‘บังโต’ ชี้แจงไม่ได้ว่าคนไหว้รูปปั้น ไม่ได้พาดพิงใคร ‘จุฬาราชมนตรี’ ไม่สบายใจจนต้องเตือน…

จากการที่ โต วีรชน ศรัทธายิ่ง’ อดีตนักร้องวงซิลลี่ ฟูลส์ ออกมาพูดในรายการ “โต ตาล” ในหัวข้อ ทำไมอิสลามถึงไม่มีรูปปั้น เหมือนชาวพุทธไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ” จนกลายเป็นกระแสวิจารณ์ในโลกออนไลน์ ในช่วงเมื่อวานที่ผ่านมาจนกระทั่งถึงวันนี้ เนื่องจากชาวเน็ตส่วนใหญ่มองว่า โต กำลังวิจารณ์ศาสนาอื่นอยู่… (อ่านข่าวเก่า)

 

 

จนกระทั่งล่าสุดนี้ โต ซิลลี่ ฟูลส์ ก็ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “ทุบโต๊ะข่าว” ช่องอมรินทร์ทีวีผ่านทางโทรศัพท์ เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า…

คลิปรายการที่จัดไปในวันศุกร์นั้นคือคำถามจากผู้ชม “ทำไมศาสนาอิสลามถึงไม่มีรูปปั้นไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ” โดยตามหลักศาสนาอิสลามแล้ว จะไม่เคารพสิ่งอื่นใดนอกจากผู้สร้าง ไม่ใช่สิ่งปลูกสร้าง จึงอธิบายได้ว่าทำไมรูปปั้นถึงไม่มีค่าในทัศนะของคนที่เป็นมุสลิม

 

 

“เรื่องของผมคือคนถามว่าทำไมมุสลิมถึงไม่เอารูปปั้นไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ ผมก็ตอบในทัศนะของคนที่เป็นมุสลิมว่าเราไม่ยึดเหนี่ยวจิตใจกับรูปปั้น

เพราะคุณลักษณะมันต่ำกว่าความเป็นมนุษย์ มันเป็นสิ่งปลูกสร้าง ถ้าใครจะยกขึ้นเหนือกว่ามนุษย์ผมว่าก็ประหลาดสำหรับผม ผมก็พูดตรง ๆ ไม่ได้ดูถูกอะไร” ใจความจากการให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทุบโต๊ะข่าว

 

 

ซึ่งบังโตเองก็ยืนยันว่าตนนั้น ไม่ได้พาดพิงถึงศาสนาพุทธ เพียงแต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการเข้าใจผิด กลายเป็นการสรุปกันเองว่ารูปปั้นที่พูดถึงคือพระพุทธรูป เพราะถ้าหากเป็นเช่นนั้น โตก็จะทำผิดหลักศาสนาอิสลาม ที่ห้ามไม่ให้วิจารณ์ศาสนทูต

 

 

และหลังจากที่เกิดเรื่องดังกล่าวขี้นมาแล้ว ทางด้าน นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ผู้นำกิจการศาสนาอิสลามในประเทศไทย ได้ทำการเผยแพร่คลิปวิดีโอชี้แจง และเพื่อเตือนสติผู้รู้ศาสนาที่วิพากษ์หรือบริภาษศาสนาอื่น ให้ระวังสิ่งเหล่านี้ เนื่องจากผิดหลักศาสนาและอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งได้…

 

 

เพราะฉะนั้นอยากจะขอเตือนผู้รู้ หรือผู้ที่ทำตัวเป็นผู้รู้ศาสนา ทั้งบรรดานักเผยแพร่นั้นให้ระมัดระวังในสิ่งเหล่านี้ เพราะอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งทางสังคม และที่สำคัญคือ เป็นวิธีที่ขัดต่อหลักคำสอนในอัลกุรอานที่ห้ามบริภาษหรือวิจารณ์ศาสนาอื่น

 

 

ใจความจากคลิปวิดีโอดังกล่าวมีดังต่อไปนี้…

“วันนี้มีเรื่องไม่ค่อยสบายใจ เนื่องจากมีผู้ที่ทำตัวเป็นผู้รู้ศาสนา ได้ออกมาพูดเชิงวิพากษ์ หรือบริภาษศาสนาอื่น ทำให้เกิดความไม่สบายใจว่า ทำไมอิสลามถึงกล่าวร้ายอย่างนั้นหรือ

ความจริงอิสลามห้ามการบริภาษ หรือวิจารณ์ศาสนาอื่น ดังความในอัลกุรอานว่า “พวกเจ้าจงอย่าได้บริภาษสิ่งที่พวกเขาวิงวอนขออื่นจากอัลลอฮฺ แล้วพวกเขาก็จะหันมาบริภาษอัลลอฮฺ”

การเผยแพร่ศาสนาอิสลามในสังคมไทยนั้น ต้องกระทำด้วยความระมัดระวัง และเป็นไปด้วยความเคารพให้เกียรติคนอื่น เพราะฉะนั้นขอทำความเข้าใจกับพี่น้องว่า สิ่งที่เกิดขึ้นและสิ่งที่บางคนทำไปนั้นไม่ใช่เป็นหลักคำสอนของอิสลาม แต่เป็นหลักปฏิบัติที่ฝ่าฝืนคำสอนของอิสลาม

 

 

เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ขอฝากเตือนนักวิชาการที่พูดผ่านทางสื่อต่าง ๆ ในขณะนี้ จงระมัดระวัง จงปฏิบัติตนตามหลักคำสอนอัลกุรอาน

เพราะคำพูดของท่านไม่กี่ประโยค อาจจะนำไปสู่ความสูญเสียต่ออิสลามและมุสลิมในประเทศไทย จะนำไปสู่ความแตกแยก อิสลามห้ามไม่ให้บริภาษหรือวิจารณ์ศาสนาอื่น

การเผยแพร่ศาสนาอิสลามในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างสังคมไทย จะต้องมีความรอบคอบ สุขุม และมีความเคารพต่อคนอื่นและศาสนาอื่น

ข้อเสนอและคำแนะนำที่คงจะเป็นประโยชน์แก่ท่านทั้งหลาย หรือนักพูดนักบรรยายทั้งหลายต้องเก็บไปคิด จะได้เดินไปสู่แนวทางที่อิสลามสอนคือต้องเชิญชวนด้วยวิทยปัญญา ด้วยบทเรียนและคำสอนอันดีงาม

ไม่ใช่ไปบริภาษ ไม่ใช่ไปกล่าวร้าย อันอาจจะนำไปสู่ความแตกแยกอย่างใหญ่หลวงทางสังคม จึงขอให้ตระหนักถึงความสำคัญ และความร้ายแรงของเรื่องนี้ด้วย”

 

ที่มา : Chanwit MardsohAMARIN TVHD

Comments

Leave a Reply