ในวัยเรียนสมัยละอ่อนน้อย สิ่งที่ปรารถนาที่สุดสำหรับเด็กๆ ก็คือการได้ออกไปทัศนศึกษานอกโรงเรียน เหมือนกับการได้ไปเที่ยวที่ใหม่ๆ พร้อมกับเพื่อนเสียมากกว่าการไปหาความรู้นอกสถานที่ ฮร่าาาา
และเป็นที่รู้กันดีว่าเด็กน้อยที่ได้ออกมาข้างนอก มักจะลุกลี้ลุกลนซนยิ่งกว่าลิงค่าง ซึ่งชะตากรรมของคุณพ่อ Simon Smith รายนี้ ที่ดันตกปากรับอาสามาช่วยคุมลูกและเด็กๆ อีก 59 ชีวิตไปทัศนศึกษาครั้งนี้ คงเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิต
ในช่วงก่อนที่จะเดินทาง คุณพ่อ Simon นั้นอาสาอยากจะช่วยคุมลูกสาวออกไปศึกษาหาความรู้ ณ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ และจะต้องช่วยคุณครูคุมเด็กอีก 59 คน รวมทั้งห้องเป็น 60 คน
เขาถึงกับต้องรายงานสดผ่านทวิตเตอร์ว่าสภาพอันทุลักทุเลตลอดทริปเป็นอย่างไร กว่าจะรอดชีวิตในวันนั้นมาได้ ถึงกับกราบใจคุณครูเลยทีเดียว…
เริ่มต้นการรายงาน 8.40 น. ได้งานเสี่ยงตายมาแล้ว ห้ามถ่ายรูป และเรากำลังจะไปพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์!!
8.47 น. เด็กๆ กำลังไปเข้าห้องน้ำ ทั้งๆ ที่ดูแล้วไม่มีใครอยากเข้าเลย…
กลับมารวมตัวแยกกลุ่ม โอเคมีเด็ก 6 คนที่ต้องรับผิดชอบ หนึ่งในนั้นเรียกผมว่า “Bruv”
แถมยังได้มานั่งข้างสหายเรียกชื่อ Bruv อีกต่างหาก แล้วเจ้าหนูนี่ก็ประกาศชัดด้วยว่าเขาเมารถ
ออกเดินทางมาได้แค่ครึ่งไมล์ มีเด็กอยากเข้าห้องน้ำแล้ว 3 คน…
ครบ 1 ไมล์ อาหารเที่ยงพร่องไปเกือบหมดแล้ว และอีกประมาณ 30% ของเด็กในกลุ่มอยากจะเข้าห้องน้ำเหลือเกิน
และแล้วฝันร้ายก็เริ่มต้นขึ้น ‘กลิ่นตด’ เริ่มรุกรานจมูก
โอ้ พระเจ้า เด็กพวกนี้มันกลืนอะไรลงท้องไปฟะเนี่ยยยยย!?
ขนาดยังไปไม่ถึง 1 ใน 3 ของทริปนี้ อยากจะกระโดดทิ้งตัวออกนอกหน้าต่างรถบัส แล้วกลิ้งตัวลงบนถนนแล้ว
กลิ่นตดที่เพิ่มพูนมากขึ้น ทั้งกลุ่มเริ่มมีการใส่ร้ายป้ายสีใส่เด็กชายคนหนึ่ง
ถ้ากลิ่นเหม็นหืนนี้เป็นฝีมือของเด็กชายแค่คนเดียว เปรียบได้เหมือนที่เก็บศพจากยุคกลางเลยนะ
ร้องไห้แล้ววววว เด็กหญิงคนหนึ่งร้องไห้ก็เพราะกลิ่นตด…
ลูกสาวผมส่งสายตามา ดูอาฆาตสุดๆ มั่นใจได้เลยว่าลูกกำลังทำปากบอก ‘พ่อน่าเกลียดมาก’ ใส่ผม
มีบางคนใกล้จะอ้วกแตกแล้วโว้ยยยยย…
ถุงอาเจียนต้องเตรียมพร้อม!!
เขาว่าอาสามาร่วมทริปทัศนศึกษาดูสิ น่าสนุกดีออก เขาว่างั้นนะ…
และสิ่งที่เด็กๆ ชอบซุบซิบกันระหว่างทาง ‘ใกล้จะถึงยังอ่ะ’ ‘ราชินีอยู่ในนี้ป่าว (ทุกตึกใหญ่ๆ)’ ‘ทำไมทุกคนไม่รวย’ ‘พ่อตรูเคยเจอ Nirvana ครั้งนึงแน่ะ’ ‘ทำไมถึงมีคนเยอะจัง’
คุณพ่อตอบได้แค่ในใจ ‘ยังลูก ยังไม่ใกล้เคียงที่หมายเลยสักนิดเดียว’
และแล้วก็ผ่านย่านร้านค้า
เด็กๆ เห็นร้าน McDonald’s แล้วก็ส่งเสียงเชียร์กันยกใหญ่ นี่เสียสติกันไปแล้วเรอะ!?
เพิ่งจะจอดได้แป๊บเดียว หนึ่งในกลุ่มมีอาการเวียนหัวไปเรียบร้อย
ให้ตายสิ เพิ่งจะเดินขึ้นบันไดมาได้ 3 ชั้นพร้อมกับเด็กสิบขวบ 60 คน เหมือนแม่มได้กลับไปอยู่ในกองทัพ
สู้ๆ ลู๊กกกกกก จะไม่มีใครถูกทิ้งไว้เป็นเบื้องหลังเด็ดขาด (ฟีลทหารกลางสนามรบก็มา)
และแล้วก็มานั่งแช่รอบนโซฟา กับพวกเด็กๆ 10 ขวบ 60 คน
มาดูเด็กๆ โดนแช่แข็ง เอ๊ย ดูเกล็ดน้ำแข็งกันเถอะ เด็กๆ
เด็กๆ เริ่มซุบซิบอีกครั้ง หิวข้าวจัง หิวน้ำด้วย ถ้าตกลงไปจะตายมั้ย ลืมเอาข้าวเที่ยงมาอ่ะ และ บางทีตอนฉันอึก็มีถั่วติดอยู่ในนั้นด้วย…
เมียถึงกับทักแชทมาถามว่า ยังสบายดีอยู่มั้ย บอกเลยว่าพังตั้งแต่ 8 โมงเช้า เจอทั้งอ้วก ทั้งเสียงร้องไห้ เด็กหลงกลุ่ม พร้อมกับเสียงบ่นเจ็บส้น เจ็บขา บ่นวนทั้งวันเป็นล้านรอบ
เด็ก 10 ขวบ 7 คนวิ่งไล่กันในร้านของที่ระลึก เหมือนส่วนผสมระหว่างรายการ Crytal Maze (เกมโชว์เขาวงกต) กับหนังเรื่อง Die Hard เลย
2 คนในกลุ่มของผมน้ำตาแตกเพราะเจ็บเท้า
ลูกสาวของผมหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเมื่อผมหันไปสบตา
อ้วกกองสุดท้ายก่อให้เกิดปฏิกริยาลูกโซ่ เด็กคนอื่นๆ ก็อ้วกตาม ร้องไห้อีกบานเบอะ
แค่นี้แหละ พอ จบ ตรูไม่ไหวแล้ว
และจะไม่มีครั้งหน้าอีกต่อไป
ไม่อีก ไม่อีกเลยยยยยยย
กราบเรียนครูและครูผู้ช่วย คุณได้รับความนับถือจากผมเป็นอย่างสูง ผมได้ร่วมเป็นสักขีพยานและรับรู้ประสบการณ์อันสุดยอดในวันนี้
ที่มา : @simonfromharlow, boredpanda
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.