3 เรื่องเล่าแห่งแรงบันดาลใจ เรื่องราวสั้นๆ แอบซึ้ง แต่แฝงเอาไว้ด้วยข้อคิดมากมายเหลือเกิน

อยากได้กำลังใจไปสู้กับงานในสัปดาห์อันโหดร้ายกันไหมล่ะ รู้สึกว่าชีวิตมันเหนื่อยจนไม่อยากทำอะไรไหม ถ้าใช่ ก็ขอบอกว่ามาถูกที่แล้ว เพราะนี่คือ 3 เรื่องสั้นแห่งแรงบันดาลใจ เรื่องราวสั้นๆ แอบซึ้งนิดๆ แฝงเอาไว้ด้วยข้อคิด ที่อาจจะช่วยให้คุณมีกำลังใจทำงานผ่านสัปดาห์อันยากลำบากไปได้ไม่ยาก…

แต่ถึงจะไม่หมดกำลังใจก็อ่านได้นะ เก็บเอาไว้เล่าเป็นนิทานไง

 

 

การดิ้นรนของผีเสื้อ

ชายคนหนึ่งพบดักแด้ของผีเสื้ออยู่ใกล้ๆ กับหน้าต่างห้องของเขา เขาจึงตัดสินใจที่จะสังเกตการเติบโตของมัน

วันหนึ่งดักแด้ก็เริ่มแยกออก  ชายหนึ่งจึงตัดสินใจที่จะนั่งดูการปรากฏตัวของผีเสื้อตัวนั้น เจ้าผีเสื้อออกมาจากรูเล็กๆ ที่ดักแด้ ทีละนิดๆ มันพยายามเอาตัวของมันออกมา แต่หลังจากที่เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงมันก็ยังออกมาไม่สำเร็จ และในที่สุดมันก็เลิกที่จะพยายามต่อ

ชายหนุ่มเห็นแบบนั้นเลยตัดสินใจที่จะช่วยผีเสื้อตัวนั้น เขาเอากรรไกรตัดรูดักแด้ให้กว้างขึ้น และทำให้เจ้าผีเสื้อสามารถออกมาได้อย่างง่ายดาย มันเป็นผีเสื้อที่ตัวใหญ่มาก แต่กลับมีปีกที่เล็กเหลือเกิน

ชายหนุ่มไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องนี้นัก เขากลับมานั่งรอให้ผีเสื้อออกบินอีกครั้ง แต่มันก็ไม่ออกบินอีกเลยทั้งชีวิต มันเอาแต่คลานอยู่ที่พื้นด้วยร่างกายอันใหญ่โตของมันไม่ต่างกับตัวหนอนที่มีปีกไว้เพียงประดับเท่านั้น

แม้จะเข้าไปช่วยด้วยความเป็นห่วงแค่ไหน แต่ชายหนุ่มก็ไม่มีทางรู้ได้ว่าการที่จะต้องออกจากดักแด้ให้ได้ด้วยตัวมันเอง คือวิธีเดียวที่ผีเสื้อจะสามารถฉีดเลือดของมันเข้าไปในปีก และทำให้มันบินได้

 

สุนัขตัวน้อย

เจ้าของร้านขายสัตว์แห่งหนึ่งขึ้นป้ายขายสัตว์ขึ้นเพื่อเรียกร้องความสนใจของคนที่ผ่านไปมา และส่วนมากมันก็จะได้ผลกับเด็กๆ เสียด้วย

วันหนึ่งมีเด็กผู้ชายเข้ามาเห็นป้ายนี้เข้า และตัดสินใจเดินเข้าไปถามเจ้าของร้านว่า “สุนัขพวกนี้ราคาเท่าไหร่เหรอ”

เจ้าของร้านตอบกลับมาว่าตั้งแต่ 900 บาท ไปจนถึง 1,500 บาท

เด็กหนุ่มหยิบเงินทั้งหมดที่มีออกมานับ “ผมมีอยู่แค่ร้อยเดียว ขอดูพวกหมาก่อนได้ไหมครับ?”

เจ้าของร้านเห็นแก่ความเป็นเด็กจึงยิ้มให้และเป่าปากเรียกสุนัขของเขาออกมา พวกมันเป็นสุนัขตัวน้อยๆ 5 ตัว แต่หนึ่งในนั้นมีตัวหนึ่งที่มาถึงช้ากว่าตัวอื่น

เด็กหนุ่มดูจะสนใจในสุนัขตัวนั้นมาก เขาเดินเข้าไปหามันและถามเจ้าของร้านว่า “มันเป็นอะไรเหรอครับ” เจ้าของร้านอธิบายว่าสัตวแพทย์ได้ตรวจดูลูกสุนัขตัวนี้ และพบว่ามันไม่มีกระดูกสะโพก มันจะง่อย และน่าเกลียดไปตลอด

เด็กชายตัวน้อยรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที “นี่ล่ะลูกสุนัขที่ผมต้องการ”

 

 

เจ้าของร้านบอกว่า “ไม่ ผมขายสุนัขตัวนั้นไม่ได้ มันไม่ใช่อะไรที่สมบูรณ์ ถ้าเธอต้องการมันจริงๆผมยกให้ฟรีๆ เลย”

เด็กชายได้ยินอย่างนั้นเช่นที่จะดีใจเขากลับค่อนข้างไม่พอใจ เขามองเข้าไปในตาเจ้าของร้าน ชี้นิ้วน้อยๆ ของเขาไปที่ลูกสุนัข และพูดว่า

“ผมไม่ต้องการสุนัขตัวนี้ฟรีๆ มันควรจะมีค่าเท่าสุนัขตัวอื่นๆ ผมจะจ่ายเงินซื้อมันในราคาเต็ม ผมจะให้เงินคุณไปก่อน 100 บาท และจะผ่อนไปเรื่อยๆ จนครบจำนวน”

เจ้าของร้านตกใจในคำพูดของเด็กน้อยมาก เขาถามเด็กคนนั้นกลับไปว่า “ทำไมน้องต้องทำขนาดนั้นเพื่อสุนัขที่วิ่งก็ไม่ได้ กระโดดก็ไม่ได้ด้วย มันอาจจะเล่นกับน้องไม่ได้ด้วยซ้ำ เอาเข้าจริงๆ ถ้าน้องจะเอาไปเลี้ยงผมจะแถมเงินให้ยังได้เลยด้วยซ้ำ”

แทนที่จะตอบคำถามนั้นกลับ เด็กหนุ่มก็เอื้อมมือของเขาไปดึงขากางเกงขึ้น ที่ขาของเขามันทั้งบิดเบี้ยวและเต็มไปด้วยบาดแผล ดูยังไงก็ไม่เข้าใจว่าเขาเดินได้อย่างไร

“ผมเองก็วิ่งไม่ได้ กระโดดไม่ได้เหมือนกัน… ดังนั้นผมเข้าใจว่าเจ้าสุนัขตัวนี้รู้สึกอย่างไร”

 

กล่องของขวัญ

คุณพ่อคนหนึ่งเป็นคนที่มีฐานะไม่ค่อยที่จะดีเท่าไหร่ เขาต้องประหยัดทุกอย่างที่เขาทำได้ ถึงขั้นที่ว่าเขาดุลูกสาวที่แกะกระดาษห่อของขวัญไป

วันต่อมาลูกสาวของเขาก็เอาของขวัญกล่องหนึ่งมาให้กับพ่อของเธอ

คุณพ่อรู้สึกละอายมากที่ดุลูกไปก่อนหน้า ดูเหมือนว่าที่ลูกสาวของเขาแกะกระดาษห่อของขวัญไปนั้น ก็เพื่อที่จะทำของขวัญให้แก่เขา ว่าแล้วเขาก็บรรจงแกะของขวัญที่ลูกให้ แต่กลับพบว่าในกล่องของขวัญนั้นไม่มีอะไรอยู่เลย

เขาโกรธลูกสาวของเขามากที่ใช้กระดาษโดยสิ้นเปลืองแถมยังเล่นกับความรู้สึกของคนอีก “ไม่รู้เหรอว่าเวลาให้ของขวัญกับใครสักคน มันควรจะมีอะไรอยู่ข้างในกล่องน่ะ!!”

ลูกสาวของเขาตกใจมากที่โดนตวาด เธอน้ำตาคลอและบอกกับพ่อของเธอว่า

“มันไม่ใช่กล่องเปล่าเสียหน่อย หนูใส่ความรักของหนูไว้ต่างหาก”

ราวกับดวงใจของพ่อถูกบดขยี้ เขากอดลูกสาวไว้แน่น และขอโทษเธอจากใจ

 

 

จากวันนั้นมาเวลามันช่างผ่านไปนานเหลือเกิน…

คุณพ่อที่ตอนนี้กลายเป็นชายชราคิดในขณะที่ปิดกล่องของขวัญเปล่าๆ ลง แม้แต่ตอนนี้เขาก็ยังรับรู้ได้ถึงความรักของลูกสาวจากในกล่องนั้น

“ไม่ต้องห่วงพ่อหรอกนะลูก…” เขาพูดมันกับหลุมศพของลูกสาวที่เสียไปในอุบัติเหตุ ความรักนั้นมันมีค่ายิ่งกว่าสิ่งใดในโลกใบนี้จริงๆ นั่นล่ะ

“หลับให้สบายนะลูก”

 

ที่มา wealthygorilla