ขายคลาสสิก Ferrari รุ่นเก๋า กลายเป็นรถที่มีราคาแพงมากที่สุดในโลก กว่า 2 พันล้านบาท!!

เพื่อนๆ อาจเคยสงสัยว่ารถที่มีราคาแพงที่สุดในโลกนั้นจะมีราคาอยู่ที่เท่าไหร่? วันนี้ #เหมียวตะปู จึงนำคำตอบมาให้กับเพื่อนๆ ทุกคน และให้ได้ชมรถคันนั้นไปพร้อมๆ กันเลย

เจ้านี่คือรถ Ferrari สุดคลาสสิกที่มีชื่อว่า 4153 GT ซึ่งปัจจุบันมันได้ถูกบันทึกว่าเป็นรถที่มีราคาแพงมากที่สุดในโลก ถูกซื้อไปด้วยเงินจำนวนกว่า 52 ล้านปอนด์ หรือมากกว่า 2 พันล้านบาท!!

 

4153 GT รถที่ได้ชื่อว่ามีราคาแพงมากที่สุดในโลก

 

นี่คือรถ Ferrari รุ่น 250 GTO ที่ถูกผลิตขึ้นมาในปี 1963 โมเดล The Holy Grail เครื่องยนต์ V12 มีค่าแรงม้ามากกว่า 300 bhp เร่งจาก 0-96 กม./ชม. ได้ใน 6.1 วินาที ความเร็วสูงสุดมากกว่า 280 กม./ชม.

รถรุ่นเดียวกันนี้ถูกผลิตออกมาเพียงแค่ 36 คัน ในช่วงปี 1962-1964

 

 

แต่ความพิเศษที่มีอยู่กับเฉพาะรถคันนี้เพียงคันเดียวก็คือ มันเป็นรถที่เคยคว้าชัยในการแข่งขัน Tour de France Automobile ในปี 1964 ซึ่งถือว่าเป็นการแข่งขันแห่งประวัติศาสตร์ระดับโลก

ในการแข่งขันนั้น ทีมที่เป็นเจ้าของรถคันนี้มีชื่อว่า Ecurie Francorchamps ซึ่งสามารถชนะการแข่งขันไปได้ โดยที่ตัวรถยังคงสภาพเอาไว้ ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ ที่รุนแรงเลย

ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะมันยังเคยได้เป็นถึงอันดับที่ 4 ในการแข่งขัน Le Mans แถมยังผ่านมาทุกรูปแบบสนาม ไม่ว่าจะเป็นขึ้นเขา ลงดอย สนามแข่ง หรือแม้แต่ขับทางไกล

 

 

นั่นจึงทำให้มันถูกนำออกไปโชว์ตัวในหลายๆ อีเว้นท์ทั่วโลกมาโดยตลอด และยังได้รับการบูรณะซ่อมแซมฟื้นฟูเครื่องยนต์ในช่วงปี 1990s

เจ้า 4153 GT นี้จึงได้รับการรับรองจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถว่ามันเป็น 1 ใน 3 หรือ 4 ของรถ GTO ที่ดีที่สุดในโลกคันหนึ่งเลย เหมาะทั้งสำหรับการแข่งขันและการขับบนท้องถนน

 

 

ด้วยความที่มันหายากและมีประวัติมาอย่างยาวนาน ยิ่งใหญ่ไม่เหมือนใคร ทำให้นักธุรกิจชาวอเมริกันเกิดความสนใจและซื้อมันไปในราคากว่า 2 พันล้านบาท และเป็นรถที่มีราคาแพงที่สุดในโลกมาจนถึงปัจจุบัน

Marcel Massini ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของรถ Ferrari ยังคาดการณ์อีกว่า รถคันนี้อาจมีราคาพุ่งสูงกว่า 3 พันล้านบาทได้ ในระยะเวลาเพียงแค่ 5 ปีหลังจากนี้

 

Ferrari 335 โมเดล Sport Scaglietti รถที่เคยได้รับฉายาว่าแพงที่สุดในโลก หลังขายไปในราคากว่า 1 พันล้านบาท ในปี 2016

 

เรียกว่าขายรถคันเดียวนี่อยู่สบายไป 2 ชั่วอายุคนเลยนะนั่น

ลองเอารถที่บ้านไปขาย จะได้ราคานี้บ้างมั้ยน้า

 

ที่มา: mirror

Comments

Leave a Reply