มาดู! งานวิจัยทางสถิติเผย จำนวนครั้งของการ “มีเซ็กส์” ที่เหมาะสมกับช่วงอายุคุณ!

การมีเซ็กส์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตอย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะนั่นคือปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สิ่งมีชีวิตต้องกระทำเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ของตนเองให้อยู่รอด

อย่างไรก็ตาม เซ็กส์ ก็ยังคงเป็นปัญหาในสังคมมนุษย์อยู่อย่างต่อเนื่อง อาจจะด้วยสาเหตุที่ว่าคนเรามีพฤติกรรมการมีเซ็กส์ที่ไม่เหมาะสม แต่ถ้าหากคนเรารู้จักป้องกันตัวเองจากผลเสียที่จะตามมา การมีเซ็กส์ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว

วันนี้เราลองมาดูสถิติของ ผู้คนในแต่ละช่วงอายุ กันดีกว่า ว่าพวกเขามีเซ็กส์โดยเฉลี่ย บ่อยขนาดไหน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่า อายุอย่างเราๆ ควรมีเซ็กส์บ่อยครั้งเท่าไหร่ถึงจะอยู่ในค่าเฉลี่ยได้

 

 

ข้อมูลการศึกษาจากสถาบันวิจัยทางเพศ Kinsey Institute เผยว่าคนวัยรุ่นหนุ่มสาวใน ช่วงอายุ 18-29 ปี นั้นมีอัตราการมีเซ็กส์โดยเฉลี่ยบ่อยครั้งที่สุด นั่นคือ 112 ครั้งต่อปี หรือประมาณ 2 ครั้งต่อสัปดาห์

รองลงมาก็จะเป็น ช่วงอายุ 30-39 ปี ที่มีอัตราการมีเซ็กส์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 86 ครั้งต่อปี หรือเท่ากับราวๆ 1.6 ครั้งต่อสัปดาห์

และใน ช่วงวัย 40-49 ปี นั้นจะมีอัตราการมีเซ็กส์ลดลงมาเหลืออยู่ที่ 69 ครั้งต่อปี ถือว่าน้อยกว่ากลุ่มวัยรุ่น 18-29 ปีเกือบครึ่งเลยทีเดียว

 

 

อย่างไรก็ดี ผู้ที่อยู่ในวัย 40 อัปไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องของค่าสถิติไป เพราะจากการวิจัยพบว่า ช่วงวัยนี้เป็นวัยที่มีเซ็กส์ได้ดีที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 46 ปี

ถึงแม้จะมีจำนวนครั้งน้อยลง แต่ว่าการมีเซ็กส์เพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้งนั้นก็ดีพอให้ชื่นใจเสียยิ่งกว่าการมีเซ็กส์บ่อยๆ แบบช่วงวัยรุ่นอีกนะจะบอกให้ โดยเฉพาะเพศหญิงที่จะรู้สึกได้มากกว่าว่าเซ็กส์ในวัยนี้นั้นดีเยี่ยม

หลายๆ งานวิจัยได้เสนอเช่นกันว่า เพศหญิงในช่วงวัย 40 ปี จะมีร่างกายและทักษะการสื่อสารที่เหมาะสมกับการมีเซ็กส์มากที่สุด

 

 

เป็นอย่างไรกันบ้าง มีใครในที่นี้มี “บ่อย” เกินค่าเฉลี่ยกันบ้างอ๊ะเปล่า!??

ที่มา: kinseyinstitute และ thisisinsider via thechive

Comments

Leave a Reply