เมื่อเรารู้สึกว่าไม่สบาย มีความผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายของตัวเอง ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือการไปหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้พวกเขาอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น
Ginny Atchison คุณแม่วัย 45 ปี จากเมือง Norfolk ประเทศอังกฤษ เป็นหนึ่งคนที่เลือกจะไปพบแพทย์ แต่พวกเขากลับอธิบายไม่ได้ว่าเธอป่วยเป็นอะไร และหลังจากนั้นเธอก็ต้องสูญเสียความสามารถในการ “ถึงจุดสุดยอด”
Ginny คุณแม่ลูกหนึ่งผู้มีอาการป่วยดังกล่าว
อาการเจ็บป่วยของเธอเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2008 หลังจากที่เธอพบว่าตัวเองรู้สึกปวดหลังช่วงล่างอย่างไม่ทราบสาเหตุ โดยในตอนแรกนั้นเธอคิดว่าเป็นแค่พวกกล้ามเนื้อยึดทั่วๆ ไป
หลังจากผ่านไป 2 ปี อาการเจ็บดังกล่าวก็รุนแรงจนเธอทนไม่ไหว บวกกับมีอาการเหน็บชาเหมือนไฟดูดบริเวณขาทั้งสองข้าง Ginny จึงตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย Norfolk and Norwich
ในครั้งแรก แพทย์ไม่ได้ส่งตัวเธอไปเอ็กซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) แต่ก็บอกกับเธอว่าสิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นผลมาจากการที่กระดูกอ่อนบริเวณไขสันหลังมีการเคลื่อนตัว
ช่วงเวลานับปีหลังจากนั้น เธอจึงต้องใช้ชีวิตอยู่กับความเจ็บปวด ถูกส่งตัวไปทำกายภาพบำบัดโดยที่ไม่มีใครบอกได้อย่างแน่ชัดว่า สรุปแล้วเธอป่วยเป็นอะไรกันแน่
จนกระทั่งเดือนสิงหาคม 2011 เธอเล่าว่า “วันนั้นฉันกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องรับแขก แล้วจู่ๆ ก็คิดขึ้นมาว่าฉันต้องไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งฉันใช้เวลาอยู่ในนั้นนานมากๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน”
“ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่ว่าจะพยายามมากขนาดไหน ฉันกลับไม่สามารถปัสสาวะออกมาได้”
เธอและ Leo ลูกชาย
เช้าวันถัดมา Ginny จึงรีบตรงเข้าพบแพทย์ในทันที และเธอก็ถูกส่งตัวไปรับการทดสอบประสาทสัมผัส ผลปรากฏว่าบริเวณหว่างขาของเธอนั้นกลับไม่มีความรู้สึกใดๆ เลย
ด้วยเหตุนั้นเธอจึงถูกส่งตัวไปที่แผนกศัลยกรรมกระดูกของโรงพยาบาล จนในที่สุดแพทย์ก็พบว่าเธอนั้นป่วยเป็นโรคหายากที่ชื่อว่า Cauda Equina Syndrome (กลุ่มอาการรากประสาทหางม้า)
เมื่อเธอเข้ารับ MRI จึงพบว่าเส้นประสาทบริเวณกระดูกสันหลังของเธอได้รับความเสียหาย ซึ่งนั่นอาจทำให้เธอเดินไม่ได้ตลอดชีวิต
แต่โชคดีที่หลังจากการวินิจฉัยและผ่าตัดทำให้เธอยังคงสามารถเดินได้ตามปกติ แต่ต้องเป็นระยะทางที่ไม่ไกลมากเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม อาการป่วยดังกล่าวได้บีบให้เธอต้องลาออกจากงาน Ginny จำเป็นต้องใส่สายสวนทวารและช่องคลอดตลอดเวลา เพราะกระเพาะปัสสาวะและลำไส้ของเธอได้รับผลกระทบไปด้วย
สิ่งที่แย่ไปกว่านั้นคือ ตอนนี้เธอไม่เหลือความรู้สึกเรื่องเพศอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถกระตุ้นสิ่งๆ นั้น หรือว่าทำให้ตัวเองถึงจุดสุดยอดได้เลย
ปัญหาสุดท้ายอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก แต่เธอบอกว่ามันเป็นอะไรที่รุนแรงอย่างมาก ลองคิดดูว่าเธอคือคนที่เริ่มต้นการมีเพศสัมพันธ์มาตั้งแต่อายุ 16
และเมื่อเธอได้คบหากับใคร เธอก็จะมีอะไรกับเขาคนนั้น เหมือนกับเป็นสิ่งๆ หนึ่งที่ช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ของกันและกันเอาไว้
แม้ตอนนี้เธอจะโสด เลี้ยงลูกเพียงลำพัง แต่ความต้องการทางเพศก็ถือว่ามีความสำคัญกับเธออยู่ เพราะการที่สิ่งนี้ขาดหายไป มันจึงทำให้เธอไม่สามารถเริ่มต้นความสัมพันธ์กับใครใหม่ได้
Ginny พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้มันกลับคืนมา ทั้งกายภาพบำบัด ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือพยายามใช้เซ็กส์ทอยกระตุ้น แต่เธอก็ไม่รู้สึกอะไรเลย
เธอบอกว่าตัวเองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากกับอาการป่วยนี้ สิ่งหนึ่งที่น่าเจ็บใจมากที่สุดก็คือการที่แพทย์ต้องใช้เวลานานนับปีในการวินิจฉัยโรคของเธอ ทำให้ตอนนี้มันไม่มีโอกาสแก้ไขใดๆ ได้เลย
โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย Norfolk and Norwich
เพื่อแสดงความขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้น องค์กรบริการด้านสุขภาพประจำชาติของอังกฤษ (NHS) ซึ่งเป็นผู้รับรองมาตรฐานของโรงพยาบาลดังกล่าว ตัดสินใจมอบเงินทดแทนให้กว่า 65 ล้านบาท
นายแพทย์ Venu Harilal ผู้อำนวยการโรงพยาบาล บอกว่าความปลอดภัยของคนไข้คือสิ่งแรกที่พวกเขาคำนึงถึง และเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ถูกส่งไปตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ทุกคน เพื่อป้องกันไม่ให้มีการซ้ำรอย
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.