กลายเป็นที่ผู้พูดถึงกันอย่างมากเลยทีเดียวในตอนนี้ สำหรับประเด็นความหึงโหดเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในประเทศเวียดนาม
เมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่งที่อ้างว่าตัวเองว่าเป็นเมียหลวงลากตัวผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ที่เป็นชู้กับสามีของเธอออกมากลางถนน แล้วทำร้ายตบตีพร้อมกับเทน้ำปลาพร้อมพริกป่นลงใส่เนื้อตัวจนเป็นที่เวทนาอดสูแก่ผู้พบเห็น!!
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 22.00 ของวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ในจังหวัดทัญฮว้า ประเทศเวียดนาม เมื่อมีหญิงสาววัย 30 ปีชื่อว่า Giang Jun กำลังทำงานอยู่ในร้านสปาของเธอ แล้วจู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับกล่าวหาว่า Jun เป็นชู้กับสามีของเธอ
หลังจากนั้นไม่นานนักผู้หญิงคนดังกล่าวก็ลากตัว Jun ออกไปกลางถนนนอกร้าน พร้อมกับจับเจ้าของร้านสปาคนนี้แก้ผ้าออกจนหมดแล้วราดน้ำปลากับพริกป่นลงใส่ และเท่านั้นยังไม่พอยังมีการตบตีทำร้ายร่างกายจนเนื้อตัวบอบช้ำไปหมดอีกด้วย
โดยจากการสัมภาษณ์พยานชื่อว่า David Pam ก็ได้อ้างว่าผู้หญิงคนดังกล่าวกับสามีของเธอได้แต่งงานกันมาแล้วกว่า 10 ปีด้วยกัน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มผู้หญิงอีกด้วย
“มีผู้หญิงหลายคนที่ไม่ชอบจนแทบจะสาปแช่ง Jun เลย และผู้หญิงคนที่เป็นคนสร้างเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นก็บอกว่าเธอแต่งงานกับสามีมาแล้วกว่าเป็นสิบปี แต่เจ้าของร้านสปาคนนี้กลับมาทำลายชีวิตการแต่งงานของเธอลง”
“แถมตัวเหยื่อผู้ทำถูกกระทำก็ไม่ได้แสดงท่าทางต่อต้านแต่อย่างใด เธอยอมนั่งลงกับพื้นเฉยๆ และรับกรรมอย่างไม่ตอบโต้ ฉันคิดว่าเธอต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะการเผาไหม้ของผงพริกด้วย” Pam กล่าว
เหตุการณ์นี้ดำเนินไปท่ามกลางผู้คนมากมายที่อยู่ระหว่างสองข้างถนนนั้น จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาควบคุมเหตุการณ์ ซึ่งตัวผู้กระทำการดังกล่าวก็หนีไปทันที
Nguyen Chi Phuong หัวหน้าสถานีตำรวจในเมืองทัญฮว้า ได้กล่าวโทษผู้กระทำการทารุณและสาบานว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกับบอกอีกด้วยคนที่ทำผิดทุกคนอาจจะต้องเผชิญกับหลายข้อหาทั้งการทำร้ายร่างกายโดยเจตนากับสร้างความอับอายให้แก่ผู้อื่นด้วย
“ถ้าทั้งคู่ไม่มีความเสน่หาต่อกันแล้วก็ควรหย่ากันไป ไม่ใช่ทำร้ายร่างกายผู้อื่นและไม่ให้เกียรติกันถึงขนาดนี้” นายตำรวจ Phoung กล่าว
ในขณะนี้ Jun กำลังพักรักษาตัวเพื่อฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บอยู่ ซึ่งก็คาดว่าเธอคงจะหายเป็นปกติในเวลาอันใกล้นี้
ที่มา: nextshark
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.