ปัจจุบันกระแสต่างๆ ในโลกโซเชียลมีอิทธิพลต่อหลายๆ คนเป็นอย่างมาก จนอาจกลายเป็นพฤติกรรมที่ทำตามๆ กันมาโดยไม่สนใจถึงลักษณะความผิดชอบชั่วดี และอาจสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น เช่นเดียวกันกับกระแสที่กำลังมาแรงในประเทศจีน นั่นคือ การถอดตรารถเบนซ์
ตัวอย่างที่ทำให้เราเห็นว่ากระแสดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นนั้น เกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม 2018 ที่ผ่านมา เมื่อเจ้าของรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ รายหนึ่งในมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตราสัญลักษณ์บริเวณหน้ารถของตนเองนั้นหายไป
ตรารถเบนซ์ สามารถถอดออกได้ด้วยวิธีการง่ายๆ
เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งขับรถยนต์สีขาวมาจอดบริเวณใกล้ๆ ก่อนที่จะลงมาทำอะไรสักอย่างบริเวณหน้ารถเบนซ์ของผู้เสียหาย แล้วก็เดินกลับขึ้นรถขับออกไป
ตำรวจเห็นจึงเดินทางไปยังบ้านพักของผู้ต้องสงสัยแซ่ Guō รายนี้ เมื่อเข้าตรวจค้นพบหลักฐานแบบคาหนังคาเขา มีตรารถเบนซ์ที่ถูกขโมยมารวมกันกว่า 10 ชิ้นเลยทีเดียว
หลักฐานที่พบในบ้านพักของผู้ต้องหา
ชายผู้ต้องหาวัย 25 ปีรับสารภาพว่าตนเองต้องการมียอดไลค์และอยากให้คนเข้ามาติดตามตนเองในแอปฯ Tik Tok (โซเชียลมีเดียที่ไว้สำหรับโพสต์คลิปสั้นๆ) เหมือนกับคลิปหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงมาก ซึ่งคลิปดังกล่าวก็คือคลิปขโมยตรารถเบนซ์ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
คลิปการขโมยตรารถเบนซ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
เหตุผลที่กระแสการขโมยตรารถเบนซ์เริ่มเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในประเทศจีน เกิดจากการที่ผู้ใช้รายหนึ่งใน Weibo สื่อโซเชียลมีเดียของจีน ทำการโพสต์ภาพของชายคนหนึ่งที่ถอดตรารถเบนซ์มาทำเป็นกล่องข้าว
โพสต์ดังกล่าวได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีการแชร์ออกไปหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งมีคนเลียนแบบและคิดหาไอเดียที่จะเล่นตลกกับตรารถเบนซ์มากยิ่งขึ้น นำสิ่งเหล่านั้นมาโพสต์ตามๆ กันไปในโลกออนไลน์ แม้ว่าจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างเห็นได้ชัดก็ตาม
ในส่วนของชายที่ถูกจับกุมตัวในครั้งนี้ คาดว่าคงจะต้องเข้าไปใช้ชีวิตในคุกอย่างน้อย 3 ปี ตามกฎหมายที่ผู้ต้องหาขโมยสิ่งของมูลค่าเกิน 1,000 หยวน (เกือบ 5,000 บาท) เพราะตราเบนซ์แต่ละชิ้นน่าจะมีมูลค่าหลายร้อยหยวนเลยทีเดียว
มีการแชร์ภาพของตราที่ถูกขโมย เอามาใช้แทนกล่องข้าว
แม้สื่อโซเชียลมีเดียจะมีอิทธิพลกับตัวเราในปัจจุบันมากขนาดไหน แต่ที่สำคัญคือเราต้องอย่าลืมที่จะไตร่ตรองสิ่งต่างๆ กันอย่างรอบคอบเสียก่อน เข้าใจว่าอย่างไหนควรทำ อย่างไหนไม่ควรทำ การเลียนแบบไม่ใช่สิ่งที่ผิดเพียงแต่เราไม่ควรที่จะนำเรื่องไม่ดีมาเป็นแบบอย่างเท่านั้นเอง
ที่มา: China Xinhua News
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.