ผู้เชี่ยวชาญชี้กัปตัน MH370 จงใจหลบเรดาร์ ระหว่างข้ามไทย-มาเลเซีย นานนับชั่วโมง…

ชื่อของ MH370 เที่ยวบินที่หายไปอย่างลึกลับจนกลายเป็นประเด็นระดับโลก ที่ยังคงไม่สามารถระบุสาเหตุได้แน่ชัดว่าเกิดขึ้นจากเหตุอะไร ซึ่งเป็นระยะเวลามานานกว่า 4 ปีแล้ว ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นในวันที่ 8 มีนาคม 2014

ชะตากรรมของเครื่องบิน Boeing 777 และผู้โดยสารพร้อมลูกเรือ 239 ชีวิต ยังคงสูญหายแม้หลายฝ่ายจะพยายามทำการค้นหาแล้วก็ตาม

 

MH370 เที่ยวบินจากกัวลาลัมเปอร์มุ่งหน้าสู่ปักกิ่ง

 

ปัจจุบันยังมีผู้เชี่ยวชาญจากหลายฝ่าย หลายประเทศร่วมกันวิเคราะห์หาสาเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดนี้ค้นพบว่าช่วงเวลาสุดท้ายของเที่ยวบิน เป็นการจงใจทำให้เครื่องบินดิ่งลงสู่พื้นโลก…

Larry Vance กล่าวในรายการ 60 Minutes ออกอากาศทางช่อง CBS ของสหรัฐอเมริกา โดยที่เขาเชื่อว่า ความสอดคล้องในชั่วโมงสุดท้ายของเครื่องบินนั้นเกี่ยวเนื่องกับการฆ่าตัวตาย

 

 

เขาเชื่อว่านักบินพยายามที่จะนำเครื่องดิ่งลงสู่พื้นเพื่อที่จะฆ่าตัวเอง โดยการนำเครื่องบินไปสู่พื้นที่ห่างไกลให้ได้มากที่สุด ทำให้หายไปจากจอเรดาร์จนไม่มีใครตามหาได้

“โชคร้าย ที่เขาฆ่าคนอื่นบนเครื่องด้วย และเขาตั้งใจที่จะให้เป็นแบบนั้น ไม่ใช่อุบัติเหตุแต่อย่างใด”

อดีตเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยทางคมนาคมออสเตรเลีย Martin Dolan กล่าวว่า “ทุกอย่างถูกวางแผนเอาไว้แล้ว เขาจงใจทำให้เกิดขึ้น พร้อมกับถูกยืดเวลาในการลงมือ”

 

Simon Hardy

 

ทางด้าน Simon Hardy นักบินและผู้ฝึกสอนประจำเครื่องบิน Boeing 777 เสริมว่ากัปตัน Zaharie Amad Shah นั้นพยายามหลบการตรวจจับจากเรดาร์ ทั้งทางการมาเลเซียและไทย ในขณะที่บินผ่านแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ เป็นเวลานานร่วมเกือบหนึ่งชั่วโมง

 

กัปตัน Zaharie Amad Shah

 

เส้นทางของ MH370 ที่หักเลี้ยวกลับมาแนวเขตชายแดนไทยและมาเลเซีย

 

“ในขณะที่เครื่องกำลังบินผ่านทั้งไทยและมาเลเซีย บินตามแนวชายแดน ลดระดับลงต่ำ นั่นหมายความว่าเข้าและออกทั้งสองประเทศในเวลาเดียวกัน และเป็นเขตที่อยู่ในการควบคุมด้วย

ดังนั้นทั้งสองฝั่งจึงไม่เอะใจเกี่ยวกับเครื่องบินปริศนาลำนี้ ถ้าหากว่าผมได้รับว่าจ้างให้ทำเครื่อง 777 ลำนี้หายไป ผมก็คงทำแบบเดียวกัน

และที่ผมเป็นห่วงก็คือ มันเป็นการบินที่แม่นยำมากๆ และมันก็ได้ผล อีกทั้งไม่มีการทหารจากฝั่งไหนทำการหยุดยั้งเครื่องบินลำนี้เลย…”

 

 

หลังจากที่มีการสร้างเส้นทางการบินของ MH370 ขึ้นมาใหม่ นาย Hardy ค้นพบว่ากัปตันทำการหักเลี้ยวกลับมายังบ้านเกิดของตน นั่นก็คือเส้นบินผ่านรัฐปีนัง มาเลเซีย โดยที่ไม่สามารถอธิบายเหตุผลได้

“ผมใช้เวลาคิดนานมากๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ มันจะมีเหตุผลทางเทคนิคข้อไหนเกิดขึ้นได้บ้าง? และหลังจากเวลา 2 เดือนที่คิดเกี่ยวกับมันแล้ว ผมก็ได้คำตอบ…

ใครบางคนกำลังมองออกมานอกหน้าต่าง (ตัวกัปตัน) มันอาจจะเป็นการบอกลาที่ยาวนาน หรือ เป็นการบอกลาอันแสนสั้นให้กับบ้านเกิดของตัวเอง”

 

 

การค้นหาซากของ MH370 ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งในเดือนมกราคมไปจนถึงกลางเดือนมิถุนายน จากความร่วมมือของรัฐบาลมาเลเซียและบริษัท Ocean Infinity จากการค้นหาซากเครื่องบินที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 120,000 ตารางกิโลเมตรบนพื้นผิวทะเล แต่กลับคว้าน้ำเหลว…

อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญยังคงเชื่อมั่นว่าซากเครื่องบินยังคงอยู่ แม้เวลาจะผ่านมามากแล้วก็ตาม และสักวันหนึ่งจะถูกค้นพบ

 

 

John Cox ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของเที่ยวบินระหว่างประเทศ กล่าวเสริมว่า “เมื่อคุณย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์เครื่องบินพาณิชย์หายที่อดีตผ่านมา

เรามักจะพบเครื่องบินเหล่านั้นเสมอ หากเที่ยวบินนี้ค้นหาไม่เจอ ก็คงจะเป็นปริศนาชิ้นโตเพียงหนึ่งเดียวของประวัติศาสตร์การบิน…

ถ้าคุณเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา มันคงจะช่วยบอกคุณได้ว่าเราจะเจอซากเครื่องบิน และเราพบอยู่เสมอ ซึ่งถ้าหากใช้อดีตที่ผ่านมาเป็นตัวนำทาง ผมก็มักจะมองโลกในแง่ดีแบบนี้แหละ”

 

ที่มา : news.com.au, dailymail