เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าไปจับกุมการค้าประเวณี “เซ็กส์หมู่” ที่ผิดกฎหมาย ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในพัทยา
เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมทีมได้บุกจับปาร์ตี้เซ็กส์หมู่จากการที่ได้รับแจ้งว่ามีการมั่วสุมกิจกรรมทางเพศกันในโรงแรมที่ชื่อว่า Tulip Hotel ในพัทยา เมื่อเข้าไปแล้ว พบว่ามีชายชาวต่างชาติวัยกลางคนจำนวนมาก เปลือยกายพร้อมด้วย หญิงสาวในวัยผู้เยาว์ หลายคน
เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบตัวได้ทั้งเป็นชายชาวต่างชาติ 28 ราย มีทั้งชาวออสเตรเลีย อเมริกา แคนาดา อังกฤษ เยอรมัน รัสเซีย มาเลเซีย หรือแม้กระทั่งจีน
เจ้าของโรงแรม Tulip Hotel ถูกจับกุมตัวในข้อหาดำเนินกิจการอย่างผิดกฎหมายและเป็นผู้รู้เห็นยินยอมให้มีการค้าประเวณีที่ผิดกฎหมายดังกล่าวในภายในโรงแรม
จากข่าวที่กล่าวไปข้างต้น ทำให้ประเทศไทยบ้านเรายิ่งมีชื่อเสียง (ในแง่ลบ) โดยเฉพาะเรื่องการค้าประเวณีและการขายบริการทางเพศ ที่สื่อต่างชาติถึงกับตั้งฉายาให้เมืองพัทยา ว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งเซ็กส์” ของโลกเลยทีเดียว
ทั้งนี้ ชาวเน็ตต่างประเทศก็ให้ความสนใจกับข่าวนี้เป็นอย่างมาก ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนไม่น้อยทีเดียวที่เข้ามา “แสดงความคิดเห็น” เกี่ยวกับเรื่องนี้หลังจากที่ข่าวการจับกุมเซ็กส์หมู่ที่พัทยาถูกเผยแพร่ออกไป
“คิดว่านี่เป็นสิ่งต้องห้ามในไทยเหรอ ฉันคิดว่านี่น่ะเศรษฐกิจของประเทศเลยนะ คือไม่มีใครไปประเทศนี้เพื่อชมธรรมชาติหร๊อกกก นี่แหละคือเหตุผลที่ทำไมคนน่ายกย่องต่างๆ ถึงไม่ค่อยไปประเทศไทย”
“พวกผู้ชายเหล่านี้ทำมาเป็นด่าว่าพวกพรากผู้เยาว์ในประเทศนะ แต่กลับไปประเทศไทยเพื่อไปปู้ยี่ปู้ยำเด็กสาวเสียอย่างนั้น”
“ขอร้องเถอะ การค้าประเวณีมีทุกประเทศจ่ะ แค่ประเทศไทยน่ะขายราคาถูก ดูอย่างในอเมริกาก็มี Play Boy Club ขายบริการราคาแพงไว้สำหรับคนรวยแบบ Trump ไงล่ะ ฉะนั้น อย่าตื่นเต้นกันนักเลย”
คนนี้คอมเมนต์มีใจความว่า “เป็นปกตินะที่พัทยาจะมีบาร์ขายบริการสาวๆ ซึ่งไม่ได้ต่างอะไรกับลอนดอน อัมสเตอร์ดัม หรือว่าซิดนีย์เลยสักนิด
แต่ที่ต่างกันคือพัทยาน่ะบรรยากาศดี มีชายหาดสวยงาม แถมอุดมไปด้วยสุดยอดอาหารมากมาย ฉะนั้น ก่อนจะตัดสินพัทยา กรุณามาเที่ยวด้วยตัวเองก่อนเถอะ”
“การค้าประเวณีเป็นเรื่องปกติของพัทยานะ ฉันมีเพื่อนคนหนึ่งอาศัยอยู่พัทยามา 12 ปีแล้ว แต่ตอนนี้เขาย้ายไปอยู่เชียงใหม่แล้วล่ะ เพราะเชียงใหม่น่ะสวยงามจริงๆ”
“ไอ้แบบนี้น่ะเกิดขึ้นทุกวันในพัทยา คือมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลย ถ้าตำรวจมาเจอคุณก็จ่ายค่าปรับเพียง 100 บาท ซึ่งบางทีตำรวจเหล่านั้นเขาก็รับเงินใต้โต๊ะกันอีกต่างหาก”
“ปัญหาอยู่ตรงไหนเหรอ ทุกวันนี้ผู้คนไปประเทศไทยก็เพื่อเซ็กส์อยู่แล้ว แล้วทำไมต้องทำให้เรื่องมันใหญ่โตกันด้วย! หรือว่าเพิ่งจะมามีศีลธรรมกันเอาตอนนี้ หื๊ม?”
ความคิดเห็นเหล่านี้แสดงให้เห็นแล้วว่า ประเทศไทย เป็นอย่างไรในสายตาของพวกเขา ฉายา “เมืองหลวงแห่งเซ็กส์” นั้นไม่ได้มาเพราะโชคช่วย
แต่ทางฝ่ายเบื้องบนที่เกี่ยวข้อง เลือกที่จะจัดการตรงนี้อย่างไร “ทำให้ถูกกฎหมาย” หรือ “ขจัดให้หมดไป” หรือจะ “ซุกไว้ใต้พรม” อย่างที่เคยปฏิบัติกันมาล่ะ!?
#เหมียวโลลิ
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.