พิธีศักดิ์สิทธิ์…กับปลัดขิกอันเขื่อง~ มารู้จักกับพิธีแห่ “องคชาต” ของญี่ปุ่นกันเถอะ!!

ว่ากันว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นนอกจากจะโดดเด่นเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว วัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นเองยังมีเอกลักษณ์และน่าสนใจอย่างยิ่ง

อย่างเช่นในวันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน 2018 ที่ผ่านที่ ที่เมืองคะวะซะกิ ในจังหวัดคะนะกะวะ ได้มีพิธีเฉลิมฉลองสุดแปลก แถมเป็นพิธีอันยิ่งใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมงานนับหมื่นคนทีเดียว

การเฉลิมฉลองดังกล่าวก็คือสิ่งที่เรียกว่า คะนะมะระ มัทสึริ (Kanamara Matsuri) เป็นงานฉลอง “องคชาต” ที่จัดขึ้นทุกปีในวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน ณ บริเวณศาลเจ้าคะนะยะมะ

 

มีการเดินขบวนพาเรดแห่งองคชาตสีชมพูที่เรียกว่า มิโคะชิ ไปตามท้องถนน

 

มีการทานอมยิ้มและขนมหวานรูปทรงองคชาต พร้อมทั้งประติมากรรมรูปทรงองชาตอื่นๆ อีกมากมาย

 

นักท่องเที่ยวหรือใครก็ตามที่เข้ามาร่วมขบวนพิธีก็จะมีส่วนร่วม โดยการสวมใส่ “องคชาต”

 

มีทั้งเป็นแบบหมวก หน้ากาก แว่น และจมูก

 

บางคนก็ถือกระเป๋ารูปปลัดขิก หรือขึ้นขึ่ปลัดขิกไม้อันเขื่อง

 

จุดประสงค์ของการเฉลิมฉลององคชาตในครั้งนี้ก็คือเพื่อรณรงค์ให้ผู้คนตระหนักถึงการเพิ่มจำนวนประชากร และการมีเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้องและปลอดภัย พร้อมทั้งยังระดมเงินบริจาคให้กับผู้ป่วย HIV อีกด้วย

จุดเด่นของงานคือ องคชาตเหล็ก ที่ตั้งอยู่ในศาลเจ้าคะนะยะมะ อันเป็นที่เคารพบูชาของเหล่าสาวขายบริการ ที่มักจะเข้ามาขอพรให้ตนนั้นรอดจากการติดโรค

 

สาวๆ ในงานก็พากันอม…อมยิ้ม

 

ที่จริงพิธีเฉลิมฉลองนี้มีตำนานมากตั้งแต่ ยุคสมัยเอะโดะ (1603-1868) ที่ผู้คนเชื่อกันว่ามีปิศาจฟันคมตนหนึ่งสิงสถิตอยู่ในช่องคลอดของหญิงสาว ซึ่งเมื่อถึงคืนวันแต่งงาน ขณะบ่าวสาวเข้าห้องหอ องคชาตฝ่ายชายก็มักจะถูกตัดออกไป โดยเชื่อว่าเป็นฝีมือของปิศาจตนนี้

จากนั้นช่างตีเหล็กผู้หลักแหลมคนหนึ่งจึงได้คิดสร้างองคชาตเหล็กอันโตขึ้นมาเพื่อหลอกปิศาจฟันแหลมดังกล่าวให้มากัดจนฟันหัก และองคชาตเหล็กขนาดเกือบสามเมตรชิ้นนี้ก็กลายเป็นที่เคารพบูชามานับตั้งแต่นั้น

 

ปลัดขิกแบบสวมหัว

 

หมวกปลัดขิก

 

เชิดชูบูชาองคชาตศักดิ์สิทธิ์

 

นี่คือ มิโคะชิ องคชาตยักษ์สีชมพูที่เป็นจุดเด่นของขบวนแห่

 

หญิงสาวพากันดูดอมของหวานและอมยิ้มในงานพิธี

.

 

ผู้คนนับหมื่นเบียดเสียดยัดเยียดกันในงานพิธีและการเดินขบวน

 

ถึงจะเป็นพิธีกรรมที่แปลก แต่ก็แอบแฝงจุดประสงค์ให้ผู้คนหันมาใส่ใจถึงการสืบพันธุ์ และการมีเซ็กส์อย่างถูกต้อง

 

ที่มา: Metro

Comments

Leave a Reply