รอยฟกช้ำ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องเคยประสบกับตัวเอง อาจจะเกิดจากอุบัติเหตุเล็กๆ น้อย ที่ทำให้เกิดอาการฟกช้ำบนผิวหนัง สีม่วงบ้าง สีเขียวบ้าง แต่บางครั้งสาเหตุมันก็ไม่ได้มาจากอุบัติเหตุ แต่เป็น 7 สาเหตุดังนี้
1. การยกของหนัก
การยกของหนักก็เป็นหนึ่งสาเหตุในการเกิดรอยช้ำได้ ซึ่งที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าเส้นเลือดของคุณอาจจะมีความอ่อนแอ เมื่อออกแรงยกน้ำหนักมากเกินไปก็อาจจะทำให้ช้ำได้ แต่รอยช้ำที่เกิดนี้ไม่ค่อยเป็นอันตรายมากนัก เวลาจะยกของหนักก็ระมัดระวังกันด้วยนะ
2. การทานยา
ยาบางส่วนอาจมีฤทธิ์ต่อเส้นเลือด อย่างเช่น แอสไพริน เป็นเหตุทำให้เกิดอาการฟกช้ำเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าหากว่าทานแล้วมีอาการฟกช้ำมากเกินไปควรพบแพทย์
3. โรคเลือด
สำหรับคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับเลือดมักจะมีปัญหามีรอยฟกช้ำบ่อยครั้ง ถ้าเกิดว่าคุณมีอาการปวด บวม เลือดออกตามไรฟัน มีจุดห้อเลือดหรือเลือดคั่งบ่อยๆ ล่ะก็ควรปรึกษาแพทย์โดยด่วน
4. ขาดสารอาหาร
ถ้าคุณมักจะเกิดรอยฟกช้ำบ่อยๆ ล่ะก็คุณอาจจะกำลังขาดวิตามินอยู่ก็ได้นะ วิตามินที่คุณควรจะหามาเสริมก็คือพวกวิตามินบี 12 วิตามิน เค และวิตามิน ซี แหล่งอาหารที่พบ วิตามิน บี 12 คือ ตับ ไต นม ไข่แดง ชีส ปลา เนื้อหมู เนื้อวัว วิตามิน เค กล้วย ไข่ถั่ว และปลา วิตามิน ซี ก็จำพวกผลไม้อย่างเช่น ส้มและฝรั่ง
5. ความไม่สมดุลของฮอร์โมน
ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญของรอยฟกช้ำ ส่วนมากมักเกิดในเพศหญิงวัยหมดประจำเดือนที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำลงทำให้หลอดเลือด เส้นเลือดฝอยเปราะบางและแตกง่าย
6. อายุที่เปลี่ยนแปลงไป
อายุเปลี่ยนไป ร่างกายก็ย่อมเสื่อมลงไปตามกาลเวลา หลอดเลือดของคุณก็เช่นกัน ไม่แปลกที่ยิ่งอายุเพิ่มขึ้นคุณจะเห็ยรอยฟกช้ำบนผิวหนัง โดยเฉพาะขาเพิ่มขึ้น
7. โรคเบาหวาน
โรคเบาหวานส่งผลโดยตรงต่อระบบไหลเวียนโลหิต ผู้ป่วยโรคเบาหวานจึงมักจะมีรอยฟกช้ำได้ง่ายในระยะเริ่มต้น ถ้าเกิดว่าคุณมีอาการอย่างเช่น แผลหายช้า กระหายน้ำบ่อยๆ เหนื่อยง่ายควรพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเพื่อที่จะได้รักษาอย่างทันท่วงที
โดยปกติแล้วรอยฟกช้ำที่เกิดขึ้นมักจะหายได้เองภายใน 2 สัปดาห์ แต่ถ้ารอยฟกช้ำของคุณไม่หายภายใน 2 สัปดาห์ควรไปหาแพทย์วินิจฉัยหาอาการดีกว่านะ
ที่มา brightside
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.