ครั้งหนึ่ง เรือ เคยเป็นยานพาหนะที่สำคัญที่สุดในการเดินทางข้ามประเทศ รวมไปถึงความสามารถในการขนส่งสินค้าที่บรรจุได้จำนวนมาก และการเดินทางไปยังพื้นที่ซึ่งการเดินทางภาคพื้นดินไม่สามารถไปถึงได้
แต่เรือกลับกลายเป็นสิ่งที่น่าพิศวงขึ้นมาทันทีเมื่อมีใครๆ หลายคนพบเห็นเรือบางลำสูญหายไปไร้ร่องรอย หรือบางลำก็อาจจะกลับมาล่องทะเลอีกครั้งโดยไม่มีผู้โดยสารแม้แต่คนเดียว ผู้คนจึงมักเรียกเรือเหล่านี้ว่า “เรือผีสิง”
เอาล่ะ วันนี้เรามารับฟังเรื่องราวของ 11 เรือผีสิงแห่งคาบสมุทรทั้งเจ็ด กันดีกว่าว่าจะหลอนและน่าพิศวงขนาดไหนกันเชียว…
1. The Mary Celeste
วันที่ 7 พฤศจิกายน 1872 เรือ Mary Celeste ได้ล่องออกจากนิวยอร์กมุ่งหน้าสู่เจนัวแห่งอิตาลี แต่หลังจากนั้นหนึ่งเดือนมันกลับถูกพบว่าถูกทิ้งร้างอยู่นอกชายฝั่งโปรตุเกส
เมื่อสำรวจพบว่าทุกสิ่งอย่างบนเรือถูกวางไว้เป็นปกติ ไม่มีสิ่งใดเสียหายรวมไปถึงสินค้าและของใช้ของลูกเรือเองก็ตาม ในหนังสือบันทึกการเดินเรือมีบันทึกไว้ถึงเพียงวันที่ 25 พฤศจิกายน และมีเพียงเรือชูชีพ 1 ลำเท่านั้นที่หายไป
ส่วนลูกเรือที่เหลืออีกนับ 10 คนหายไปอย่างไร้ร่องรอย และยังไม่มีใครทราบสาเหตุจนกระทั่งทุกวันนี้
2. The Lunatic Piran
Jure sterk คือนักล่องเรือชาวสโลเวเนียผู้ที่ล่องเรือข้ามทุกคาบสมุทรด้วยตัวคนเดียว พร้อมทั้งบันทึกการเดินทางของเขาเอาไว้อีกด้วย
ในปี 2007 Jure ในวัย 70 ปีตั้งใจจะออกล่องเรือรอบโลกอีกครั้งเพื่อทำสถิติผู้ที่อายุมากที่สุดในการล่องเรือรอบโลก เขาออกเดินทางจากนิวซีแลนด์ปี 2007 และทราบข่าวของเขาอีกครั้งผ่านวิทยุในเดือนมกราคม ปี 2009
ภายหลังในเดือนเดียวกันนั้นเอง เรือของเขาถูกพบลอยอยู่นอกชายฝั่งออสเตรเลีย โดยไม่มีสิ่งมีชีวิตบนเรือเลย แต่ก็ไม่มีใครกล้าพอเข้าไปสำรวจ
แต่หลังจากนั้น 3 เดือน เรือลำนี้ถูกพบอีกครั้ง และมีการเข้าไปสำรวจภายในเรือ พบว่าเรือแตกยับ แต่ไม่พบร่องรอยของ Jure ส่วนบันทึกการเดินเรือในหนังสือครั้งสุดท้ายคือวันเดียวกับที่เขาวิทยุไปแจ้งข่าว และเขาก็หายตัวไปเฉยๆ
3. The Carroll A. Deering
เรือลำนี้มีการเดินทางที่ดีมาตลอด จนกระทั่งมันถูกพบในเดือนมกราคมปี 1921 นอกชายฝั่งนอร์ทแคโรไลนา แต่ด้วยเหตุที่ว่ามีพายุกระหน่ำจึงไม่มีใครเข้าไปตรวจสอบเรือลำนี้
จนกระทั่งหนึ่งเดือนผ่านไป เมื่อสำรวจแล้วพบว่าบันทึกการเดินเรือและของใช้ส่วนตัวของลูกเรือหายไปทั้งหมด แต่ทุกอย่างภายในเรือยังคงเป็นไปราวกับเรือนี้ไม่ได้ถูกทิ้งร้าง แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบถึง 5 คนก็ยังไม่มีร่องรอยของลูกเรือให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
4. The MV Joyita
ในปี 1995 เรือลำนี้แล่นออกจากประเทศซามัวไปยังกรุงโตเกียว พร้อมลูกเรืออีก 25 คน จากการคำนวณ การเดินทางจะใช้เวลาราว 48 ชั่วโมง แต่เมื่อถึงเวลา ยังไม่มีใครพบเรือลำนี้ ผู้คนเริ่มเป็นกังวล ทำให้ทางกองทัพอากาศของนิวซีแลนด์ต้องออกตามหาและช่วยเหลือ แต่หาอยู่นานนับสัปดาห์ก็ไม่พบร่องรอย พวกเขาจึงหยุด
ห้าสัปดาห์ต่อมา เรือลำนี้ถูกพบบริเวณนอกชายฝั่งฟิจิ มันลอยตะแคงอยู่ แต่ด้วยเหตุที่ทั้งลำเรือทำจากไม้ก๊อกจึงไม่มีทางที่เรือจะจมได้ ภายในไม่พบร่องรอยของกัปตันและลูกเรือ พบเพียงผ้าพันแผลเปื้อนเลือดวางเป็นกองไว้เท่านั้น
5. The Kaz II
ในเดือนเมษายนปี 2007 เรือลำนี้ถูกพบลอยอยู่ลำพังโดยไร้ลูกเรือ ไม่กี่วันก่อนหน้านี้เรือลำนี้เพิ่งล่องออกจากออสเตรเลียพร้อมกับลูกเรือมากประสบการณ์ โดยมีแผนจะล่องไปรอบๆ ชายฝั่งด้านเหนือของออสเตรเลีย แต่ก็ทำได้ไม่สำเร็จ
เมื่อเข้าไปตรวจสอบเรือร้างลำนี้ก็พบว่าทุกอย่างอยู่ในความปกติ เว้นแต่ร่างของลูกเรือคนหนึ่งที่ขาดสะบั้น ส่วนลูกเรือคนอื่นๆ ที่เหลือนั้นหายไปอย่างไรร่องรอย ปัจจุบันยังไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรือลำนี้
6. The SS Valencia
ในปี 1906 เรือ SS Valencia นั้นเป็นเรือโดยสารที่ไปชนเข้ากับแนวปะการังระหว่างทางจากซานฟรานซิสโกไปยังซีแอตเทิล ทุกคนบนเรือตายหมดขณะที่เรือสัมผัสกับผิวน้ำ บนเรือมีเรือชูชีพ 5 ลำ แต่กลับพบเพียง 4 ลำเท่านั้น
อีก 27 ปี ต่อมา พบเรือชูชีพอีก 1 ลำที่เหลือในสภาพที่ครบถ้วนเหมือนใหม่ลอยอยู่นอกชายฝั่งบริทิชโคลัมเบียและแคนาดา แต่ว่าไม่มีใครอยู่บนเรือ และไม่มีร่องรอยที่บ่งบอกได้เลยว่ามันอยู่ในสภาพนี้มาเกือบ 30 ปีได้อย่างไร เพราะเรือแม่ที่ชนแนวปะการังได้ผุพังไปเรียบร้อยแล้ว
7. The Jian Seng
เรือลำนี้เป็นเรือขนส่งสินค้าที่ถูกพบล่องลอยอยู่นอกชายฝั่งควีนแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ในปี 2006 ข้อมูลของเรือลำนี้มีน้อยมากๆ แถมขณะที่พบก็ไม่มีร่องรอยของลูกเรือและไม่มีการจดบันทึกใดๆ เอาไว้
เท่าที่พบมีเพียงร่องรอยของเชือกบริเวณหัวเรือ อีกทั้งภายในตัวถังยังถูกควักออกมาข้างนอก ทั้งนี้เชื่อว่าเรือลำนี้ได้ถูกลากขึ้นมาเพื่อกอบกู้ แต่ไม่มีใครออกมาแสดงความเป็นเจ้าของเรือ เรือลำนี้จึงลอยอยู่อย่างนั้น ไม่มีใครทราบว่าเรือลำนี้มาจากไหน กำลังจะไปไหน และมันออกสู่ท้องทะเลตั้งแต่เมื่อใด
8. The Ocean Wave
ในเดือนกรกฎาคม ปี 1975 ศิลปินชาวดัตช์ชื่อว่า Bas Jan Ader ได้ออกล่องเรือจากเคปค้อดแมสซาชูเซตส์ ด้วยเรือที่ยาวเพียง 3.6 เมตร โดยเป้าหมายของเขาคือการล่องเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกด้วยเรือที่เล็กที่สุด
แต่หลังจากนั้น 3 สัปดาห์ การติดต่อทางวิทยุก็หายไป ส่วนเรือของเขาก็ถูกพบอีกครั้งหลังจากนั้น 10 เดือน ลอยเคว้งอยู่นอกชายฝั่งไอร์แลนด์ แต่ไม่มีร่างของ Bas Jan Ader อยู่บนเรือ
บางคนเชื่อว่านี่คือผลงานศิลปะชิ้นสุดท้ายของเขา “การฆ่าตัวตายที่น่าเศร้า” ส่วนคนอีกบางกลุ่มก็เชื่อว่า เป็นเพราะเขาไม่เชี่ยวชาญด้านการเดินเรือมากพอ เขาอาจถูกคลื่นซัดตกเรือ จึงทำให้ไม่สามารถหาร่างของเขาได้พบ
9. The Lyuobov Orlova
เรือลำนี้ถูกอายัดเอาไว้ที่นิวฟันด์แลนด์ แคนาดา เมื่อปี 2010 ซึ่งเป็นเพราะไม่จ่ายหนี้สินเรือลำนี้จึงถูกกักเก็บเอาไว้ มันถูกล่ามเอาไว้ที่ท่าเรือโดมินิกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป 2 ปี เชือกที่ล่ามเอาไว้ก็ขาดทำให้เรือลำนี้ล่องลอยสู่มหาสมุทร จากนั้นทางรัฐบาลแคนาดาจึงปล่อยเรืออีกลำออกตามหา
นับตั้งแต่วันนั้น ก็มีรายงานเข้ามาว่าได้พบเรือลำดังกล่าวแต่ก็ยังไม่ทราบข้อมูลแน่ชัด บางคนบอกว่าในนั้นเต็มไปด้วยหนูที่กินเนื้อกันเอง ขณะที่บางคนที่ออกสำรวจก็พูดว่ามันได้อับปางไปแล้ว หรือบางทีเรือผีสิงลำนี้ อาจจะยังลอยอยู่ที่ไหนสักแห่ง และลอยไปอย่างไร้จุดหมายก็เป็นได้
10. The SS Baychimo
เรือ The SS Baychimo เป็นเรือขนส่งสินค้าที่ล่องมาติดก้อนน้ำแข็งอยู่บริเวณนอกชายฝั่งแวนคูเวอร์ แคนาดา ในปี 1931 ลูกเรือพากันทิ้งเรือและออกมาหาที่ปลอดภัยภายในเมือง เพื่อรอให้น้ำแข็งละลาย
แต่หลังจากนั้น 2 วัน เรือลำนี้กลับหลุดออกมาจากก้อนน้ำแข็งและลอยเคว้งอยู่ เมื่อพายุพัดเข้ามา เรือลำนี้ก็ลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย มันลอยออกไปราว 72 กิโลเมตร จนมีพรานคนหนึ่งได้พบมันเข้า
เมื่อพบ เหล่าลูกเรือจึงกลับไปที่เรือของตนเองอีกครั้ง และนั่นทำให้พบว่าเรือของพวกเขาได้รับความเสียหายรุนแรง พวกเขาจึงพยายามกอบกู้สินค้าขึ้นมาให้ได้บางส่วน และจำต้องทิ้งเรือลำนี้ให้อับปางไป
แต่ 23 ปีให้หลัง มีนักล่องเรือจำนวนหนึ่งรายงานว่าพบเรือลำนี้ลอยอยู่รอบๆ มหาสมุทรอาร์กติก ผู้พบเห็นครั้งสุดท้ายคือในปี 1969 แต่สุดท้ายแล้วเรือลำนี้อับปางหรือไม่ ก็อยู่ที่ว่าคุณเชื่อแบบไหน
11. The Ourang Medan
เรือลำนี้เรียกได้ว่าน่ากลัวที่สุดเลยก็ว่าได้ ในปี 1947 The Ourang Medan ได้ออกจากประเทศจีนไปสู่เปอร์โตริโก จากนั้นมันหายตัวไป
แต่ภายหลังในปีเดียวกันนั้นเอง เรือหลายลำบริเวณนอกชายฝั่งอินโดนีเซียที่เข้าไปสำรวจเรือลำนี้ รายงานเข้ามาว่า ทุกคนบนเรือได้ตายหมด กัปตันเองก็ตาย และอีกไม่กี่นาที่ต่อมาก็มีเสียงพูดต่อมาว่า “ฉันตาย”
เมื่อเป็นเช่นนี้ เรือลำนี้จึงถูกดึงเข้าฝั่ง แต่เรือลำนี้กลับระเบิดออกมาและอับปางลง แต่ที่น่าสนใจคือ ไม่มีใครพบเห็นซากของเรือลำนี้อีกเลย
มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ยังมีหลายสิ่งที่เป็นปริศนาและยังไม่ถูกค้นพบ ที่เรือทั้งหลายต้องมีจุดจบแบบนี้ ก็อาจจะเป็นเพราะสิ่งลี้ลับในมหาสมุทรนั่นเอง
ที่มา: thechive
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.