เบื้องหลังฆาตกรคลั่ง ไล่แทงเหยื่อบนชิงคันเซ็น เคยถูกรังแกกลั่นแกล้ง ส่งผลถึงจิตใจ

เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง เมื่อมีชายรายหนึ่งเลือกก่อเหตุฆาตกรรมในสถานที่ปิดบนรถไฟหัวกระสุน ทำร้ายเหยื่อแบบไม่เลือกหน้า ไล่ล่าใช้อาวุธมีคมทำร้ายแบบสุ่ม เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา

Ichiro Kojima

ผู้ก่อเหตุในครั้งนี้คือนาย Ichiro Kojima ชายว่างงานวัย 22 ปี เลือกลงมือในเวลาประมาณ 21.50 น. บนรถไฟขบวน Nozomi หมายเลข 265 ตู้ที่ 12 เดินทางจากกรุงโตเกียวไปยังสถานีชินโอซาก้า ซึ่งมีผู้โดยสารทั้งหมด 880 คน พร้อมกับพกวัตถุมีคมหลากหลายชนิด

จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดคานางาวะ นาย Kojima ลงมือแทงเหยื่อผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาเป็นรายแรง ก่อนที่จะไล่แทงหญิงอีกรายที่นั่งอยู่อีกฝั่ง โดยเหยื่อทั้ง 2 รายอยู่ในวัย 20 ปี และนาย Kojima ก็ลงมือแทงนาย Kotaro Umeda ชายวัย 38 ปี ผู้ที่พยายามจะหยุดฆาตกรรายนี้

เหยื่อผู้หญิงสองรายได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยบริเวณศีรษะและไหล่ แต่นาย Umeda ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจากการถูกปาดคอ และเสียชีวิตในภายหลัง

เหตุวุ่นวายในครั้งนี้ ทำให้ขบวนรถไฟหัวกระสุนต้องจอดฉุกเฉินที่สถานี Odawara ในจังหวัดคานางาวะ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าประจำการอย่างหนาแน่นเพื่อทำการล้อมจับฆาตกร

ภายหลังการสอบสวน เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า นาย Kojima ยอมรับข้อกล่าวหา เลือกทำร้ายผู้คนเพราะรู้สึกเครียด เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายถูกเลือกขึ้นมาแบบสุ่ม และตัวเขาไม่รู้จักเหยื่อทั้ง 3 รายมาก่อน

เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายทั้ง 3 ราย ผู้หญิง 2 รายที่นั่งข้างนาย Kojima และนาย Umeda ชายผู้พยายามยับยั้งเหตุ

อย่างไรก็ตามคุณยายวัย 81 ปี ผู้เป็นญาติที่นาย Kojima เคยอาศัยอยู่ด้วย กล่าวว่าเขาเดินทางออกจากบ้านในเมืองโอกาซากิไปตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว

โดยที่เขาเคยอยู่กับครอบครัวในเมืองอิชิโนมิยะมาก่อน แต่แล้วก็ต้องออกจากโรงเรียนช่วง ม.ต้น เนื่องจากถูกรังแกอย่างหนัก เขาหนีออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 14 ปี และเข้าเรียน ม.ปลาย ภาคค่ำจากการหาเลี้ยงตัวเอง

พอเรียนจบ ม.ปลาย เขาก็มาอาศัยอยู่กับคุณยาย นาย Kojima เคยเข้ารับการรักษาอาการทางจิต (ไม่ได้รับการเปิดเผยว่าเป็นโรคใด) ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็เริ่มทำงานด้านซ่อมเครื่องจักรในเดือนเมษายน 2015 และออกจากงานในเดือนกุมภาพันธ์ 2016

ในระหว่างที่พักอาศัยอยู่กับคุณยาย เธอให้การว่าเขามักจะเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน อ่านหนังสือและเล่นอินเทอร์เน็ตแทบทั้งวัน และในระยะเวลา 6 เดือนต่อมาเขาก็ออกจากบ้านไป โดยให้เหตุผลเพียงแค่ว่า ‘จะออกไปเที่ยว’

“ฉันรู้สึกเป็นห่วงเขาอยู่ตลอดเวลา” คุณยายให้สัมภาษณ์กับทาง Japan Times ผ่านทางโทรศัพท์ในช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

โดยที่เธอพยายามโทรเข้าเบอร์มือถือของเขาอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว จนกระทั่งทราบข่าวว่าหลานชายกลายเป็นฆาตกรไปแล้ว

การรายงานข่าวจาก ANN NEWS

ที่มา: japantimes, kyodonews, bbc, mainichi