เคยเป็นกันบ้างไหมที่เวลาให้เงินแก่คนรู้จักยืม แล้วพอถึงเวลานัดจ่ายหนี้กับโดนเบี้ยวแถมทวงยังไงก็ไม่มีวี่แววจะได้คืน สิ่งเหล่านี้มันช่างเป็นอะไรที่เจ็บปวดหัวใจมากจริงๆ สำหรับเจ้าหนี้ทั้งหลาย เพราะเงินก็เงินเราแถมยังต้องไปทวงเช้าทวงเย็นเป็นงานเป็นการไปซะอีก
และเมื่อถึงขีดสุดแล้ว เจ้าหนี้หลายคนก็สรรหาวิธีแก้เผ็ดเหล่าคนเหนียวหนี้ด้วยวิธีต่างๆ นานา ซึ่งก็ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง แต่ถ้าคุณลองเอาวิธีนี้ไปใช้ล่ะก็ ไม่แน่นะว่าคุณอาจจะได้เงินคืนอย่างไวเลยก็ได้ เพราะใครจะไปทนขายหน้าโดนประจานเอาชื่อขึ้นจอภาพยนตร์ได้แบบนี้กันล่ะ!!
สำหรับเรื่องการแก้เผ็ดที่ว่านี้เกิดขึ้นที่เขต Hejiang มณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดยเจ้าหน้าที่ทางการจะนำรูปภาพใบหน้าและชื่อของลูกหนี้ที่เบี้ยวชำระเงินตามที่นัดเอาไว้ มาทำเป็นวิดีโอสั้นๆ ฉายก่อนที่ภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์จะเริ่มขึ้น เพื่อให้เหล่าลูกหนี้รู้สึกอับอายและนำเงินมาคืนโดยเร็ว
ซึ่งการทำอย่างนี้พวกเขาเรียกว่า “Reel of Shame” และภายในคลิปนอกจากข้อมูลต่างๆ ของลูกหนีเแล้ว ก่อนที่จะเริ่มก็จะมีตัวการ์ตูนอนิเมชั่นน่ารักๆ ออกมาส่งเสียงเรียกให้ผู้เข้าชมภาพยนตร์มาดูรายละเอียดของลูกหนี้เหล่านี้ เพื่อเป็นการประจานให้ได้รู้โดยทั่วกันนั่นเอง
“การประจานในที่สาธารณะอย่างนี้เป็นกลยุทธ์เพื่อใช้ลงโทษพวกคนที่เบี้ยวหนี้ไม่มาชำระให้ตรงเวลา และนอกจากนี้ก็ยังมีวิธีอื่นๆ อีก อย่างการขึ้นทะเบียนแบล๊คลิส รวมถึงจำกัดการท่องเที่ยวด้วย”
“สำหรับผู้ที่เข้าชมภาพยนตร์จะเห็นได้ถึงชื่อเสียงเรียงนามของเหล่าคนเหนียวหนี้ ว่ามีใครบ้างแล้วยิ่งเป็นพื้นที่แบบโลคอลอย่างนี้ด้วยแล้ว มันจะทำให้พวกเขาอับอายมากซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เราคาดว่าการเก็บหนี้ของเราจะมีประสิทธิภาพที่มากขึ้น” Li Qiang ผู้กำกับการใช้อำนาจศาลของเขต Hejiang กล่าว
วิดีโอการทวงหนี้แบบอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี
วิดีโอการประจานในโรงภาพยนตร์นี้ ได้กลายเป็นกระแสไวรัลบนโลกอินเทอร์เน็ตของประเทศจีนในเวลาอันรวดเร็ว แต่ว่าก่อนหน้านี้ประเทศจีนก็เคยใช้วิธีการประจานในที่สาธารณะมาก่อนแล้ว
อย่างเมื่อปีที่แล้วรัฐบาลก็ใช้ข้อมูลจากฐานทะเบียนราษฎร์นำข้อมูลต่างๆ อย่าง ชื่อ เลขประจำตัวประชาชน รูปถ่าย ที่อยู่บ้าน เผยแพร่ออกในช่องทางสื่อต่างๆ เพื่อจะเก็บหนี้ให้จนได้
ถึงแม้ว่าวิธีนี้จะดูเป็นวิธีที่ดูจะได้ผลเป็นอย่างดี แต่ว่าบางคนก็ยังเป็นห่วงถึงเรื่องข้อมูลความเป็นส่วนตัวของพวกเขาอยู่ เพราะว่าการประจานอย่างนี้อาจเป็นช่องทางให้กับเหล่ามิจฉาชีพเอาข้อมูลไปใช้จนเป็นอันตรายอย่างไม่รู้ตัวได้นั่นเอง
อายยันลูกเลยทีเดียว
ที่มา: odditycentral
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.