ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาในวงการอินเทอร์เน็ตต่างประเทศได้มีเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งกลายเป็นกระแสพูดคุยกันอย่างแพร่หลาย และหลายเป็นประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก
เธอคือเด็กสาววัย 9 ขวบผู้ใช้ชื่อในวงการออนไลน์ว่า Lil Tay และมีชื่อเสียงจากการออกวิดีโอทำตัวเป็นคนรวยเสเพล ขว้างปาเงินทิ้ง อวดของแบรนด์เนม บ้าน และรถราคาแพงด้วยการใช้ถ้อยคำเสียดสี รุนแรง และไม่เหมาะสม
วิดีโอของเธอนั้นมีคนเข้าไปดูมากกว่าหนึ่งล้านครั้ง และมีผู้ติดตามใน Instagram อีกเป็นจำนวนมาก แต่แม้ว่าจะมีผู้ติดตามมากมาย แต่คนส่วนมากกลับออกมาให้ความเห็นต่อการกระทำของเธอในแง่ลบ
หนึ่งในความเห็นนั้นรุนแรงจนถึงขั้นที่บอกว่า “สูติบัตรของเธอควรเป็นจดหมายขอโทษจากบริษัทถุงยางอนามัย” เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามการกระทำของเด็กสาวนั้นมีจุดที่ดูขัดๆ ในสายตาของหลายๆ คน จนทำให้มีแนวคิดที่ว่าการกระทำของเธอนั้น ทั้งหมดเป็นเพียงการแสดง ที่ถูกกำกับโดยแม่ของเธอ Angela Tian และ Jason Tian พี่ชายวัย 16 ปีเท่านั้น
Diomi Cordero ตัวแทนของครอบครัว Tian ออกมาบอกว่า Jason นั้นเป็น “ผู้บงการ” ที่อยู่เบื้องหลัง Lil Tay และพี่น้องทั้งคู่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกัน นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตที่ออกมาเปิดเผยวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่า Jason กำลังฝึกซ้อมน้องสาวของเขาอีกด้วย
คลิปวิดีโอที่ว่าจากผู้ใช้ทวิตเตอร์ @KEEMSTAR
Lil Tay being coached what to say by her brother… SAD! pic.twitter.com/lJi7o2AXnp
— KEEM 🍿 (@KEEMSTAR) May 21, 2018
แนวคิดที่ว่านี้ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ อย่างหนักจากชาวเน็ตต่อครอบครัวของเธอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบังคับให้เด็กต้องเสียคนเพียงเพื่อเงินที่ครอบครัวจะได้รับ หรือข้อสงสัยที่ว่าทางครอบครัวบังคับให้เด็กสาวต้องลาออกจากโรงเรียนเพื่อเป็นเน็ตไอดอล
อย่างไรก็ตามล่าสุดทาง Lil Tay และคุณแม่ของเธอ Angela Tian ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับ ABC News และนิตยสาร Maclean ของแคนาดาว่า ไม่ได้มีใครบังคับให้ Lil Tay ทำวิดีโอทั้งสิ้น วิดีโอที่ออกมาทั้งหมดล้วนแต่เป็นความตั้งใจของตัวเธอจริงๆ และเธอมีความสุขกับสิ่งที่เธอทำอยู่แล้ว
นอกจากนี้ทางนิตยสารยังมีการรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า Lil Tay นั้นมีการเรียนหนังสือแบบโฮมสคูล ไม่ได้ลาออกจากโรงเรียนตามที่มีข่าวลือแต่อย่างใด ส่วน Angela Tian ผู้เป็นแม่ก็ได้ยืนยันว่าเธอนั้นไม่เคยคิดที่จะบังคับลูกสาวให้ทำอะไรที่ไม่อยากทำแน่นอน และพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเธอไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม
อย่างไรก็ตามการออกมาให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้มีจุดที่ขัดกับหลักฐานที่ชาวเน็ตหามาได้ในหลายๆ ส่วนอยู่ ดังนั้นจึงมีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยที่ออกมาบอกว่าการให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ไม่น่าเชื่อถือเป็นอย่างยิ่ง
และนั่นทำให้เรื่องราวของ Lil Tay ยังคงเป็นประเด็นดราม่าที่ถกเถียงกันไม่รู้จบของโลกโซเชียลในขณะนี้ แต่ความจริงของเรื่องราวจะเป็นเช่นไรนั้น ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิด
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.