ครูโพสต์บ่น ‘ลูกคุณไม่ได้น่ารัก สปอยล์ลูกซะเละ’ แถมแฉโรงเรียน ไม่มีใยดีใดๆ กับครูเลย…

ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา จะมีการวางระบบทางสังคมพื้นฐานมาเป็นอย่างดี แต่ทว่าความสมบูรณ์แบบนั้นไม่มีอยู่จริง เพราะเมื่อกาลเวลาผ่านไป ทุกสิ่งทุกอย่างก็ย่อมเสื่อมตามเช่นกัน…

อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ แต่สำหรับปัญหาของระบบการศึกษานั้นเริ่มสั่นคลอนมากขึ้นทุกวัน เมื่อคุณครูท่านหนึ่งจากรัฐเท็กซัส ได้ทำการโพสต์เพื่อระบายความในใจ เกี่ยวกับเหตุการณ์อันน่าหดหู่ที่กำลังเกิดขึ้นในโรงเรียนของเธอ

 

Julie Marburger

 

Julie Marburger คุณครูสอนระดับชั้นเกรด 6 (ป.6) ของโรงเรียน Cedar Creek Intermediate School ได้หมดความอดทนในวิชาชีพของตัวเอง หลังจากที่ทำงานในฝันงานนี้มานับสิบปี…

“มันคือความฝันของฉัน ตั้งแต่จำความได้ว่าอยากจะมีห้องเรียนเป็นของตัวเอง และตอนในใจของฉันแหลกสลายหลังจากที่ไม่ได้รับแยแสใดๆ ใน 2 ปีที่ผ่านมา”

 

พ่อแม่ไม่ให้ความเคารพคุณครู และเด็กๆ ก็แย่ยิ่งกว่า ผู้บริหารโรงเรียนก็เอาใจผู้ปกครอง นั่นจึงทำให้เธอไม่อาจปฏิบัติตามวิชาชีพที่ถูกจ้างมาเพื่อ ‘สอนเด็ก’ ได้

 

เธอลาออกจากการสอน และได้แสดงให้เห็นว่าทำไมเธอถึงหมดกำลังใจที่จะเป็นครู เนื่องจากความบกพร่องของผู้ปกครอง ผู้บริหารโรงเรียน และการสนับสนุนของภาครัฐ…

โพสต์ดังกล่าวของเธอถูกแชร์ไปกว่า 400,000 ครั้งในโลกออนไลน์ พร้อมกับได้รับความเห็นใจจากเพื่อนร่วมวิชาชีพครูที่กำลังประสบปัญหาเดียวกัน Julie เชื่อว่าครูท่านอื่นเริ่มลาออกตามๆ กัน เพราะวิกฤตในระบบการศึกษาที่กำลังเสื่อมลง

 

เธอได้แนบภาพถ่ายสภาพห้องเรียนในช่วงสองวันก่อนลาออก เพื่อแสดงให้เห็นว่ามันเละเทะขนาดไหน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นทุกวันในระหว่างที่นักเรียนใช้เวลาอยู่ในห้อง…

 

ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากฝีมือของเด็กๆ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ก่อนจะลาออก

 

สิ่งของที่อยู่ภายในห้องเรียนนั้น Julie เป็นผู้ออกเงินซื้อเอง ไม่ได้รับเงินสนับสนุนแต่อย่างใด เพราะทางโรงเรียนไม่มีให้…

 

“ฉันไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับวิชาชีพที่ผู้คนใส่ใจและจิตวิญญาณลงไปด้วย ต้องใช้เวลาและทรัพยากรจากบ้านของตัวเอง และถูกตอบแทนด้วยจำนวนเงินอันเลวทรามต่ำช้าขนาดนี้”

 

“มันเคยเป็นความฝันของฉัน ตั้งแต่ที่จำความได้ว่าอยากจะมีห้องเรียนเป็นของตัวเอง”

 

“ตอนนี้หัวใจฉันแหลกสลาย ที่กลายมาเป็นความคิดที่ไม่ได้รับการแยแสใดๆ ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปี”

 

“ความปรารถนาในอาชีพที่ฉันเคยมี กลับถูกบิดเบี้ยวหายไปจากตัวฉันแล้ว”

 

“สิ่งเหล่านี้ควรจะหยุดได้แล้ว”

 

นอกจากนี้เธอยังกล่าวถึงสมุดพกของนักเรียน เมื่อนักเรียนในความดูแลนั้นไม่ผ่านมาตรฐานหลายคน (ไม่ยอมส่งงาน) พวกเขาก็ไม่แคร์ แถมยังถูกพ่อแม่เด็กโทรจิกมาต่อว่า และผู้บริหารก็มักจะถามว่า เหตุใดจึงปล่อยให้เด็กสอบตกโดยที่ไม่ช่วยพวกเขาเลย?

ต่อให้เธอพยายามสอน พยายามช่วยให้เด็กทำงานส่งซ่อมก็แล้ว ก็ยิ่งบั่นทอนกำลังใจเข้าไปอีก และเหตุการณ์เหล่านี้ก็จะวนเวียนไปเรื่อยๆ ทุกเทอม…

 

 

พ่อแม่ผู้ปกครองควรจะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหานี้ แทนที่จะโทษครูจากความล้มเหลวของบุตรหลาน Julie คิดว่าพวกเขาควรจะดูแลเอาใจใส่ให้มากกว่านี้ในช่วงที่อยู่ด้วยกันที่บ้าน

“พวกเขาควรหยุดให้ท้ายลูกหลายของตัวเองเสียที มันไม่ยุติธรรมกับสังคมเลย และที่สำคัญกว่านั้น มันไม่ยุติธรรมต่อเด็กที่สอนให้พวกเขาเรียนรู้ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ร้ายแรงอะไร มันจะส่งผลทำให้พวกเขา เดินไปไม่ถึงความสำเร็จและมีชีวิตที่อุดมสุข”

 

 

โดยในปี 2017 ที่ผ่านมา ‘ประเทศสหรัฐอเมริกา’ ได้รับการจัดอันดับระบบการศึกษาอยู่ที่อันดับ 16 จากทั่วทั้งโลก และอันดับที่ 1 นั้นได้แก่ ‘ประเทศเกาหลีใต้’ อันเป็นผลสรุปจากเว็บไซต์ World Top 20 เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2018

 

ที่มา : julie.d.knight.3, worldtop20, boredpanda

Comments

Leave a Reply