ตามปกติแล้วการที่คนเราต้องใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ สิ่งที่ควรจะมีติดตัวอยู่กับทุกคนคืออิสระในการไปไหนมาไหน สัมผัสอะไรก็ได้ตามใจต้องการ…
สำหรับ Juana Munoz วัย 53 ปี จากเมืองกาดิซ ประเทศสเปน กลับต้องใช้ชีวิตที่แตกต่างจากคนอื่น ถูกตัดขาดจากอิสระที่หวังเอาไว้ เพราะทุกสิ่งจากโลกภายนอกอาจคร่าชีวิตเธอได้ ทำได้แค่เพียงมองผ่านจากตู้กระจกปลอดเชื้อที่เป็นบ้านของเธอมาตลอด 13 ปี
หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรง 4 ชนิด ทั้งอาการแพ้สารเคมีหลายชนิด โรคไฟโบรมัยอัลเจีย อาการล้าเรื้อรัง และภูมิแพ้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้เธอไม่เหลือทางเลือกใดๆ จนจำเป็นต้องตัดขาดตัวเองออกจากโลกทั้งใบ เพื่อมาอาศัยอยู่ในตู้กระจกแบบนี้
เธอจะไม่สามารถออกจากตู้กระจกนี้ได้ ถ้าหากไม่ปฏิบัติตามกฎที่เข้มงวด และใครก็ตามที่จะเข้ามาหาเธอ ต้องชำระล้างร่างกายให้ปลอดจากสารเคมี และสวมเสื้อผ้าที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติเท่านั้น
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือ คนในครอบครัวไม่สามารถแตะเนื้อต้องตัวเธอได้เลย ถึงขั้นที่ว่าการกอดอาจทำให้เธอตายได้ มีเพียงแค่ลูก 2 คน ที่ได้รับอนุญาตให้กอดเธอได้ 2 ครั้งต่อปี และการกอดแต่ละครั้งจะต้องผ่านการเตรียมการหลายวัน
ฝันร้ายของ Juana เริ่มต้นเมื่อ 29 ปีก่อน จากมันฝรั่งที่ปลูกในสวนหลังบ้าน เมื่อเธอจับมันฝรั่งลูกนั้น ริมฝีปากและดวงตาของเธอก็เริ่มบวม…
เมื่อไปถึงโรงพยาบาลตัวเธอก็บวมไปทั่วร่างกาย และเริ่มมีอาการอาเจียน เมื่อยล้า ระคายเคืองผิวหนัง สำลัก และอาการแพ้ต่างๆ หากได้สัมผัสกับสารเคมี
เธอจำความได้ว่ามันฝรั่งลูกนั้นถูกพ่นด้วยยาฆ่าแมลง ที่ถูกสั่งห้ามใช้ไปได้ไม่นาน ซึ่งหลังจากที่เธอทรมานกับอาการแพ้สารเคมีครั้งแรก เธอเชื่อว่านั่นคือตัวกระตุ้นอาการแพ้
แต่เธอไม่ยอมเปิดเผยชื่อผลิตภัณฑ์ตัวนั้น เพราะเกรงจะมีปัญหาทางข้อกฎหมาย เธออยากได้เพียงแค่อ้อมกอดของคนในครอบครัวกลับมา
กาลเวลาผ่านไป อาการของ Juana ก็ยิ่งแย่ขึ้นเรื่อยๆ เธอเริ่มมีโรคไฟโบรมัยอัลเจีย อาการล้าเรื้อรัง แทรกซ้อนเข้ามา เธอจึงต้องแยกตัวออกมาอยู่ในตู้กระจกภายในสวนมาตลอด 13 ปี หวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะสามารถก้าวออกมา และได้รับชีวิตเดิมกลับคืนมาอีกครั้ง
ทางด้านสามีก็ทำหน้าที่เป็นพยาบาลส่วนตัวอย่างดีเยี่ยม เขาหันมาปลูกผักออร์แกนิค อันเป็นส่วนหนึ่งที่เธอจะได้รับประทาน พร้อมทั้งหาเนื้อปลาเนื้อสัตว์ออร์แกนิค จากผู้ผลิตที่วางใจได้มาประกอบอาหารให้
รวมถึงจัดหาเสื้อผ้าเนื้อฝ้ายออร์แกนิค หน้ากากเซรามิกจัดทำพิเศษสั่งตรงจากเยอรมนี เพื่อไว้ใช้ช่วยหายใจในยามที่เธอรู้สึกหายใจไม่ออก
ใน 1 ปี เธอจะออกจากตู้กระจกเพียง 1 ครั้ง เนื่องจากมีความจำเป็นที่จะต้องเข้ารับตรวจมะเร็งเต้านม เดินทางไปยัง University Hospital of Puerto Real
เธอบอกว่าการเดินทางแต่ละครั้ง เปรียบเหมือนดั่ง ‘นรก’ เพราะรถยนต์ที่โดยสารไปจะต้องปลอดเชื้อทั้งหมด แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งเธอเกือบสลบก่อนถึงโรงพยาบาล เนื่องจากความไม่สะอาดบนรถยนต์คันนั้น และหลังจากที่ตรวจเสร็จแล้ว เธอก็ต้องเดินทางกลับภายในวันเดียวกันอีกหนึ่งรอบ
ความหวังเดียวที่เหลืออยู่ในตอนนี้ Juana ต้องการเพียงแค่ได้กอดกับคนที่เธอรัก ในแบบที่ไร้กฎข้อห้ามใดๆ คนทั่วไปอาจจะเป็นเรื่องที่ง่าย แต่สำหรับเธอเองแล้วกลายเป็นเรื่องต้องห้ามที่ฝืนหัวใจตัวเองเหลือเกิน…
ที่มา : andaluciainformacion, odditycentral
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.