เคยสงสัยบ้างหรือไม่ว่า ‘อาหาร’ ของ ‘แต่ละอาชีพ’ ทั่วโลกนั้นแตกต่างกันอย่างไรบ้าง?

ปกติมนุษย์เรามีความชอบที่ไม่เหมือนกันใช่หรือเปล่า ซึ่งก็เช่นเดียวกันกับอาหาร มนุษย์ย่อมมีความอยากอาหารไม่เหมือนกันและมักจะเลือกกินแต่สิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ

แต่ถ้าเป็นอาหารที่เขากำหนดมาในแต่ละอาชีพที่คนประกอบอาชีพนั้นเขาเลือกไม่ได้ล่ะ เพื่อนๆ เคยนึกถึงรึเปล่าว่าแต่ละอาชีพมีการจัดอาหารกันอย่างไรบ้าง

หากเพื่อนๆ สงสัยตามที่เรากล่าวไป วันนี้ #เหมียวโคบี้ ก็ได้รวบรวมข้อมูลของอาหารที่แต่ละอาชีพทั่วโลกนี้ได้กินมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันแล้วครับ

 

ลูกเรือดำน้ำ ประเทศรัสเซีย

 

หากพวกเขาอยู่ในน้ำจะได้อาหารเป็นซุปถั่วและสิ่งที่เรียกว่า “พาสต้าสไตล์นาวี” แถมยังมีไวน์พร้อมคาเวียร์ให้ด้วยนะ ส่วนเวลาพวกเขาอยู่บนบกก็จะได้อาหารต่างๆ นานา แต่ส่วนมากจะเป็นพวกปลา ซึ่งในแต่ละมื้อรวมๆ แล้วต้องได้พลังงานประมาณ 1,200 แคลอรี

 

คนงานหมุนเวียนที่พื้นที่ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส ประเทศรัสเซีย

คนงานในพื้นที่เหน็บหนาวนี้โดยปกติแล้วจะได้รับอาหารเป็นผักและผลไม้สด รวมถึงทางโรงอาหารก็จะเสิร์ฟเมนูร้อนและเย็นที่มีความหลากหลายอีกมากมาย

 

นักบินอวกาศ สหรัฐอเมริกาและประเทศรัสเซีย

น่าแปลกที่นักบินอวกาศของแต่ละประเทศจะชอบกินอาหารของอีกฝ่าย เช่น นักบินของอเมริกาจะชอบกินชีสกระท่อมของรัสเซีย และก่อนที่นักบินอวกาศจะได้กินอาหารต้องผ่านขั้นตอนหลายขั้นมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการต้องต้มต้องผงพิเศษหรือเอาเครื่องอบพิเศษก่อน ซึ่งแต่ละวันนักบินอวกาศจะรับพลังงานประมาณ 3,500 กิโลแคลฯ ต่อวัน

 

คนงานผลิตเครื่องมือและเครื่องจักร ประเทศเบลารุส

คนงานมักจะได้ซุปที่ทำจากกะหล่ำปลี พร้อมกับซาวครีม พาสต้า เนื้อแผ่น ค็อกเทลผลไม้และขนมปัง ซึ่งแต่ละมื้อมีแคลอรี 500 และค่าใช้จ่ายเพียง 30 บาทเท่านั้น

 

เจ้าหน้าที่กองทัพบก ประเทศรัสเซีย

อาหารของพวกเขาเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ โดยที่พนักงานต้องเลือกจาก 2 จานสลัด 2 ถ้วยซุป 3 อาหารอุ่นและ 3 เครื่องเคียงรวมถึงน้ำหรือค็อกเทลผลไม้ ซึ่งปริมาณพลังงานที่แนะนำต่อมื้อกลางวันคือ 1,980 แคลอรี

 

เจ้าหน้าที่ประจำฐานทัพเรือ ประเทศฟินแลนด์

ในฟินแลนด์ก็ใช้การตักอาหารแบบบุฟเฟ่ต์เช่นกันซึ่งปกติโรงอาหารจะเตรียมอาหารง่ายๆ ไว้ให้ แต่ก็จะมีพวกของสุขภาพเช่นสลัด ผัก ผลไม้ เนื้อแผ่น เนย ชาหรือกาแฟรวมถึงยังมีนมให้เลือกอีกหลายชนิด

 

นักบินที่ทำงานให้สายการบินรายใหญ่ ประเทศเนเธอร์แลนด์

ปกติแล้วในสายการบินรายใหญ่นักบินจะได้รับอาหารที่มีความหลากหลายเพื่อลดความเสี่ยงต่ออาหารเป็นพิษ ซึ่งแต่ละมื้อจะได้รับพลังงานอยู่ที่ 800 แคลอรี

 

นักบินที่ทำงานให้สายการบินต้นทุนต่ำ สหรัฐอเมริกา

ต่างจากนักบินข้างบน นักบินของสายการบินต้นทุนต่ำจะถูกให้เตรียมอาหารการกินของตัวเองมา ซึ่งบางทีก็อาจจะทำมาจากบ้านหรือมาใช้ห้องครัวที่สนามบินทำเอาก็เป็นได้

 

พนักงานบริษัท LEGO ประเทศเดนมาร์ก

ณ ที่นี้ก็อาหารก็เป็นแบบบุฟเฟ่ต์เช่นเดียวกัน และทางบริษัทมีนโยบายอาหารที่ดีต่อสุขภาพจึงมีอาหารจำพวกสลัด ผัก ผลไม้ ไก่ เนื้อ กราโนล่าบาร์เต็มไปหมดและยังมีอาหารว่างมากมายที่จะเสิร์ฟในทุกๆ วันศุกร์

 

พนักงานขายในห้างสรรพสินค้า GUM ประเทศรัสเซีย

พนักงานห้างสรรพสินค้า GUM ปกติแล้วจะสามารถเข้าไปทานอาหารที่ห้องอาหารเฉพาะ โดยที่อาหารจะเป็นอาหารที่ทำตามสูตรของโซเวียตที่มีค่าใช้จ่ายประมาณ 100 บาทต่อมื้อ

 

แพทย์ฉุกเฉิน ประเทศแคนาดา

แน่นอนว่าถึงจะเป็นแพทย์ฉุกเฉินก็มีเวลาพักกลางวันเช่นกัน แต่อาหารส่วนมากของพวกเขาจะเป็นอาหารที่สามารถรับประทานได้ทุกที่ ซึ่งบางคนก็ซื้อจากโรงอาหาร บางคนก็พกมาเองจากบ้าน

 

นักดับเพลิง ประเทศสโลวาเกีย

เช่นเดียวกันกับแพทย์ฉุกเฉินด้วยภารกิจที่รัดตัว จึงทำให้นักดับเพลิงต้องเลือกอาหารที่สามารถทานได้ทุกที่ ซึ่งปกติจะเป็นจานที่ข้าวเยอะๆ และมีเนื้อและผัก เพราะว่าในการดับเพลิงมันอาจจะต้องใช้พลังงานถึง 500 แคลอรีต่อชั่วโมง ดังนั้นจึงต้องเน้นปริมาณเข้าไว้!

 

เจ้าหน้าที่ FBI รวมถึงหน่วยพิเศษอื่นๆ สหรัฐอเมริกา

อาหารที่เหล่าหน่วยพิเศษได้รับไม่ได้ฟรีทั้งหมด แต่จะเป็นจานอาหารที่เต็มไปด้วยโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต และเนื่องจากการฝึกซ้อมที่หนักหน่วงในแต่ละวัน พลังงานที่เหมาะที่พวกเขาควรได้รับคือ 3,000 แคลอรีต่อคน

 

คนงานเหมืองแร่ ประเทศเกาหลีใต้

คนขุดแร่ปกติจะได้รับอาหารที่ส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยข้าวกับเนื้อหมู น้ำเปล่าและมีของหวานเป็นนม ในหลายๆ ประเทศคนขุดแร่จะได้ใช้กล่องข้าวเป็นกล่องหลักเพื่อกันไม่ให้อาหารเย็นลง แต่ในเกาหลียังใช้การห่อด้วยผ้าแบบเดิม

 

พนักงาน Google ประเทศอินเดีย

โรงอาหารในบริษัทกูเกิลจะเสิร์ฟเมนูที่มีความหลากไม่ว่าจะเป็นอาหารจากทางยุโรป อินเดียหรือจากทางตะวันออก ซึ่งจะคอยหมุนวนกันมาให้กิน

 

นักปีนเขา ประเทศโปแลนด์

นักปีนเขาเป็นอาชีพที่ต้องการอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ง่ายต่อการนำติดตัวไปด้วยและง่ายต่อการปรุง โดยปกติแล้วพวกเขามักเลือกอาหารเป็นถั่ว ช็อกโกแลตและอาหารผงที่นำไปละลายในน้ำแล้วจะได้เป็นซุป

 

พนักงาน Facebook ประเทศฮ่องกง

โรงอาหารที่นี่จะเสิร์ฟอาหารที่ขนาดสำหรับ 3 คนและพนักงานสามารถนำอาหารกลับไปกินที่โต๊ะทำงานได้ แต่ทีเด็ดของที่นี่คือทั้งหมดที่ว่าคุณจะเสียค่าใช้จ่ายแค่ในส่วนของกาแฟเท่านั้น แม้แต่แอลกอฮอล์ที่บาร์ยังฟรีเลย

 

นักเต้นบัลเลต์ ประเทศญี่ปุ่น

เพื่อที่จะให้สามารถเผชิญกับการฝึกซ้อมที่เข้มข้นแต่ไม่ต้องไม่เพิ่มน้ำหนักด้วย นักเต้นบัลเลต์จึงนิยมที่จะนับปริมาณคาร์โบไฮเดรตและหลีกเลี่ยงการทานน้ำตาล พวกเธอมักจะเลือกทานปลาและอาหารทะเลอื่นๆ รวมกับถั่ว ไข่และผัก ผลไม้ต่างๆ

 

พนักงาน Tesla สหรัฐอเมริกา

ที่นี่ที่ Tesla พนักงานทุกคนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับกาแฟ ชา น้ำอัดลม ซีเรียล ผลไม้ รวมถึงของขบเคี้ยวบางอย่าง ทางบริษัทต้องการที่จะกระตุ้นให้พนักงานมีการบริโภคที่ดี แต่น่าเสียดายที่นอกจากของที่เรายกอย่างไป พวกเขายังต้องจ่ายเงินอยู่ดี

 

นักวิ่งมาราธอน ประเทศสโลวาเกีย

เป็นที่รู้กันว่านักวิ่งนั้นใช้พลังงานในแต่ละงานเยอะมาก ดังนั้นอาหารอาหารที่พวกเขาเลือกจึงเป็นอาหารที่สามารถเพิ่มแคลอรี่ได้อย่างมากๆ เช่นพวกกล้วย ของหวาน ช็อกโกแลต น้ำอัดลมต่างๆ

 

ที่มา Brightside

Comments

Leave a Reply