ขันที คือชื่อเรียกที่เรานิยมใช้เรียกชายที่มีการตอนอวัยวะเพศ ซึ่งมักมีการนำไปทำงานในวังใน ว่ากันว่ามีที่มามาจากคำว่า Eunuch ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษากรีกที่ว่า Eunouchos แปลว่าผู้ดูแลรักษาเตียง
ประวัติของขันที
ประวัติที่เก่าแก่ที่สุดของขันทีนั้นย้อนไปได้ในช่วงราวๆ ช่วง 2000 ปีก่อนคริสตกาลที่เมืองละกาสช์ ของชาวสุเมเรียน ในเมโสโปเตเมีย
ขันทีในสมัยนั้นมีหน้าที่หลากหลายภายในราชวังตั้งแต่ข้าราชบริพาร นักร้องเสียงแหลม ผู้เชี่ยวชาญทางศาสนา ทหาร ผู้คุ้มกันเจ้าหน้าที่ ผู้พิทักษ์สตรี หรือคนรับใช้ในฮาเร็ม
ขันทีในยุคแรกๆ นั้นมักที่จะมาจากคนรับใช้หรือทาสที่ถูกนำมาตอน และออกแบบมาไม่ให้มีความสัมพันธ์กับทหาร ขุนนาง หรือแม้แต่ครอบครัวของตนเอง (อย่างน้อยๆ ก็ไม่มีทายาท)
เนื่องจากสภาพร่างกายสถานะทางสังคมของพวกเขาต่ำ และสามารถหาคนมาแทนที่ได้อย่างง่ายดาย หรือถูกฆ่าได้โดยไม่มีผลกระทบมากนัก
วัฒนธรรมการใช้ขันทีแตกแขนงออกไปสู่จีน เอเชียตะวันตก เอเชียใต้ เปอร์เซียโบราณ และจักรวรรดิโรมันตะวันออก และในเวลาต่อมา ออตโตมาน ซาฟาวี และโมกุล
การที่พวกเข้ามาสู่จีนนั่นเองซึ่งทำให้ขันทีกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในปัจจุบัน และพวกเขาก็กลายเป็นชายถูกตอนที่ได้รับความไว้วางใจให้ทำงานในพื้นที่ใกล้เคียงกับเบื้องสูงได้ โดยไม่ต้องกังวลถึงความสัมพันธ์ชู้สาวมากนัก
ขันทีในไทย
ดร. วินัย พงศ์ศรีเพียร ได้สันนิษฐานว่า “ขันที” น่าจะมาจากคำว่า ขณฺฑ ในภาษาสันสกฤต ซึ่งแปลว่า ทำลาย ไม่สมบูรณ์ ขาดหายไป หรือตัดออกเป็นชิ้น
แม้ว่าจะในประเทศไม่พบหลักฐานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการใช้ขันที แต่ก็มีร่องรอยว่ามีขันทีมาก่อนในสมัยอยุธยาโดยเรียกกันว่า นักเทษขันที
ทางต่างประเทศเชื่อว่าขันทีในไทยมาจากมุสลิมอินเดียจากชายฝั่ง Coromandel ซึ่งเข้ามาทำหน้าที่เป็นขันทีในพระราชวังและศาลไทย
แถมบางครั้งคนไทยยังไปขอขันทีจากประเทศจีนมาเยี่ยมชมประเทศ และให้คำแนะนำแก่พวกเขาเกี่ยวกับการทำงานของศาล ว่ากันว่าไทยเราให้ความเคารพกับอาชีพนี้อย่างสูง
ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมขันทีถึงมีเสียงที่แหลมสูงนั้น ว่ากันว่ามาจากการที่ฮอร์โมนเพศชายหายไปมาก (จากการตอน) ทำให้มีเสียงแหลม ลูกกระเดือกหายไป และเชื่อกันว่าจะไม่มีอารมณ์ทางเพศอีกต่อไป
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.