยู่ในสภาพแตกตื่นสุดๆ ใบหน้าซีดขาว เหงื่อเป็นเม็ดๆ กระจายอยู่ทั่วใบหน้า

“จิอากิลูกเห็นน้องไหม” เธอกล่าว “พอแม่ตื่นมาน้องก็ไม่อยู่แล้ว”

จิอากิส่ายหัว ครั้งสุดท้ายที่เธอเห็นน้องคือในฝันร้ายของเธอ “แน่ใจนะ” แม่เธอถามต่อ “กล้าสาบานนะ” เธอกล่าว “หนูสาบาน” จิอากิตอบ

“งั้นก็มาช่วยแม่หาที”

พวกเธอหาในทุกซอกทุกมุมของบ้านแต่ก็ไม่พบร่องรอยใดๆ ของนานะเลย จนในทีสุดแม่ของเธอก็หมดแรง เธอทรุดลงกับพื้นทั้งอย่างนั้น

 

 

“หายไปไหนกัน นานะยังเดินไม่ได้ด้วยซ้ำ” เธอพูดทั้งน้ำตา “จิอากิลูกรู้อะไรใช่ไหม ช่วยบอกแม่มาเถอะ”

ในตอนนั้นเองจิอากิก็นึกถึงฝันนั้นขึ้นมาได้ ไม่แน่นะว่า… “หนู…ไม่รู้ค่ะแม่” เธอโบกมือน้อยๆ อย่างไม่สบายใจ แต่นั่นก็ไม่อาจจะหลุดพ้นสายตาของแม่เธอได้

“จิอากิ… ลูกรู้อะไรใช่ไหม”

“ไม่ค่ะ…หนูไม่รู้อะไรเลย”

“จิอากิ อย่าให้แม่ต้องพูดซ้ำ”

“หนูไม่ได้โกหกนะ”

“แม่ดูออกนะว่าลูกโกหก!!” เธอตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “บอกมานะ ว่าลูกเอานานะไปไว้ที่ไหน”

จิอากิทนรับสายตาของแม่ไม่ไหว เธอหลบสายตาของแม่ไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง สถานที่ที่เธอเห็นในความฝัน… ที่ที่ เธอฝังน้องสาวของเธอไว้ ไม่แน่นะ… มันอาจจะไม่ใช่แค่ความฝันก็เป็นได้

“ไม่จริงน่า…” เมื่อแม่ของเธอเห็นดังนั้นก็ทำอะไรไม่ถูก “ลูกฆ่านานะเหรอ…”

“หนู… ไม่ได้ตั้งใจ…” จิอากิร้องไห้ เธอยืนมือไปแตะมือแม่ของเธอ

ในตอนนั้นเองอะไรบางอย่างในใจของแม่จิอากิก็ขาดลง “อย่ามาจับ!” เธอสะบัดมือของจิอากิทิ้ง  และพลักลูกสาวลงกับพื้น ก่อนที่เด็กสาวจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแม่ของเธอก็นั่งค่อมร่างของเธอไว้ และให้มือทั้งสองบีบเข้าที่ลำคอของเธอ

“แกฆ่านานะ!! แกฆ่านานะ!! แกฆ่านานะ!! แกฆ่านานะ!! แกอิจฉาน้องสาวก็เลยฆ่าเธออย่างนั้นเหรอ!!”

กว่าที่แม่ของเธอจะได้สติ จิอากิก็จากโลกใบนี้ไปเสียแล้ว

 

 

แต่ก่อนที่จะทันได้คิดอะไรก็มีเสียงกริ่งประตูดังขึ้นมาเสียก่อน คุณแม่ของจิอากิจึงพาร่างที่แทบจะไร้ซึ่งพลังเหลืออยู่ของตัวเองไปเปิดประตูบ้าน…

ในที่แห่งนั้นเธอพบกับเพื่อนบ้านของเธอกำลังอุ้มนานะไว้… เขาบอกกับเธอว่า “เราเจอเด็กคนนี้คลานออกมาข้างนอกเมื่อคืนนี้ ไม่รู้ว่าออกมาได้ยังไงเหมือนกันแต่ก็โชคดีที่เราไปเห็นเข้าซะก่อน” แม่ของจิอากิตัวแข็งทื่อ ทำอะไรไม่ถูก ในหัวของเธอได้ยินแต่เสียงก้องอยู่ไกลๆ ของเพื่อนบ้านที่พูดต่อไปว่า

“ขอโทษที่พามาคืนช้านะครับ เรามัวแต่หากันอยู่ว่าเธอเป็นลูกของบ้านหลังไหน”

 

ที่มา scaryforkids

Comments

Leave a Reply