ในบริบทของการทำงานในบริษัทหรือว่าองค์กรต่างๆ ความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นๆ นั้นเป็นสิ่งที่ควรมี โดยเฉพาะระหว่างตัวคุณกับหัวหน้าก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ควรรักษาเอาไว้ให้ดี
เพราะถึงแม้ว่าเราจะมีฝีมือและผลงานที่ยอดเยี่ยม แต่ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับผู้อื่นอาจทำให้เกิดอคติในตัวเราได้ โดยเฉพาะกับหัวหน้างานที่อาจมองว่าเราเป็นพนักงานที่ไม่รู้จักทีมเวิร์กและไม่รู้จักใช้ชีวิตในสังคม
วันนี้เราจึงอยากเสนอ 9 ประโยคที่ไม่ควรพูดอย่างแรง หากไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับหัวหน้า ไปดูพร้อมๆ กันเลยว่า มีประโยคไหนบ้าง และทำไมถึงไม่ควรพูด…
1. “ผมอยากได้เงินเดือนเพิ่ม เพราะผมต้องใช้มันสำหรับซ่อมแซมบ้าน”
การขอขึ้นเงินเดือนเป็นสิ่งที่ขอได้ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยาก หากคุณเอาเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวเพื่อขอให้เห็นใจนั่นจะยิ่งทำให้การขึ้นเงินเดือนเป็นไปได้ยาก หัวหน้าจะมองว่าให้เงินไปแล้วทางบริษัทจะได้อะไรเป็นการตอบแทน
ลองเปลี่ยนเป็นเอาความสามารถเข้าสู้ดีกว่า โชว์ผลงานที่เหมาะสมกับการขึ้นเงินเดือนให้หัวหน้าดูเพื่อพิจารณา แน่นอนว่าบริษัทไหนๆ ก็ย่อมอยากได้คนทำงานเก่ง
ฉะนั้นมันจะดีกว่าหากเปลี่ยนเป็นพูดว่า “ผมทำยอดการผลิตได้มากกว่าเดิมถึง 3 เท่าจากรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ผมจึงมาขอให้หัวหน้าพิจารณาขึ้นเงินเดือนครับ“
2. “ช่วงบ่ายผมขอกลับบ้านได้ไหมครับ? งานผมไม่มีอะไรให้ทำแล้ว”
เมื่อคุณทำงานจนครบเป้าหมายในแต่ละวันเรียบร้อยแล้ว คุณก็อาจจะอยากกลับบ้านไปพักผ่อน แต่คุณไม่ควรขอกับหัวหน้าตรงๆ แบบนั้น เพราะมันทำให้คุณกลายเป็นคนที่ไม่สนใจจะทำงาน แถมยังได้งานมาทำเพิ่มอีกด้วย
จะดีกว่าหากพูดว่า “ช่วงบ่ายผมขอกลับบ้านได้ไหมครับ?“ เฉยๆ โดยไม่ต้องบอกเหตุผล (แต่งานก็ต้องทำให้เสร็จก่อนนะ) พยายามอย่าพูดหรือแสดงความเบื่อหน่ายออกมา
3. “ทั้งหมดมันเป็นความผิดของนพพลต่างหากครับ”
การยอมรับความผิดโดยไม่ตัดสินผู้อื่นนั้นเป็นคุณสมบัติของผู้ที่มีวุฒิภาวะ คุณจะกลายเป็นคนที่น่าเชื่อถือและน่าเคารพ หรือหากมันเป็นความผิดของผู้อื่นจริงๆ มันก็จะมีวิธีพูดที่ดีกว่าการเจาะจงบอกว่าเป็นความผิดของใคร
มันจะดีกว่าหากเปลี่ยนเป็นพูดว่า “คุณพูดถูกแล้ว ผมพลาดรายละเอียดในส่วนนี้ไป จากนี้ผมจะระมัดระวังให้มากขึ้น งั้นเรามาลองแก้ไขกันแบบนี้ดีไหม…“
4. “ปกติเราทำกันแบบนี้ครับ”
คำพูดแบบนี้มันเหมือนกับการเปรียบเทียบว่าวิธีการของใครดีกว่ากัน หัวหน้าของงคุณจะมองว่าคุณเป็นคนขี้เกียจเปลี่ยนแปลง และเป็นคนที่ความคิดแคบ ไม่เปิดกว้าง
มันจะดีกว่าหากเปลี่ยนเป็นพูดว่า “ผมไม่คุ้นกับวิธีการที่คุณแนะนำสักเท่าไหร่ เกรงว่ามันจะทำให้การทำงานยากขึ้นนะครับ“
5. “ผมจะพยายาม”
คำนี้ฟังดูเหมือนว่าคุณไม่ได้ตั้งใจจะทำงานที่ได้รับมอบหมายมาให้สำเร็จ แถมเหมือนพูดเพื่อปัดความรับผิดชอบเมื่อคุณทำมันไม่สำเร็จอีกด้วย ฉะนั้นพยายามพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาถึงอุปสรรคของงานและความยากง่ายของงานก่อนที่จะลงมือทำ
ทางที่ดีหากไม่มั่นใจว่าจะสามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายมาได้ ให้เปลี่ยนเป็นพูดว่า “โอเค ผมจะทำมันให้ได้“ หรือ “มันต้องใช้เวลาครับ ตอนนี้ผมคงยังให้คำตอบไม่ได้ เราน่าจะรอให้ถึงวันศุกร์กันก่อน“
6. “ผมมีหลายงานที่ต้องทำนะครับหัวหน้า”
แน่นอนว่าคุณจะต้องมีเป้าหมายงานในแต่ละวัน แต่เมื่อหัวหน้าสั่งงานใหม่คุณ คุณก็ไม่ควรตอบเขาไปว่าคุณมีงานเยอะแล้ว คุณควรรู้จักจัดลำกับความสำคัญของแต่ละงาน
งานไหนที่คุณคิดว่าสำคัญมากกว่าคุณก็ควรบอกหัวหน้าไปตรงๆ เช่น “ผมก็กำลังทำโปรเจ็กต์ที่คุณให้ผมมาเมื่อวานเหมือนกัน ตอนนี้งานไหนสำคัญกว่าเหรอครับ? ผมจะได้ทำงานนั้นก่อน“
7. “มีรางวัลให้ผมหรือเปล่าครับ?”
คุณเป็นพนักงานทำงานแลกเงินอยู่แล้ว แต่ใช่ว่าการช่วยเหลือนิดๆ หน่อยๆ จะควรเข้าไปขอแลกเป็นเงินรางวัลเสมอไป บางครั้งการช่วยเหลือที่ไม่ได้ลำบากยากเข็ญมากนักก็ทำให้เขาฟรีๆ ก็ได้
บางครั้งถ้ามันไม่ได้ลำบากจริงๆ เมื่อหัวหน้ามาขอให้ช่วย คุณแค่ตอบ “ตกลงครับ“ ไปก็พอแล้ว
8. “มันไม่ใช่ปัญหาของผมนี่นา”
การทำงานร่วมทีมกับคนอื่นนั่นแปลว่าคุณได้ลงเรือลำเดียวกับคนอื่นแล้ว เมื่อมีปัญหาแล้วไม่ช่วยกันแก้มันก็จะส่งผลต่อบริษัทซึ่งก็จะกลายเป็นผลเสียต่อตัวคุณเองอยู่ดี หากคุณรู้วิธีแก้ปัญหา กรุณาอย่าอยู่เฉยๆ
ลองพูดง่ายๆ ว่า “ผมไม่ได้ชำนาญมาก แต่ว่าเราน่าจะมาลองแก้กันด้วยวิธีนี้ดูนะครับ…“
9. “อ้าว ผมนึกว่า…”
บอกเลยว่าหัวหน้าของคุณต้องถอนหายใจและมองบนแน่นอนเมื่อได้ยินคำว่า “อ้าว ก็นึกว่า…” คือมันก็ดีที่คุณมีความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ว่าถ้าอะไรบางอย่างมันไม่ชัดเจน คุณต้องทำให้มันชัดเจนก่อนลงมือทำงานนั้นๆ
อีกอย่างคือการยอมรับผิดเป็นสิ่งที่ควรมีติดตัวไว้เสมอ เมื่อเจอแบบนี้ ลองพูดว่า “ดูเหมือนว่าจะมีการเข้าใจผิดนะครับ ผมจะเอาไปแก้ไขและจะระมัดระวังให้มากกว่านี้ครับ“
แหม่ คำพูดนั้นสำคัญจริงๆ ใครอยากเติบโตทางการงานไวๆ ก็ควรอ่านแล้วนำไปใช้ รับรองว่าหัวหน้าจะต้องมองคุณเปลี่ยนไปแน่นอน
ที่มา: brightside
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.