บนโลกอินเทอร์เน็ตอันไร้ขอบเขตใดๆ ผู้ใช้งานสามารถเลือกที่จะเสพสื่อต่างๆ ตามความชื่นชอบหรือความสนใจของตัวเองได้อย่างไร้ขีดจำกัด และด้วยความไร้ขอบเขตเหล่านี้ โลกอินเทอร์เน็ตจึงมีสภาพเป็นสีเทา ที่มีทั้งด้านดีและด้านไม่ดีอยู่ โดนเฉพาะบนเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์ค
และเพื่อให้สังคมกลุ่มหนึ่งอยู่ภายใต้การควบคุม เนื้อหาที่ถูกเผยแพร่ออกมาจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ก็จะต้องผ่านผู้ดูแลตรวจสอบเสียก่อน เพื่อไม่ให้ความไม่จรรโลงใจไปกระทบกับจิตใจของผู้อื่นในวงกว้าง
งานดังกล่าวก็คือ งานตรวจสอบเนื้อหาของผู้ดูแลระบบหลังบ้านของเฟซบุ๊ก โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ระดับโลก ที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก
โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เพื่อคอยจัดการ ‘ตรวจสอบและลบ’ เนื้อหาที่ถูกแจ้งละเมิดเข้ามาทุกๆ วัน เป็นพันๆ เคส
หนึ่งในผู้ดูแลทางด้านดังกล่าวนามว่า Laura เปิดเผยว่า งานดังกล่าวเป็นงานที่สำคัญที่สุด และแย่ที่สุดในเฟสบุ๊ก อีกทั้งยังไม่มีใครใส่ใจอะไรกับงานนี้เลย…
เนื่องจากการทำงานของเธอจะต้องเจอกับ เนื้อหาที่ล่อแหลมและกระทบกระเทือนจิตใจ อย่างเช่น การตัดหัว สื่อลามกเด็ก การทารุณกรรมสัตว์ ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ผู้ตรวจสอบเนื้อหาจะต้องพบเจอทุกวัน จากการรายงานเข้ามาของผู้ใช้งานของเฟซบุ๊ก เธอเปิดเผยว่าตัวผู้ทำงานจะกลายมาเป็นเครื่องจักร ที่คอยทำการกดปุ่มถัดไป ปุ่มใช่หรือไม่ใช่ กระบวนการดังกล่าวจะวนลูปกลายมาเป็น กดถัดไป ตัดสินใจ และกดถัดไป ตัดสินใจ หลายต่อหลายครั้งภายในหนึ่งวัน
สำหรับ Laura เอง เนื้อหาที่แย่ที่สุดสำหรับเธอก็คือ สื่อลามกเด็ก อย่างเด็กทารกวัยเพียง 6 เดือนถูกข่มขืน รวมไปถึงการก่อการร้ายที่ทำให้เธอเห็นการนองเลือด ภาพอันน่าสยดสยองต่างๆ นานา ส่งผลร้ายต่อตัวเธอถึงขั้นฝันร้ายหลายครั้ง
ทางด้าน Monika Bickert หัวหน้างานดูแลเนื้อหาเปิดเผยว่า งานดังกล่าวเป็นงานที่ยาก และพวกเขาก็พยายามทำในสิ่งที่พอจะทำได้อย่างดีที่สุดแล้ว และหวังว่าในอนาคตจะนำเทคโนโลยีมาทำหน้าที่แทนมนุษย์ในส่วนนี้ต่อไป
แม้ว่าทางบริษัทเปิดเผยว่ามีทีมคอยให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง แต่ตัวผู้ทำงานเองกลับบอกว่าไม่เพียงพอต่อความต้องการ เนื่องจากพวกเขาต้องคอยระบายความรู้สึกตลอดทั้งวันจากแรงกดดันมหาศาล
สุดท้ายนี้เธอจำลองภาพว่าหากได้พบกับ Mark Zuckerberg สิ่งเดียวที่เธออยากจะบอกกับเขาก็คือ “คุณปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง ที่ปล่อยให้คนหนุ่มสาวอย่างเราต้องมาดูอะไรพวกนี้ พวกเราถูกปฏิบัติเหมือนไร้ตัวตนใดๆ”
ที่มา : bbc, wsj, news.com.au, thedailybeast
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.