‘แมวแก่’ ถูกกล่าวหาว่า ‘ก้าวร้าวเกินไป’ แต่คู่รักก็ยังยืนยันจะรับไปเลี้ยง

เมื่อ Allisyn Nguyen และแฟนหนุ่ม Alvin เข้าอยู่ในอพาร์ตเมนต์ด้วยกัน ทั้งคู่ตัดสินใจที่จะรับเลี้ยงสัตว์ และพวกเขาเลือกที่จะเลี้ยงสุนัข

แต่เมื่อพวกเขาเข้าไปเยี่ยมชมศูนย์พักพิงสัตว์ Baldwin Park Shelter ในแคลิฟอร์เนียเมื่อเดือนที่แล้ว แผนที่วางไว้ก็เปลี่ยนไปทันที

นั่นเป็นเพราะพวกเขาไปเจอกับ Kya แมวแก่วัย 10 ปี ซึ่งเป็นที่ดึงดูดความสนใจของ Nguyen เป็นอย่างมาก

หญิงสาวเล่าว่า “มันส่งเสียงร้องเมี๊ยวๆ มันร้องอย่างสุดเสียง จนกระทั่งฉันหันไปมองมัน มันอยู่ในกรงแถวล่างสุด ฉันเลยคุกเข่าลงเพื่อทักทายมัน จากนั้นมันก็เข้าหาฉัน โดยการเอาหัวถูกกับกรง ฉันจึงสามารถจับและลูบมันได้”

Nguyen พูดกับ Alvin ว่า “ฉันชอบมันจริงๆ นี่เป็นแมวเพียงตัวเดียวที่ฉันชอบเลยล่ะ” ว่าแล้วเธอก็ตัดสินใจรับเลี้ยงมัน และเมื่อเดินไปติดต่อเจ้าหน้าที่ของศูนย์ ทุกคนดูแปลกใจมาก

พวกเขาบอกหญิงสาวว่า “ไม่หรอก เธอไม่ต้องการแมวตัวนี้หรอก เชื่อสิ เพราะตอนที่มันเข้ามาในนี้ครั้งแรก มันพยายามข่วนเจ้าหน้าที่ทุกคน จนเราต้องให้มันอยู่แยกต่างหาก” 

พวกเขายังบอกอีกว่า Kya มีนิสัยก้าวร้าวมากๆ ขนาด Nguyen จะเข้าไปเล่นกับมัน เจ้าหน้าที่ยังต้องให้เซ็นหนังสือยอมก่อนเลย

แต่สิ่งที่เจ้าหน้าที่บอกมาทั้งหมดนั้นไม่ได้ทำให้ Nguyen เปลี่ยนใจแม้แต่นิดเดียว ยิ่งเธอรู้มาว่ามันถูกเจ้าของเดิมทิ้งมา เธอก็ยิ่งอยากเปลี่ยนแปลงชีวิตมันให้ดีขึ้น

Nguyen บอกว่า “สถานการณ์นี้ทำให้ฉันรู้สึกเศร้ามาก มันอาจจะแค่กลัวเพราะมันต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่”

ในที่สุด คู่รักก็ตัดสินใจรับเลี้ยง Kya โดยไม่ฟังคำเตือนของเจ้าหน้าที่ และพาเจ้าเหมียวกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในบ้านของพวกเขา

ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในบ้าน เจ้าเหมียวไม่ได้แสดงกิริยาก้าวร้าวใดๆ มันอาจจะหงุดหงิดบ้างเวลาเหนื่อย แต่นอกเหนือจากนั้น มันเป็นแมวที่อ่อนโยนและน่ารักมากๆ

แม้ว่าหญิงสาวไม่เคยเลี้ยงแมวก่อน แต่เธอรู้สึกรักแมวตัวนี้มาก บางครั้งเจ้าเหมียวจะเดินมาอยู่ข้างๆ เพื่อให้เธอลูบหัวให้ จากนั้นมันก็ส่งเสียงร้องที่บ่งบอกว่ามีความสุขออกมา

กลางคืนเวลานอน เจ้าเหมียวกระโดดขึ้นมานอนบนตัวหญิงสาว และเมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เธอก็จะเห็นมันนอนหลับอยู่บนท้องของเธอ

การเลี้ยงแมวไม่ใช่ความตั้งใจของ Nguyen กับแฟนหนุ่มตั้งแต่แรก แต่พวกเขาไม่เคยรู้สึกผิดเลยที่รับ Kya มาเลี้ยง แถมยังรู้สึกว่ามันเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่าด้วยซ้ำ

ที่มา thedodo