เรื่องของลักษณะภายนอกทางร่างกาย คือความพึงพอใจของแต่ละคน ต่อให้คนอื่นจะมองว่าดีหรือไม่ดี ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับใจของตัวเองล้วนๆ…
แต่กลับกันแล้ว หากคนที่คุณรักควรจะเป็นฝ่ายที่ช่วยสนับสนุนไม่ว่าจะให้มั่นใจตัวเองหรือสนับสนุนให้ออกกำลังหายเพื่อหุ่นและสุขภาพที่ดี กลายมาเป็นคนที่ถากถางเราเอง มันก็เปรียบได้เหมือนดั่งการถูกมีดกรีดแทงลึกลงไปที่กลางใจกันเลยทีเดียว
Shelby Johnson
เรื่องราวของ Shelby Johnson หญิงสาวผู้เคยมีน้ำหนักที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาก่อน จนกระทั่งเพิ่มน้ำหนักตัวให้กลับมาในระดับสุขภาพดี คงไว้ที่ 54 กิโลกรัมโดยประมาณ แต่หลังจากนั้นแล้วแฟนหนุ่มเริ่มไม่อยู่เคียงข้างเธอเหมือนเดิมอีกต่อไป
ภาพของ Shelby กับน้ำหนัก 54 กิโลกรัม
Shelby ได้นำเรื่องราวของตัวเองเผยแพร่ในทวิตเตอร์ หลังจากที่ได้รับคำวิจารณ์จากคนที่ตัวเองไว้ใจ ได้ชื่อว่าเป็นคนรัก โดยมองและตำหนิจากรูปภาพที่เธอโพสต์รูปถ่ายตัวเอง เปรียบเทียบน้ำหนักส่วนเกิน กับหน้าท้องที่เริ่มยื่นออกมามากกว่าของเขา โดยใช้คำว่า ‘บวมเบียร์’
บางส่วนของข้อความที่ทำร้ายจิตใจว่า เขาเคยบอกเธอแล้วว่าน้ำหนักที่มันเพิ่มมาน่ะเธอต้องลดได้แล้ว จนทำให้เธอเริ่มน้อยใจ คิดว่าอีกฝ่ายจะหมดรักเพราะแค่เรื่องน้ำหนัก
แฟนหนุ่มตอบว่าไม่ได้คิดแบบนั้น แต่ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปก็ไม่แน่ แต่ย้ำว่าหน้าท้องของเธอ “บวมเบียร์”
คำว่าบวมเบียร์ ฟังผิวเผินอาจจะเป็นคำเปรียบเทียบขนาดพุงของผู้ชาย แต่สำหรับผู้หญิงแล้วจะรู้สึกอย่างไร เธอจึงทวีตออกไปว่า “ฉันเว่อร์ไปรึเปล่าที่รู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดแบบนี้ ฉันรู้สึกท้อแท้และไม่เข้าใจว่า ทำไมคนที่บอกว่ารักฉัน กลับพูดแบบนี้ออกมาได้”
น้ำหนักปัจจุบันที่ 54 กิโลกรัม และเป็นแบบนี้มา 5 เดือนแล้ว… แต่อีกฝ่ายเพิ่งจะสังเกตและตำหนิ
และเธอก็ยังบอกว่า ตอนที่เพิ่งเจอกันเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว เธอก็มีน้ำหนักเท่ากับปัจจุบันนะ
เธอบอกว่าหลังจากทวีตไปแล้ว ก็ยังไม่มีโอกาสไปเจอแฟน เพราะเธอคิดจะจบเรื่องนี้ก้าวต่อไปแล้ว และจะได้เจอกับเขาอีกครั้งในวันถัดไป…
เพราะเนื้อแท้ของคนรักกันนั้น เกิดขึ้นมาจากอะไร? ใบหน้าหรือร่างกาย หรือเป็นที่จิตใจและนิสัยใจคอ ที่ทำให้คนสองคนเข้ากันได้
เธอเล่าว่าช่วงมัธยมปลาย น้ำหนักของเธออยู่ที่ 36 – 40 กิโลกรัมเท่านั้น จนกระทั่งอายุ 20 ก็เริ่มเพิ่มน้ำหนักให้มากขึ้น จนรู้สึกมีความสุขและสัมผัสได้ถึงสุขภาพที่ดี
ภาพในอดีตของ Shelby ในช่วงที่น้ำหนักของเธอต่ำกว่าเกณฑ์ และมีสุขภาพที่ค่อนข้างแย่
ทวีตของเธอนั้นกลายเป็นกระแสไวรัลอย่างรวดเร็ว Shelby ก็ได้รับกำลังใจจากชาวเน็ต พร้อมกับได้รับคำแนะนำจากผู้คนนับพันชีวิตที่สนับสนุนให้เธอ “ทิ้งเขาซะ”
“ช่างหัวมันสิ ตีตัวออกห่างให้ไวก่อนที่เขาจะวางยาให้ใจเธอหม่นหมอง ไปกับความงี่เง่าของเขาเองนะ”
“ที่รัก ฉันเคยอยู่ในจุดนี้มาก่อน เขาบังคับให้ฉันวิ่งบนลู่ทั้งๆ ที่ฉันร้องไห้และมีอาการตื่นตระหนก ออกมาจากตรงนั้นเถอะ, ได้โปรด”
“เธอควรจะทิ้งแฟนงี่เง่าคนนี้ไปเสียดีกว่า แล้วไปหาคนใหม่ที่รักตัวเธอในแบบที่เธอเป็น”
“ทิ้งเขาซะ แล้วก็ไปซื้อหมามาแทน”
สุดท้ายแล้วด้วยคำแนะนำของชาวเน็ต เธอก็ใจแข็งพอที่จะบอกว่า “ฉันเลิกกับเขาแล้วค่ะ” จนอีกฝ่ายถึงกับไม่มีความสุขกันเลยทีเดียว และหลังจากที่รู้ทวีตต้นเรื่องของเธอ เขาก็บอกกับเธอว่าจะเก็บมาเป็นบทเรียนเพื่อจะเป็นคนที่ดีกว่านี้ให้ได้…ส่วน Shelby ก็กลับมาเป็นโสดและอิสระอีกครั้งแล้ว
“ทวีตที่เป็นกระแสไวรัลช่วยให้เขาได้เห็นว่า เขาทำตัวแย่กับฉันยังไง ใจจริงแล้วฉันดีใจนะที่มันเป็นแบบนี้ ถึงมันจะสายไปแล้วก็เถอะ หวังว่าการที่เขาเสียฉันไปจะทำให้เขาได้เรียนรู้บ้าง…”
ข้อความที่คุยกันหลังจากเลิกกันแล้ว “ฉันแคร์เธอนะ ฉันคิดว่าต้องเปลี่ยนตัวเองบ้าง เหมือนกับอินเทอร์เน็ตช่วยทำให้สำนึกได้ว่าตัวเองแย่ยังไง” Shelby ตอบได้แค่ว่า “ฉันก็เคยหวังนะว่าเธอจะสำนึกได้โดยที่เรื่องนี้ไม่ต้องไปถึงอินเทอร์เน็ต”
หลังจากที่เลิกกันแล้ว Shelby ก็หันมาดูแลตัวเองอีกครั้ง พร้อมกับความสุขที่ได้คืนมา
แต่ก็นั่นแหละ เรื่องของความรักและการจากลานั้นเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก เธอกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “เลิกกันมันแย่นะ แม้จะเป็นคนที่เคยทำร้ายเรามาก่อน เพราะยังคงคิดถึงเมื่อต้องนอนอยู่บนเตียงเพียงลำพังในเวลาดึก
ฉันได้แต่เตือนตัวเองว่าฉันจะต้องโอเค ตอนก่อนจะเจอเขา ฉันก็อยู่ได้ และหลังจากที่ไม่มีเขาแล้วฉันก็ต้องอยู่ให้ได้ การบอกเลิกไม่เคยเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะผ่านมากี่ครั้งก็ตาม”
แต่อย่างน้อยๆ ก็ยังมีชาวเน็ตที่รู้สึกยินดีและสนับสนุนเธอ ในการตัดสินใจของเธอครั้งนี้
“ดีแล้วล่ะ เธอไม่จำเป็นต้องรับด้านลบเข้ามาในชีวิต และเธอก็ดูดีอยู่แล้ว โอ้พระเจ้า แฟนเธอนี่มันทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ไปได้”
“เธอไม่คู่ควรกับเขาอยู่แล้วที่รัก เธอควรจะคู่กับใครสักคน ที่กลัวจะสูญเสียเธอไปมากกว่า!”
“ความเจ็บปวดอยู่ได้ไม่นานหรอก ไม่ต้องกังวลไปนะ ออกไปข้างนอก หาอะไรทำ พบปะกับผู้คนใหม่ๆ ชีวิตทั้งชีวิตของเธออยู่ข้างหน้าไม่ใช่ข้างหลัง ในไม่ช้าความทรงจำเลวร้ายเล็กๆ จะหายไปเอง”
ที่มา: @babyyygucci, boredpanda
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.