อีกหนึ่งสาเหตุของอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ได้รับการจัดอันดับไว้เป็นอันดับต้นๆ นั่นก็คือ เมาแล้วขับ ที่สร้างความเสียหายมากมายไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อทรัพย์สิน ความเสียหายต่อส่วนรวม และความเสียหายต่อชีวิตไม่ว่าจะเป็นตัวเองหรือผู้อื่น
ทางรัฐบาลจึงต้องมีมาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อลดอัตราจำนวนผู้เมาแล้วขับเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะตามมา จึงได้มีการตั้งข้อกฎหมายหนักๆ รวมไปถึงการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ร่วมด้วย นั่นก็คือการใช้ เครื่อง EM หรือเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ที่มาพร้อมกับตัวติดตามสัญญาณ GPS สวมติดข้อเท้าเอาไว้ตลอดเวลา เคยถูกนำมาใช้ตั้งแต่ปี 2557 แล้วก็ยกเลิกไป และนำมาใช้ใหม่ในปี 2561
เครื่อง EM ถูกนำกลับมาใช้พร้อมกับตั้งข้อหาใหม่ เชื่อว่าคงไม่มีใครที่อยากจะต้องใช้เครื่องนี้อย่างแน่นอน #เหมียวบู้บี้ จึงขอนำเรื่องราวของสาวคนหนึ่งที่ได้มาเผยแพร่เรื่องราวประสบการณ์การโดนเครื่อง EM ติดตัว
“ฝากเตือนสำหรับพวกที่ชอบปาร์ตี้หนัก
เจอมากับตัวเลย นี่โดนด่านวัดแอลกอฮอล์ได้ 175 โดนรับโทษ 4 ข้อหา
1. จำคุกสองเดือน ปรับ 17,000 บาท จำคุกรอลงโทษไว้ 2 ปี
2. ต้องมารายงานตัวและอบรม 4 ครั้ง
3. บำเพ็ญประโยชน์ 24 ชั่วโมง
4. ติดอุปกรณ์ติดตาม ห้ามออกจากที่พักตั้งแต่ 22.00-04.00 น. (พีคสุดคือข้อนี้แหละ 1-3 ทุกคนรู้ดีแต่ข้อ 4 นี่คือไม่คิดว่าเจอกับตัว5555)
ปล.1 ถามถอดได้มั้ย:บอกเลยว่าถอดไม่ได้ ถ้าถอดก็รอหมายเรียกติดคุกเลย
ปล.2 แล้วเค้าจะรู้ได้ไงว่าเราออกไปข้างนอก: เค้ามีจีพีเอสติดเราไว้ ถ้าออกไปข้างนอกสัญญาณจะดังและก็รอดำเนินคดีเลยจ้า
ปล.3 เครื่องนี้จะอยู่นานเท่าไหร่: 15 วันหลังจากถอดเครื่องก็แรดได้ตามสบาย แต่ห้ามทำผิดกฎหมายในระยะเวลา 1 ปี
ปล.4 อาบน้ำยังไง: ก็อาบมันอย่างนี้เนี่ยแหละ ถอดไม่ได้เลย
#ฝากไว้เป็นบทเรียน #ใครสนใจติดเครื่องนี้แนะนำกินเยอะๆ เดี๋ยวก็โดนเอง”
.
ความเห็นชาวเน็ตส่วนหนึ่งที่มีต่อเรื่องนี้
@MIND001 “หนักแน่นดีค่ะชอบ 55555555”
@Itme_pc “เราว่าดีนะ ก็ควรทำจริงจังแบบนี้แหละจะได้กลัวกันบ้าง”
@hongfctalk “มันใหญ่ไปมั้ย ยุคนี้แล้วทำเล็กๆก็น่าจะได้นะ”
@chetsu “เรื่องจริง ใช่ไหมเนี่ยะ”
เห็นหรือเปล่าว่า การเมาแล้วขับมันไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ ถ้าจำเป็นต้องดื่มจริงๆ ก็หาคนไปรับไปส่งหรือใช้บริการรถสาธารณะดีกว่านะจ๊ะ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของตัวเองและผู้อื่น
ที่มา Aomam Om
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.