วันที่ 1 เมษายน เราต่างรู้กันดีว่าเป็นวันโกหกโลก หรือที่เรียกกันว่า April Fools Day และกลายเป็นธรรมเนียมที่ว่าบริษัทรวมถึงองค์กรต่างๆ ก็ต้องหามุกมาแข่งกันเรียกความฮา
สำหรับมุกต่างๆ ในปีนี้ ลองตามไปอ่านที่: ต้อนรับวันเมษาหน้าโง่ กับ 14 มุกหลอกฟายจากทั่วโลก มีใครโดนต้มกันบ้างรึเปล่า!?
การหามุกในการแกล้งคน บางครั้งอาจจะใช้เวลาเตรียมมากน้อยแตกต่างกันออกไป แต่รู้หรือไม่ว่าในประวัติศาสตร์เรา มีมุกหนึ่งที่ต้องใช้เวลาถึง 4 ปี แถมเล่นใหญ่รัชดาลัย ใช้ภูเขาไฟมาประกอบด้วยล่ะ!!
ย้อนกลับไปในปี 1974 คนเกรียนๆ อย่างพ่อ Oliver Bickar ก็อยากจะให้โลกจดจำในความฮาของเขา ก็เลยวางแผนหลอกคนในรัฐอลาสก้า ให้คิดว่าภูเขาไฟ Edgecumbe กำลังจะระเบิดแล้ว!!
ย้อนกลับไป ภูเขาไฟ Edgecumbe เคยระเบิดเมื่อ 9,000 กว่าปีก่อน ครั้งถัดมาก็ราวๆ 5,800 ปีก่อน และครั้งต่อไปมีการพยากรณ์ว่าอาจจะระเบิดในช่วง 200 ปีต่อจากนี้
และคุณคิดว่าชาวบ้านชาวเมืองจะตกใจขนาดไหน เมื่อเห็นภูเขาไฟที่สงบนั้น จู่ๆ ก็เกิดการประทุ มีควันพวยพุ่งออกมาทำท่าว่าจะระเบิด!?
เขาวางแผนครั้งแรกในปี 1971 ว่าจะขนเอายางรถยนต์จำนวนมากขึ้นไปบนยอดภูเขาไฟ แล้วจุดไฟเล่นๆ ให้เกิดควันมหาศาล ถ้ามีใครมาเห็นก็จะต้องตกใจแล้วเอาไปบอกต่อ จนกลายเป็นข่าวใหญ่แตกตื่นทั่วทั้งเมืองแน่ๆ
แต่แล้วเหมือนพระเจ้าจะไม่ฮาด้วย ก็เลยทำให้สภาพอากาศไม่เป็นใจ มีเมฆหนาปกคลุม ซึ่งถ้าเขาจุดไฟล่ะก็คงไม่มีใครสังเกตเห็นหรอก เขาจึงต้องอกหักไปในปีนั้น
และเหมือนชะตาจะอาภัพ เขาเฝ้ารอการจุดอีกครั้งในปี 1972 และ 1973 แต่ก็แห้วตามเคย!!
แต่แล้วในปี 1974 เหมือนโชคจะเข้าข้าง ฟ้าใสปิ๊ง เหมาะแก่การสร้างควันให้เกิดความตื่นตระหนกมากๆ
เขาติดต่อเพื่อนให้ช่วยนำเฮลิคอปเตอร์มาช่วยในการขนยางรถยนต์และน้ำมันก๊าด (เพื่อนเอ็งรวยจังฟร๊ะ!? แล้วเพื่อนก็ต้องเตรียม ฮ. ให้พร้อมตลอด 4 ปีงี้เหรอ ฮ่าๆ) ก็ได้เวลาฤกษ์งามยามดี ความฝันตลอด 4 ปีของเขากำลังจะเป็นจริง
เขาจุดไม้ขีดไฟ แล้วโยนลงไปในกองยาง… โบ๊มมมมมมม ควันพวยพุ่ง และชาวเมืองต่างก็ตื่นตระหนกกันจ้าละหวั่น เพราะคิดว่ามันจะระเบิดจริงๆ
นับว่าเขายังคงมีความเป็นมืออาชีพ ที่ทำการแจ้งตำรวจและหน่วยงาน FAA เอาไว้ก่อนว่าจะเล่นแกล้งคนพิเรนท์แบบนี้ ซึ่งตำรวจก็ไม่ได้ห้ามอะไร สงสัยจะอยากสนุกด้วย
แต่… เขาลืมแจ้งยามชายฝั่งของสหรัฐ พวกยามฝั่งจึงคิดว่าเกิดเหตุจริง รีบลงทุนส่งเฮลิคอปเตอร์บินวนไปดูเพื่อเช็คสภาพของการประทุ จะได้ตัดสินใจเรื่องการอพยพได้ถูกต้อง
พอยามฝั่งไปถึง ก็เห็นว่านี่มันคือการแกล้งเผายางรถยนต์ และสีสเปรย์ที่พ่นบนหิมะว่า April Fools Day เท่ากับรู้ตัวว่าโดนหลอกเต็มเปา!!
ยามชายฝั่งถึงกับงงสิ!?
งานนี้ก็เลยกลายเป็นตำนานแห่งเมือง Sitka ให้เล่าต่อมาถึงปัจจุบัน ไม่รู้ว่าจะมีคนไม่สนุกกับการแกล้งครั้งนี้บ้างรึเปล่า แต่ก็นับว่ามันคือการแกล้งคนแบบทุ่มเทครั้งใหญ่
ที่กว่าจะสำเร็จ ต้องใช้เวลาถึง 4 ปีกันเลยทีเดียว!!
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.